โรงแรมสนอาเซียน

สองเครือใหญ่หาช่องขยายลงทุนพม่าเวียดนามอินโดนีเซียเนื้อหอม

เครือโรงแรมยักษ์ใหญ่ไทย สนลงทุนอาเซียน ชี้ศึกษาเป้าหมายหลักพม่า เวียดนาม อินโดนีเซีย

นางสุพัตรา จิราธิวัฒน์ รองประธานอาวุโสฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และภาพลักษณ์ โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราเปิดเผยว่า กำลังศึกษาตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน โดยมองว่าเวียดนามและพม่าเป็นประเทศที่น่าเข้าไปลงทุน เนื่องจากเวียดนามสามารถพัฒนาระบบสาธารณูปโภคได้รวดเร็วกว่าประเทศอื่น และภาคการท่องเที่ยวเติบโตดี

ขณะที่พม่าเพิ่งเปิดประเทศได้ไม่นาน การท่องเที่ยวเติบโตอย่างมาก และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวสนใจเดินทางเข้าพม่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการที่นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้าไปลงทุนในพม่าอย่างมาก ทำให้ความต้องการห้องพัก การบริการเติบโตขึ้นตามไปด้วย

ปัจจุบันเครือเซ็นทารารับบริหารงานโรงแรมในอาเซียน ได้แก่ ในเวียดนาม3 แห่ง และบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย

ด้านนายชำนาญศิลป์ ชำนาญกิจ รองประธานกรรมการอาวุโส ฝ่ายการเงิน บริษัท ดุสิตธานี กล่าวว่า อาเซียนถือเป็นตลาดที่น่าสนใจมากสำหรับธุรกิจโรงแรม เพราะเศรษฐกิจเติบโตดี และเมื่อรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ และดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมาก

เครือดุสิตธานีกำลังศึกษาลู่ทางขยายตลาดในอาเซียน โดยมีเป้าหมายหลัก ได้แก่ พม่า สิงคโปร์ และอินโดนีเซียทั้งนี้ปัจจุบันได้ลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์อยู่แล้ว คือ โรงแรมดุสิตธานี มะนิลาซึ่งฟิลิปปินส์มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูงประเทศหนึ่งในอาเซียน

การสำรวจของบริษัท โจนส์ แลงลาซาลล์ เกี่ยวกับการลงทุนโรงแรมในอาเซียน ระบุว่า เวียดนาม กัมพูชา และพม่า กลายเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนของธุรกิจโรงแรม โดยการขยายตัวด้านนี้ในพม่าขึ้นอยู่กับการปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจ ขณะที่กัมพูชามีนักท่องเที่ยวและการลงทุนจากเกาหลีใต้ เวียดนาม และจีนเพิ่มมากขึ้น จึงต้องมีการสร้างโรงแรมเพิ่มขึ้นอีกมากเพื่อรองรับคนกลุ่มนี้ ส่วนเวียดนามเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว และมีศักยภาพที่ดีในระยะยาว ทำให้มีนักลงทุนโรงแรมให้ความสนใจ

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเวียดนามขยายตัว 15% กัมพูชาเติบโต 25% และพม่าขยายตัว 55% ในปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับปี 2554