ยก"ห้องเย็น"สู่เขตปลอดภาษีเปิดฐานกระจายสินค้าอาเซียน
โดย...ปรียนิจ กุลตั้งเจริญ
โดย...ปรียนิจ กุลตั้งเจริญ
ธุรกิจห้องเย็นของไทยได้พัฒนาจากการเป็นคลังเก็บสินค้าธรรมดา มาให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร ตั้งแต่จัดเก็บ รวมถึงขนส่งสินค้า จนปัจจุบันรุกไปสู่เขตปลอดภาษี เพื่อรองรับการกระจายสินค้าอย่างกว้างขวางในยุคเออีซี
จิตชัย นิมิตรปัญญา ประธานบริษัท แปซิฟิก โคล สตอเรจ เล่าถึงธุรกิจห้องเย็นว่า บริษัทมีประสบการณ์ด้านนี้มานานกว่า 20 ปี ใน จ.สมุทรสาคร เริ่มจากทำห้องเย็นอย่างเดียว มาเป็นการรับส่งสินค้าเป็นโลจิสติกส์ความเย็นที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันสามารถรับสินค้าได้มากถึง 5 หมื่นตัน
หลังจากธุรกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว ประกอบกับกระแสการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) บริษัทจึงวางแผนจะขยายกิจการสู่หัวเมืองรอบกรุงเทพฯ อีก 2 แห่ง คือ บางนา กม. 19 และพื้นที่สุวินทวงศ์ โดยในพื้นที่ใหม่นี้เป็นห้องเย็นฟรีโซน หรือเขตปลอดภาษีศุลกากร ซึ่งถือเป็นแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อให้บริการแก่ลูกค้า และเพิ่มความสะดวกในการขยายสินค้ายิ่งขึ้น
ลูกค้าจะได้ประโยชน์จากห้องเย็นเขตฟรีโซนอย่างมาก ทั้งแง่ของการประหยัดต้นทุนในการเช่าตู้คอนเทนเนอร์ ที่ปกติมีค่าใช้จ่ายวันละหลายหมื่นบาทต่อวันต่อตู้ ขณะเดียวกันสินค้าในเขตปลอดภาษีจะไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร เช่น ลูกค้านำเข้าปลาจากต่างประเทศ 1 ตัน ไม่ต้องเสียภาษีทั้งล็อตใหญ่ แต่จะเสียภาษีเฉพาะส่วนที่นำออกจากเขตเท่านั้นหากต้องการนำปลาออก 200 กิโลกรัม ก็เสียภาษีเฉพาะในส่วนดังกล่าว หรือหากเป็นการโยกสต๊อกสินค้าจากประเทศไทยไปต่างประเทศ ถ้าเข้ามาอยู่ในฟรีโซนก็จะไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการได้มากพอสมควร
สำหรับการลงทุนห้องเย็นฟรีโซนที่บางนาและสุวินทวงศ์ เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท แปซิฟิก โคล สตอเรจ ที่เชี่ยวชาญด้านห้องเย็น และบริษัท เจดับเบิลยูซี จากประเทศญี่ปุ่น ผู้เชี่ยวชาญด้านคลังสินค้าปลอดภาษี ซึ่งถือว่าได้ช่วยเสริมความเข้มแข็งให้แก่กัน คาดว่าห้องเย็นที่สุวินทวงศ์จะเริ่มเปิดให้บริการช่วงปลายปีนี้ ขณะที่พื้นที่บางนาจะเปิดบริการในเดือน เม.ย.ปีหน้า โดยห้องเย็นในพื้นที่หลังนี้ จะรองรับลูกค้าทั้งส่วนที่เป็นฟรีโซนและลูกค้าปกติที่ไม่ต้องการใช้ฟรีโซน ซึ่งจุดเด่นของห้องเย็นที่บางนา คือ มีศักยภาพด้านการกระจายสินค้าสูง เนื่องจากอยู่ใกล้ท่าเรือและยังขนส่งเข้าเมืองได้ง่ายด้วย
“เมื่อเปิดเออีซีในปี 2558 การที่มีห้องเย็นเป็นเขตปลอดภาษี ช่วยให้การกระจายสินค้าสะดวกยิ่งขึ้น ช่วยลดต้นทุนของผู้ประกอบการ และตอบสนองการค้าเสรีได้อย่างดี”
ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจยังต่างจังหวัด เช่น ด่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการบริโภคสูง และเป็นจุดกระจายสินค้าไปยังประเทศกัมพูชาได้ดี โดยปัจจุบันบริเวณชายแดนยังไม่มีห้องเย็นขนาดใหญ่ พร้อมทั้งมองการลงทุนใน จ.สุราษฎร์ธานี และพัทลุง เพื่อรองรับสินค้าในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน และภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งมีโรงงานอุตสาหกรรมอาหารตั้งอยู่ค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจับมือกับคู่ค้าญี่ปุ่นเข้าไปลงทุนด้านโลจิสติกส์ในประเทศกัมพูชา เพราะหลังจากไปสำรวจตลาดกัมพูชาแล้ว พบว่า ยังขาดแคลนธุรกิจบริการโลจิสติกส์ และกระจายสินค้า จึงน่าจะเป็นช่องทางที่บริษัทเข้าไปเติมเต็มได้