ยอดขายรถสดใสโตปีละ10%

สื่อนอกเผยตลาดรถไทยยังร้อนแรง แม้หมดโครงการรถคันแรก เหตุชนชั้นกลางขยายตัว

เอเอฟพี เปิดเผยรายงานอ้างนักวิเคราะห์ว่า ทิศทางตลาดรถยนต์ในไทยยังคงขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคตอันใกล้ โดยคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี ทั้งที่นโยบายรถคันแรกของรัฐบาลหมดลงไปแล้ว โดยมีปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของชนชั้นกลางและความต้องการในประเทศยังสูง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเปลี่ยนจากการขี่มอเตอร์ไซค์ไปเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล

"อาจจะมีเมฆหมอกดำและปัญหามากมาย แต่โดยภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ยังขับเคลื่อนโดยคนที่ต้องการจะเปลี่ยนจากการขับรถสองล้อไปเป็นรถสี่ล้อ"ยูลิ ไกเซอร์ ประธานนักวิเคราะห์ด้านอุตสาหกรรมจากออโตโมทีฟโฟกัสกรุ๊ปไทยแลนด์ กล่าว

ไกเซอร์ คาดว่า ความต้องการซื้อรถยนต์ในไทยยังจะขยายตัวต่อเนื่อง และอาเซียนจะกลายมาเป็นตลาดที่ขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งมากที่สุดในโลก

รายงานดังกล่าวระบุต่อว่า แม้ว่าจะกังวลถึงทิศทางเศรษฐกิจไทยและปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น แต่บริษัทค่ายรถต่างๆ ยังเดินหน้าวางแผนลงทุนเครื่องจักรผลิตรถที่ทันสมัยกันอย่างหนัก เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งในประเทศไว้ และอาศัยไทยเป็นฐานการส่งออกไปยังต่างประเทศ

ทั้งนี้ ฮอนด้า ตั้งเป้าว่าภายในปี 2558 หากโรงงานแห่งใหม่แถบชานเมืองกรุงเทพฯ สร้างเสร็จ บริษัทจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง 4.2 แสนคันต่อปี ด้าน โตโยต้า ที่เพิ่งเดินสายการผลิตโรงงานแห่งใหม่มูลค่ากว่า 340 ล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งเป้าโรงงานในไทยจะต้องผลิตให้ได้ 7.7 แสนคันต่อปี เพื่อรักษาส่วนแบ่งผู้นำในตลาดไว้ที่ 30-40%

ด้าน เคียวอิจิ ทานาดะ ประธานบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ระบุว่า ลูกค้าในไทยยังต้องการซื้อรถอีกประมาณ 1.2 ล้านคันต่อปี

นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์ช่วง 5 เดือนหลังของปีนี้ตกเดือนละ 9 หมื่นคัน ต่ำกว่าปกติที่จะมียอดมากกว่า 1 แสนคัน จากผลกระทบ 6 ปัจจัย คือ 1.โครงการรถคันแรกหมดแรงกระตุ้น 2.สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงผิดปกติ 3.ปัจจัยตลาดหุ้นที่ผันผวนสูง ส่งผลให้ลูกค้ามีปัญหา

4.ปัจจัยจากบรรยากาศทางการเมืองในประเทศที่ยังไม่นิ่ง 5.ปัจจัยจากผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลก และ 6.ปัจจัยจากราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ