แนะธุรกิจโรงแรมที่พม่า ดาวรุ่งพุ่งแรงน่าลงทุน

ไอทีดี แนะธุรกิจโรงแรม ดาวรุ่งน่าลงทุนในพม่า คาดนิคมฯ ทวายเปิดไม่ทันรับเออีซี

นายวัชรัศมิ์ ลีละวัฒน์ รองผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์กรมหาชน) หรือไอทีดี เปิดเผยถึงโอกาสการลงทุนของอุตสาหกรรมไทยในพม่า ว่า พม่ายังเป็นประเทศที่น่าสนใจและจูงใจให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุน โดยธุรกิจที่เป็นดาวรุ่งของพม่าและเป็นโอกาสให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุน คือ ธุรกิจโรงแรม ที่มีอัตราค่าพักต่อคืนเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว จากเดิมคืนละ 100 เหรียญสหรัฐ ขยับมาเป็น300 เหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวอย่างย่างกุ้งและมัณฑะเลย์

“เนื่องจากพม่าเพิ่งเริ่มเปิดประเทศทำให้มีจำนวนโรงแรมที่พักน้อย แต่จำนวนนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจเดินทางเข้าไปมากขึ้น” นายวัชรัศมิ์ กล่าว

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเป็นอีกอุตสาหกรรมที่เป็นโอกาสของนักลงทุนไทยในการขยายการลงทุนเข้าไปยังพม่า เนื่องจากพม่ามีจำนวนแรงงานสูง และยังมีค่าแรงงานไม่แพงเมื่อเทียบกับไทย รวมทั้งพม่ายังได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีในการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศยุโรป (จีเอสพี) อยู่

ทั้งนี้ นักลงทุนไทยยังได้เปรียบในการเข้าไปลงทุนพม่า เนื่องจากมีทำเลที่ตั้งชายแดนติดกัน โดยรัฐบาลพม่าให้ความสำคัญกับเขตอุตสาหกรรมบริเวณชายแดนมาก ทั้งนี้ไทยมีพื้นที่ติดกับเขตนิคมอุตสาหกรรมชายแดนของพม่าที่สำคัญ 3 แห่ง คือ นิคมอุตสาหกรรมเมาะลำไย รัฐมอญ ติดกับชายแดนไทยบริเวณแม่สอด เขตอุตสาหกรรมเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง อยู่ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก และเขตอุตสาหกรรมเมืองผาอัน เมืองหลวงของรัฐกะเหรี่ยง

นอกจากนี้ ล่าสุดการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมทวายที่มีพื้นที่เชื่อมติดกับบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี จะเป็นอีกทางที่ช่วยเชื่อมโยงการค้า การลงทุน ระหว่างนักลงทุนไทยในพม่า หากนิคมอุตสาหกรรมทวายสามารถเปิดได้ตามแผนที่วางไว้จะเป็นเรื่องดีต่อนักลงทุนไทย แต่ขณะนี้ล่าช้ากว่าแผน โดยอาจจะไม่ทันเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558

สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างไทยพม่า เมื่อปี 2555 อยู่ที่ 6,801 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 6.94% หรือเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 5-6 ในอาเซียนของไทยโดยนักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนโดยตรง (เอฟดีไอ) ในพม่าสูงถึง 9,568 โครงการ มูลค่าลงทุนเกือบ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากจีน อุตสาหกรรมที่นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในพม่าส่วนใหญ่คือ พลังงาน ก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน เหมืองแร่ และโรงแรม