ทายาทนุ่น 3 แกรนด์ไชน่า พลิกโฉมศูนย์สินค้าของขวัญ
โดย...รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย
โดย...รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย
ในย่านเยาวราช หากเอ่ยถึงโรงแรมแกรนด์ไชน่า เยาวราช หลายคนคงคุ้นเคยกันดีจากการเป็นโรงแรมบนถนนมังกรมาร่วม 20 ปี ณ เวลานี้ ธุรกิจกำลังจะผลัดจากรุ่นสู่รุ่น จากเจเนอเรชั่นแรกสู่เจเนอเรชั่นที่ 3 “นันทนุช ตั้งอุทัยศักดิ์” ที่ลุกขึ้นมาปัดฝุ่นธุรกิจศูนย์การค้าให้ตื่นจากหลับ สู่ภาพลักษณ์ที่ทันสมัยสอดรับกับยุคค้าปลีกที่เปลี่ยนไป
นันทนุช ตั้งอุทัยศักดิ์ ผู้อำนวยการโครงการแกรนด์ไชน่า เยาวราช บริษัท ไทยเฮ้าส์ซิ่งดิเวลล็อปเมนท์ ผู้บริหารศูนย์สินค้าของขวัญแกรนด์ไชน่า เยาวราช เปิดเผยว่าเรียนจบปริญญาโทด้านอสังหาริมทรัพย์จากประเทศอเมริกากลับมา และเพิ่งเริ่มเข้ามาบริหารศูนย์การค้าแกรนด์ไชน่า พลาซ่าไม่นานนัก
ทั้งนี้ ด้วยภาพลักษณ์ของศูนย์การค้าที่เก่าแก่จากการที่ปล่อยให้มีการเซ้งร้านค้ามาร่วม 20 ปี ในฐานะเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของกลุ่มผู้บริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของโรงแรมแกรนด์ไชน่า มองว่าถึงเวลาที่ต้องปรับโฉมครั้งใหญ่ จึงทุ่มงบ 300 ล้านบาท ปรับศูนย์สินค้าแกรนด์ไชน่า พลาซ่า ภายใต้ชื่อใหม่ แกรนด์ไชน่า เยาวราช เพื่อให้ภาพลักษณ์ทันสมัยมากยิ่งขึ้น
สำหรับแกรนด์ไชน่า เยาวราช วางตำแหน่งเป็นศูนย์สินค้าของขวัญ แหล่งค้าส่งและค้าปลีกในย่านเยาวราช ที่รวบรวมสินค้าทุกอย่างทั้งจากพาหุรัด สำเพ็ง สะพานเหล็ก มาจำหน่ายภายในศูนย์บนพื้นที่ 1 หมื่น ตร.ม. จำนวน 5 ชั้น เพื่อรองรับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีอีก 2 ปีข้างหน้านี้ โดยตั้งเป้าลูกค้าค้าส่ง 60% และค้าปลีก 40%
ขณะที่พื้นที่เหลือชั้น 6 และ 7 ราว 3,000 ตร.ม. วางแผนที่จะขยายเป็นศูนย์สินค้าเพิ่มในอนาคต และอีก 20 ชั้นเป็นโรงแรม มีจำนวน 150 ห้อง ซึ่งเป็นสถานที่ที่รวมทุกอย่างครบวงจรแห่งเดียวในย่านเยาวราช ขณะนี้มีลูกค้าสนใจจองพื้นที่ 65% คาดว่าจะเปิดำเนินการในเดือน ก.พ. 2557 และมีลูกค้ารอจองพื้นที่ 90-95% หรือร้านค้ากว่า 250 ร้านค้า
“แกรนด์ไชน่า เยาวราช นับว่าเป็นศูนย์รวมสินค้ากิฟต์ช็อปไลฟ์สไตล์ใหญ่สุดในย่านเยาวราช หรือเปรียบเป็นเสมือนดินแดนแห่งของขวัญ เพื่อสร้างความแตกต่างกับศูนย์การค้าส่งและค้าปลีกในย่านประตูน้ำซึ่งส่วนใหญ่จะขายเสื้อผ้าแฟชั่นเป็นหลัก คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากพ่อค้าแม่ค้าจากเวียดนามลาว และมาเลเซีย รวมทั้งไทยด้วย” นันทนุช กล่าว
นันทนุช กล่าวถึงมุมมองธุรกิจในย่านเยาวราชว่า ด้วยสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเปลี่ยนไปมาก ตลาดการค้าขยายตัวอย่างรวดเร็ว ความได้เปรียบในเรื่องของทำเลและความคุ้นเคยในการทำธุรกิจในย่านนี้มาตั้งแต่รุ่นที่ 1 ทำให้มีความเชื่อมั่นว่าแผนธุรกิจที่ปรับปรุงส่วนของพื้นที่การค้าสอดรับกับธุรกิจให้บริการโรงแรมและที่พักอาศัยอย่างลงตัว
ทั้งนี้ บริษัทใช้งบการตลาด 10 ล้านบาทเพื่อประชาสัมพันธ์และโฆษณาสร้างการรับรู้ให้เป็นที่รู้จัก และจากการปรับปรุงในครั้งนี้จะส่งผลให้มีผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มจาก 6,000 คนต่อวัน เป็น 1 หมื่นคนต่อวัน โดยตั้งเป้าเงินสะพัดในศูนย์ไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท หรือไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาทต่อเดือน และตั้งเป้า 8 ปีจะถึงจุดคุ้มทุน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีม็อบต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเกิดขึ้นในประเทศไทย แต่พบว่ากลุ่มผู้ใช้บริการทั้งไทยและต่างประเทศยังคงพร้อมเดินทางเข้ามาพักอยู่เช่นเดิม อัตราการจองพักในโรงแรม 80%ส่วนสำคัญมาจากเยาวราชเป็นย่านธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการเมืองทั้งทางตรงและทางอ้อม
คงต้องจับตาดูฝีไม้ลายมือกับทายาทรุ่นที่ 3 นันทนุช ตั้งอุทัยศักดิ์ ซึ่งมีดีกรีจบทางอสังหาริมทรัพย์ ว่าจะนำทัพกลุ่มแกรนด์ไชน่าขยายธุรกิจหรืออาณาจักรของครอบครัวได้มากน้อยแค่ไหนแต่เวลานี้ยังขอทุ่มเทกับการปลุกปั้นศูนย์สินค้าของขวัญแกรนด์ไชน่า เยาวราชก่อน ขณะที่ในอนาคตวาดแผนที่จะโดดสู่การบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ อย่างเต็มตัว