ธุรกิจขายตรง & ภาษี

ปัจจุบันมีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบการธุรกิจขายตรงเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ขายสินค้า แต่ละบริษัทมีตัวแทนขายตรงที่ประกอบการในรูปของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา โดยเฉพาะตัวแทนขายตรงที่เป็นบุคคลธรรมดานั้นมีเป็นจำนวนมาก

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบการธุรกิจขายตรงได้จ่ายเงินค่านายหน้า ส่วนลด ผลประโยชน์ตอบแทน ซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(2) แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่ตัวแทนขายตรงที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลและตัวแทนขายตรงที่เป็นบุคคลธรรมดา ในปีหนึ่งๆ คิดเป็นจำนวนเงินมหาศาลเลยทีเดียว

เมื่อมีการจ่ายเงินค่านายหน้า ส่วนลด ผลประโยชน์ตอบแทน บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบการธุรกิจขายตรงมีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ส่วนตัวแทนขายตรงที่ได้รับเงินได้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม สรุปได้ดังนี้

ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบการธุรกิจขายตรงจ่ายเงินค่านายหน้า ส่วนลด ผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ตัวแทนขายตรงที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบการในประเทศไทย ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายอัตราร้อยละ 3 ของเงินได้ที่จ่าย

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบการธุรกิจขายตรงจ่ายเงินค่านายหน้า ส่วนลด ผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ตัวแทนขายตรงที่เป็นบุคคลธรรมดาที่อยู่ในประเทศไทย ต้องคำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายเช่นเดียวกับการจ่ายเงินเดือน โดยให้นำเงินได้ที่จ่าย หักออกด้วยค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน เหลือเท่าใดจึงเป็นจำนวนเงินได้สุทธิ แล้วจึงนำเงินได้สุทธิไปคำนวณภาษีตามบัญชีอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีที่ได้จ่ายเงินให้แก่ตัวแทนขายตรงมากกว่า 1 ครั้งในปีภาษีเดียวกัน ให้นำเงินได้ที่ได้จ่ายทุกครั้งมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีตามวิธีที่กล่าวมาข้างต้น โดยสามารถนำภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายทุกครั้งที่จ่ายเงินได้มาหักออกจากภาษีต้องชำระในการจ่ายเงินครั้งล่าสุด ส่วนต่างที่ได้จะเป็นภาษีที่ต้องหัก ณ ที่จ่ายในการจ่ายเงินครั้งล่าสุด

ภาษีเงินได้

ภาษีเงินได้นิติบุคคล ตัวแทนขายตรงที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบการในประเทศไทย ต้องนำเงินค่านายหน้า ส่วนลด ผลประโยชน์ตอบแทนที่ได้รับมารวมเป็นรายได้คำนวณหาจำนวนกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตัวแทนขายตรงที่เป็นบุคคลธรรมดาที่อยู่ในประเทศไทย ต้องนำเงินค่านายหน้า ส่วนลด ผลประโยชน์ตอบแทนที่ได้รับมารวมเป็นเงินได้พึงประเมินเพื่อคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีภาษีภายในเดือน มี.ค. ของปีถัดไปด้วยแบบ ภ.ง.ด. 90 สามารถนำภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายมาหักออกจากภาษีต้องชำระได้

ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ตัวแทนขายตรงที่เป็นบุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบการในประเทศไทย หากมีรายรับเงินค่านายหน้า ส่วนลด ผลประโยชน์ตอบแทน เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปีภาษี/ต่อรอบระยะเวลาบัญชี ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากรายรับดังกล่าว หรือมีรายรับไม่เกิน 1.8 ล้านบาท และมีความประสงค์ขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็สามารถขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจขายตรงและตัวแทนขายตรงมีหน้าที่เสียภาษีอากรตามที่กล่าวมาข้างต้น สวัสดีครับ