ธนาคารเกียรตินาคินมุ่งสู่ความยั่งยืน

โดย...ฉัตรชัย ธนจินดาเลิศ

ธนาคารเกียรตินาคินเป็นธนาคารที่ใช้นโยบายความเป็นสถาบันการเงินที่ชำนาญการเฉพาะด้าน ด้วยการมุ่งเน้นสร้างผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเพื่อเติมเต็มทั้งในส่วนของตลาดเงินและตลาดทุน

ที่สำคัญยังเป็นองค์กรที่ยึดมั่นในหลักบรรษัทภิบาล หรือ Corporate Governance (ซีจี) ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีของการดำเนินธุรกิจ ได้ให้ความสำคัญถึงความรับผิดชอบที่พึงมีต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายภายใต้กรอบจริยธรรมทางวิชาชีพ และข้อพึงปฏิบัติในการทำงาน จึงได้จัดให้มีการประมวลและจัดทำหลักการบรรษัทภิบาลขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการบริหารองค์กรและคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสีย

บรรยง พงษ์พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ในฐานะบริษัทแม่ ธนาคารเกียรตินาคิน กล่าวว่า ซีจีถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในระบบเศรษฐกิจทุนนิยมเสรี เพราะซีจีหมายถึงกระบวนการในการ บริหารจัดการเพื่อให้ได้รับผลสำเร็จตามเป้าหมาย

มีการดูแลผู้ถือหุ้นทุกฝ่ายอย่างเหมาะสมและมีความโปร่งใส ผ่านทางการเปิดเผยข้อมูลอย่างเพียงพอ ทันเวลา และเท่าเทียม โดยซีจีช่วยให้กระบวนการจัดสรรและติดตามดูแลทรัพยากรในระบบเศรษฐกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยลดความเสี่ยง ซึ่งในที่สุดย่อมลดต้นทุนทางการเงิน

 

ฐิตินันท์ วัธนเวคิน กรรมการและประธานสายธนบดีธนกิจ ธนาคารเกียรตินาคิน ในฐานะที่ดูแลงานทางด้านซีจีและกิจกรรมเพื่อสังคมของธนาคาร ให้ความเห็นว่า ธนาคารยึดมั่นในหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เลือกทำในสิ่งที่มีความเชี่ยวชาญ มีการกำหนดนโยบายเรื่องจรรยาบรรณทางธุรกิจซึ่งเป็นแนวทางการปฏิบัติงาน ทำให้เกิดความโปร่งใสในงานที่ตนรับผิดชอบ ปลูกฝังพนักงานให้คำนึงถึงส่วนรวม

จึงสอดคล้องกับปณิธานของผู้ก่อตั้งเกียรตินาคินที่ว่า เกียรตินาคินไปอยู่ที่ไหนก็ต้องเป็นส่วนหนึ่งที่ไปร่วมพัฒนาให้ ชุมชนและสังคมแห่งนั้นเจริญ ยิ่งไปกว่านั้น การมีซีจีที่ดี คือ ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและความยั่งยืน ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากความน่าเชื่อถือ รวมถึงความเชื่อใจ ตัวอย่างเช่น วิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 ที่เกียรตินาคินเอง ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กลับมาดำเนินกิจการ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความไว้วางใจจากผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ที่ให้โอกาสเกียรตินาคินและอยู่เคียงค้างมาโดยตลอด

ธนาคารเกียรตินาคินจะระวังระมัดไม่ให้การธุรกิจของเราไปสร้างผลด้านลบแก่ผู้อื่น เพราะเราเป็นผู้ไปสนับสนุนให้ลูกค้าดำเนินธุรกิจ เช่น การให้สินเชื่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์นั้น ธนาคารจะเลือกให้สินเชื่อเฉพาะโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสังคม ไม่ทำลายภูมิทัศน์และทัศนียภาพในพื้นที่

 

ในกรณีของธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์นั้น ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อให้กับดีลเลอร์ที่ทำธุรกิจถูกต้องตามกฎหมายและในการปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้านั้น ธนาคารมีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารหนี้ช่วยวางแผนการเงินให้กับลูกค้าเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าต้องแบกภาระทางการเงินหนักเกินไปจนนำไปสู่ปัญหาการขาดวินัยทางการเงิน

นอกจากนี้ ธนาคารจะแนะนำให้ลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ทำประกันสินเชื่อเพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ผู้ค้ำประกันเมื่อลูกค้าขาดความสามารถในการผ่อนชำระ

ล่าสุด ธนาคารเกียรตินาคินได้ประสบความสำเร็จต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เข้ารับรางวัล “SET Award of Honor หรือรางวัลเกียรติยศแห่งความสำเร็จด้านการรายงานบรรษัทภิบาล” ที่รักษาความโดดเด่นและมีความเป็นเลิศต่อเนื่องถึง 4 ปี (ปี 2553-2556)

และยังได้ “รางวัลดีเด่นประเภทบริษัทจดทะเบียนด้านความรับผิดชอบต่อสังคม” ที่ได้รับรางวัลเป็นปีที่ 2 ซึ่งจัดโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและวารสารการเงินธนาคาร

รางวัลที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการยกระดับความน่าเชื่อถือของบริษัทจดทะเบียนและตลาดทุนไทย นำไปสู่การพัฒนาระบบเศรษฐกิจไทยให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างยั่งยืนในประเทศไทย

“ผลการประเมินรวมถึงรางวัลต่างๆ เหล่านี้ เป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญและสะท้อนถึงการปฏิบัติงานด้านซีจีและซีเอสอาร์ที่ดีขององค์กร ตลอดจนเป็นกำลังใจให้กับพวกเราชาวเกียรตินาคินภัทรในการมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพการดำเนินงาน ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป” ฐิตินันท์ กล่าว