ที่ดินขอนแก่นพุ่งไร่ละ10-40ล้าน
ซีนิทหวั่นการเมืองพ่นพิษซื้อเก็งกำไรผุดค้าปลีกเสริมทัพ
ซีนิทหวั่นการเมืองพ่นพิษซื้อเก็งกำไรผุดค้าปลีกเสริมทัพ
ราคาที่ดินขอนแก่นยังแรง 3 ปี พุ่งกว่า 3 เท่า ซีนิทลุยผุดคอมมูนิตี มอลล์ สร้างมูลค่าเพิ่มอสังหาริมทรัพย์
นายพงษ์ศักดิ์ สฤษฎีชัยกุล ประธานบริหาร บริษัท ซีนิท พลาซ่า ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ใน จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า หลังจากผู้ประกอบการในกรุงเทพฯ เข้ามาขยายธุรกิจใน จ.ขอนแก่น มากขึ้น โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีก ส่งผลให้ปัจจุบันราคาที่ดินใน จ.ขอนแก่น ปรับเพิ่มเป็นไร่ละ 1040 ล้านบาท สูงกว่าช่วง34 ปีก่อน อยู่ที่เฉลี่ยไร่ละ 34 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยลบทางการเมืองที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ราคาที่ดินเริ่มชะลอตัว เช่นเดียวกับภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใน จ.ขอนแก่น ที่ปีนี้คาดว่าจะเติบโตเพียง 78% ต่ำกว่าทุกปีที่ผ่านมาเติบโตปีละกว่า 10% โดยคาดว่าโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์จะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะส่วนใหญ่เป็นการซื้อเพื่อเก็งกำไร ขณะที่คอนโดมิเนียมไฮไรส์ไม่น่าจะได้รับผลกระทบนัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าจะซื้อเพื่ออยู่จริง
ซึ่งในส่วนของบริษัทเน้นทำคอนโดมิเนียมในรูปแบบดังกล่าว ซึ่งหลังจากเปิดขายโครงการ เดอะ เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม ศรีจันทร์ ไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้บริษัทสามารถปิดยอดขายโครงการดังกล่าวได้เป็นที่เรียบร้อย
“บริษัทถือเป็นเจ้าตลาดอสังหาริมทรัพย์ใน จ.ขอนแก่น เน้นโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ปัจจุบันมีโครงการที่บริหารกว่า 10 โครงการ ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่งเริ่มเข้ามาทำ 1 โครงการ ซึ่งหลังจากเปิดตัวก็ได้ผลตอบรับดี เพราะเป็นคอนโดไฮไรส์ ต่างจากคู่แข่งที่จะเน้นเป็นแบบโลว์ไรส์” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน ล่าสุดบริษัทได้ใช้งบ 336 ล้านบาท ลงทุนโครงการคอมมูนิตี มอลล์ ภายใต้ชื่อ ฮักซ์ มอลล์ บนพื้นที่ 3.8 ไร่ ในโครงการ เดอะ เฮาส์ คอนโดมิเนียม ศรีจันทร์ เพื่อเสริมความครบวงจรให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการเดือน ต.ค. 2557 ตั้งเป้าถึงจุดคุ้มทุนภายใน 12 ปี
สำหรับโครงการ ฮักซ์ มอลล์ มีพื้นที่ขายประมาณ 4,000 ตร.ม. และเป็นไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งแรกของ จ.ขอนแก่นเน้นบริการต่างๆ ครบวงจร โดยเฉพาะร้านอาหารแบรนด์ดัง เช่น ทอม แอนด์ ทอม, แม็กซ์ แวลู, ซับเวย์, กิมจู และร้านโอชายะ เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่อีก 3 โครงการในปีนี้ โดยจะเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ คาดว่าจะใช้ที่ดินในการก่อสร้างโครงการละกว่า 10 ไร่ จากที่ดินที่มีอยู่ในมือกว่า 100 ไร่ โดยในส่วนของงบลงทุนแต่ละโครงการคาดว่าจะใช้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้ง 3 โครงการประมาณ 1,200 ล้านบาท ขณะที่บ้านเดี่ยวที่จะพัฒนาในปีนี้จะมีราคาขายเริ่มต้น 3 ล้านบาท
เช่นเดียวกับราคาขายของทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งหลังจากเปิดตัวโครงการดังกล่าวคาดว่าจะได้ผลการตอบรับที่ดีเหมือนกับโครงการที่ผ่านๆมา