ชะอำ-หัวหินดั้มพ์แพ็กเกจดึงคนไทย
ทีเอชเอชี้ท่องเที่ยว หัวหิน ชะอำ ปีนี้หมดลุ้น หลังตลาดอาเซียนกู่ไม่กลับ ผู้ประกอบการระเบิดสงครามราคาดัมพ์แพ็กเกจดึงคนไทยเที่ยวแทน
ทีเอชเอชี้ท่องเที่ยว หัวหิน ชะอำ ปีนี้หมดลุ้น หลังตลาดอาเซียนกู่ไม่กลับ ผู้ประกอบการระเบิดสงครามราคาดัมพ์แพ็กเกจดึงคนไทยเที่ยวแทน
นายอุดม ศรีมหาโชตะ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) ภาคตะวันตก เปิดเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยว หัวหิน และชะอำ ระหว่างเดือนเม.ย.- มิ.ย.นี้ ซบเซาอย่างหนัก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองภายในกรุงเทพ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(อาเซียน) เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่ผู้ประกอบการในพื้นที่ขยายฐานตลาด ยกเลิกการเดินทางมาท่องเที่ยว
ทั้งนี้วัดได้จากสัญญาณการจองช่วงเทศกาลสงกรานต์ยังไม่กระเตื้อง แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นักท่องเที่ยวไม่เชื่อมั่นต่อความปลอดภัยที่จะได้รับ เนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง(ม็อบ) เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภาคเอกชนได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะวันที่ 5 เม.ย.นี้ จะมีการชุมนุมใหญ่ทั้งสองฝ่ายกปปส.และนปช.หากเกิดความรุนแรงเกิดขึ้น เชื่อว่าจะกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวไทยตลอดปีนี้ โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวที่พึ่งพาการเดินทางต่อจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อย่าง พัทยา หัวหิน ชะอำ
“หากมีความรุนแรงเกิดขึ้นอีกรอบ การท่องเที่ยวไทยปีนี้จะหมดหวัง ไม่สามารถฟื้นฟูช่วงไตรมาส 3 และ 4 เหมือนที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) คาดการณ์ได้ ขณะที่ตลาดคนไทย ปีนี้คนไทยขาดความเชื่อมั่นไม่กล้าใช้จ่าย เพราะไม่รู้ทิศทางว่าการเมืองไทย และการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนหนึ่งต้องประหยัดค่าใช้จ่าย”นายอุดม กล่าว
อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ หัวหิน ชะอำ ได้นำกลยุทธ์การตลาด ลด แลก แจก แถม การตัดราคาห้องพักเฉลี่ย 10-15% เช่น ราคาห้องพักระดับ 5 ดาว เฉลี่ยที่ 4,800 บาท/คืน เทียบกับปกติ 6,000 บาท/คืน การเพิ่มมูลค่าห้องพัก เช่น ซื้อ 1 คืน แถม 1 คืน ซื้อห้องพัก แถมอาหารเช้า หรือแถมสปา เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเดินทางเข้าพัก
นายอุดม กล่าวว่า นอกจากนี้ผู้ประกอบการได้เน้นส่งเสริมการจัดประชุมสัมมนาและนิทรรศการ(ไมซ์) กลุ่มราชการ และบริษัทเอกชน โดยเฉพาะตลาดข้าราชการปัจจุบันลดลงกว่า 50% เพราะรัฐบาลไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้อย่างเต็ม ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยในปีนี้ เชื่อว่าไตรมาสที่ 3 และ 4 จะไม่สามารถฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยให้กลับคืนมาได้ทัน เพราะการเมืองไทยยังไม่มีสัญญาณทางออกที่ดี