ศูนย์เรียนรู้ธุรกิจห้าดาว จุดแจ้งเกิดเถ้าแก่เล็ก

หลายคนสามารถเป็นเถ้าแก่น้อย เป็นเจ้าของธุรกิจได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีต้นๆ จึงทำให้หลายคนพยายามหาอาชีพเสริมเพื่อจะสร้างรายได้ที่มั่นคง ซึ่งก็มีทั้งที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลว

“ธุรกิจห้าดาว” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้หลายคนมีโอกาสประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าของธุรกิจอาหารสำเร็จรูป หรือที่หลายคนเรียกกัน ติดปากว่า “ไก่ย่างห้าดาว”

ธุรกิจห้าดาวเกิดขึ้นมาจากแนวความคิดของผู้บริหารในบริษัท ซีพีเอฟ ผลิตภัณฑ์อาหาร ที่ได้เริ่มดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอาหารปรุงสุก อาหารสำเร็จรูป มาตั้งแต่ปี 2528

โดยมีจุดขายจุดแรกที่ถนนลาดพร้าว บริเวณปากซอยลาดพร้าว 80 โดยดำเนินกิจการเอง จนกระทั่งถึงปี 2530 เป็นครั้งแรกที่บริษัทได้ดำเนินการสื่อสารกับผู้บริโภค พร้อมทั้งผลิตภาพยนตร์โฆษณาเรื่องแรกออกสู่สาธารณชน จนทำให้มีผู้คนติดตามและจดจำสินค้าได้มากขึ้น

 

ในปี 2543 บริษัท ซีพีเอฟ ผลิตภัณฑ์อาหาร ได้เริ่มปรับการบริหารให้เป็นการดำเนินกิจการในรูปแบบแฟรนไชส์

จากจุดเปลี่ยนในครั้งนั้น ทำให้บริษัท ซีพีเอฟ ผลิตภัณฑ์อาหาร เปลี่ยนบทบาทจากการเข้าไปขายกับผู้บริโภคโดยตรงมาเป็น ธุรกิจห้าดาว ที่สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างโอกาสให้กับผู้ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นเถ้าแก่

โดยบริษัททำหน้าที่ให้การสนับสนุน ด้านองค์ความรู้ การจัดการให้กับลูกค้าแฟรนไชส์ รวมทั้งสนับสนุนการขายการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสื่อสารการตลาด ระบบ Logistic สินค้า เพื่อให้ลูกค้าแฟรนไชส์ห้าดาวมั่นใจในการเข้ามาร่วมทำธุรกิจแฟรนไชส์แบบมืออาชีพ

 

ในการเข้ามาทำธุรกิจห้าดาวนั้น จะมีการ คัดเลือกตามคุณสมบัติดังนี้ คือ ต้องมีอายุไม่เกิน 40 ปี มีสัญชาติไทย มีการเลือกทำเลที่ตั้งซุ้มห้าดาวที่เหมาะสม โดยผ่านการพิจารณาจากเจ้าหน้าที่ของบริษัท รวมถึงมีค่าใช้จ่ายประมาณคนละ 1.5 หมื่นบาท

โดยแบ่งออกเป็นค่าค้ำประกันซุ้ม ตู้แช่และเตาทอด 3,000 บาท ซึ่งจะได้รับเงินคืนเมื่อเลิกกิจการ แต่ต้องมีการแจ้งล่วงหน้า 30 วัน ค่าอุปกรณ์ 2,700 บาท โดยจะได้รับเสื้อฟอร์ม 3 ตัว หมวก 2 ใบ และเอี๊ยมกันเปื้อน 2 ผืน มีด เขียง และถังน้ำ ค่าขนส่งตู้และอุปกรณ์ต่างๆ ไปยังจุดขายขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่

อย่างในกรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่ที่ 1,000 บาท ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออก 1,5003,700 บาท ค่าสินค้าวัตถุดิบ ซึ่งจะมีการจัดส่งสินค้าให้ฟรี แต่ถังแก๊สลูกค้าต้องจัดหาเอง

เมื่อทำสัญญากับทางบริษัทเรียบร้อยแล้ว จะเป็นการฝึกงานที่ซุ้มครูฝึก โดยแบ่งเป็นฝึกทำไก่ย่างห้าดาว 5 วัน ฝึกทำไก่ทอดห้าดาว 2 วัน และสินค้าอื่นๆ ใช้เวลาฝึก 1 วัน หลังจากผ่านการฝึกแล้วพนักงานขายจะทำการลงตู้และอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมกับสินค้า

 

สำหรับซุ้มฝึกอบรมธุรกิจห้าดาว ทางบริษัทจะมีการคัดเลือกคุณสมบัติของครูฝึกที่มีผลการตรวจ QSC มากกว่า 80% ขึ้นไป มียอดขายสั่งซื้อสินค้าไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท/เดือน ทำเลที่ตั้งเหมาะสม และที่สำคัญคนที่จะมาเป็นครูฝึกนั้นต้องมีทัศนคติที่ดีต่อธุรกิจห้าดาวและมีใจรักในการสอนงาน

ครูฝึกจะต้องสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รวมถึงประเมินการปฏิบัติงานของแต่ละซุ้ม โดยแบ่งเขตพื้นที่การฝึกอบรมแฟรนไชส์ตามภูมิภาค คือ ภาคกลางและภาคตะวันออก 2,750 ซุ้ม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,080 ซุ้ม ภาคเหนือ 670 ซุ้ม และภาคใต้ 810 ซุ้ม

ทั้งนี้ ศูนย์การเรียนรู้ธุรกิจห้าดาวจะแบ่งตามภูมิภาค คือ ภาคเหนือที่ ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ภาคกลาง อยู่ที่ซอยบางนาตราด 20 ซอยติวานนท์ 35 และถนนพระราม 2 ซอย 39 ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา และภาคใต้อยู่ที่ ต.ทุ่งกง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี

 

ตั้งแต่ปี 2528 จนถึงปัจจุบัน ซุ้มห้าดาวมีทั้งหมด 5,313 จุด ทั่วประเทศ และกว่าจะเป็นธุรกิจห้าดาว ธุรกิจอาหารสำเร็จรูปที่ขายดีอันดับ 1 ของเมืองไทยได้ขนาดนี้

สมภพ ฉัตรศิขรินทร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร เผยถึงเคล็ดลับความสำเร็จ นั่นก็คือ การมีใจรักในการขาย มีอัธยาศัยดี สินค้าสด สะอาด ปลอดภัย

สิ่งสำคัญทำเลที่ตั้งต้องดึงดูดลูกค้าด้วย ซึ่งในอนาคตธุรกิจห้าดาวยังไม่หยุดยั้งเพียงเท่านี้ ยังคงคิดค้นสินค้าใหม่ๆ ออกมาสู่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง จะเน้นไปที่อาหารปลอดภัยที่สามารถรับประทานได้ทันที ณ จุดขาย