แผ่นยางพาราธรรมชาติในคอกปศุสัตว์
กินดี อยู่ดี เป็นสิ่งที่ทุกคนล้วนปรารถนา เช่นเดียวกันกับสัตว์เลี้ยง
โดย...ทีมงานธุรกิจติดดาว
กินดี อยู่ดี เป็นสิ่งที่ทุกคนล้วนปรารถนา เช่นเดียวกันกับสัตว์เลี้ยง เมื่ออยู่ดี กินดี ก็ต้องส่งผลดีต่อผลผลิตที่เกษตรกรต้องการ แต่การดูแลสัตว์เลี้ยงให้มีความสุข ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะสัตว์ใหญ่อย่างโคนม ซึ่งมีรูปร่างใหญ่ น้ำหนัก 400-500 กิโลกรัม การเลี้ยงดูในสมัยก่อนเกษตรกรที่เลี้ยงโคนมก็จะปล่อยให้อยู่ตามท้องทุ่งและลานสนามหญ้า แต่ปัจจุบันการเลี้ยงโคนมมีปัญหาข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ ทำให้เกษตรกรหันมานิยมเลี้ยงโคนมในคอกปศุสัตว์ ซึ่งสะดวกสบายในการดูแลการให้อาหารกับโคนม
อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงในคอกปศุสัตว์นั้นหากดูแลไม่ดี ก็เป็นเหมือนการทำร้ายโคนมทางอ้อม เพราะคอกสัตว์ส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่เป็นพื้นซีเมนต์ เมื่อโคนมอยู่ในคอก กีบและข้อเข่าที่สัมผัสกับพื้นซีเมนต์ที่แข็งอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีการเสียดสีกับพื้นที่แข็งและแหลมคม ก็มีโอกาสเกิดบาดแผลได้ และแน่นอนเมื่อโคเหล่านี้ไม่สบาย เกษตรกรก็ต้องให้ยา แต่กฎเหล็กของการทำฟาร์มโคนม คือ โคนมตัวไหนที่ให้ยาหรือมีการได้รับยา จะไม่สามารถรีดนมส่งไปขายได้ เมื่อรีดนมไม่ได้ก็ส่งผลกระทบกับการผลิตน้ำนมของฟาร์มนั้นๆ ไม่น่าเชื่อว่าแค่ปัญหาพื้นซีเมนต์ในคอกสัตว์ จะส่งผลกระทบต่อผลผลิตของโคนม และก่อให้เกิดความเสียหายได้มากขนาดนี้
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย หรือ สกว. ได้ร่วมกับบริษัท สยาม ยูไนเต็ดรับเบอร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำวิจัยในโครงการการพัฒนาแผ่นยางปูพื้นจากธรรมชาติเพื่อใช้ในงานปศุสัตว์ โดย รศ.ดร.สมเกียรติ ประสานพานิช หัวหน้าภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เล่าว่า วัสดุที่จะนำมาทำพื้นคอกโคนมต้องแข็งแรงทนทานและง่ายต่อการจัดการดูแลรักษา ทำความสะอาดง่ายและไม่อุ้มน้ำ และไม่ลื่น ป้องกันการบาดเจ็บของกีบเท้าโคได้ ซึ่งในต่างประเทศมีการใช้แผ่นยางพาราธรรมชาติปูในคอกสัตว์มานานแล้ว จึงทำการศึกษาเพื่อให้สามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในเมืองไทย
สุวิทย์ แซ่กิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามยูไนเต็ดรับเบอร์ บอกว่า งานวิจัยนี้ถือเป็นประโยชน์อย่างมาก ส่งผลดีต่อเกษตรกร และพัฒนาเกษตรกรไทยให้สามารถนำผลงานวิจัยมาปรับใช้ได้จริง ซึ่งการผลิตแผ่นยางธรรมชาติ รับซื้อยางพาราจากเกษตรกรทางภาคใต้ แล้วนำมาผลิตส่งสินค้าไปจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ มีการคิดค้นสูตรและเทคนิคการใช้ยางธรรมชาติในการให้มีคุณสมบัติตามที่ต้องการ มีความอ่อนนุ่มที่พอเหมาะ ป้องกันการลื่นไถลของโคขณะลุก นั่ง และเดิน และไม่ก่อให้เกิดแผลที่กีบ อายุการใช้งานมากกว่า 5 ปี เฉลี่ยตกแผ่นละ 1 บาทต่อวัน
รศ.ดร.สมเกียรติ บอกว่า แผ่นยางนี้นอกจากจะทำให้วัวอยู่สบายไม่บาดเจ็บแล้วยังมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีทางสรีรวิทยา เช่น ฮอร์โมน เอนไซม์ ค่าโลหิตวิทยา รวมทั้งระบบภูมิคุ้มกัน ดังนั้น เมื่อวัวสุขภาพดีแล้ว การเจริญเติบโตและผลผลิตนมของโคที่เลี้ยงบนพื้นยางจะสูงกว่ากลุ่มที่เลี้ยงบนพื้นซีเมนต์ เพราะแม่โคสามารถกินอาหารได้เพิ่มขึ้น ประมาณ 5.4% และให้ผลผลิตน้ำนมเพิ่มขึ้นประมาณ 4.85% ทำให้เกษตรกรมีรายได้จากการจำหน่ายน้ำนมเพิ่มขึ้นวันละ 5.93%
เรวัฒน์ มาถาวร เจ้าของฟาร์มรุ่งเจริญ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เกษตรกรที่นำแผ่นยางจากธรรมชาติมาใช้ บอกว่า การใช้แผ่นยางทำให้วัวมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ไม่ยอมออกนอกคอกเหมือนเคย เพราะอยู่ในคอกแล้วสบาย ทำความสะอาดง่าย ไม่อุ้มน้ำ ป้องกันการลื่นไถลของวัวได้เป็นอย่างดี ทุกวันนี้ที่ฟาร์มรุ่งเจริญใช้แผ่นยางปูคอกสัตว์ จำนวน 42 แผ่น ใช้มานานกว่า 5 ปี แผ่นยางทั้งหมดยังคงสภาพเดิม แข็งแรง ทนทาน ช่วยเกษตรกรและโคนมได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับ สุธนร์ บริสุทธิ์ เจ้าของปังปอนด์ฟาร์ม ใน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม บอกว่า ใช้แผ่นยางปูพื้นจากยางธรรมชาติ จำนวน 72 แผ่น มานานกว่า 5 ปีแล้ว แผ่นยางยังคงสภาพเดิม ไม่ฉีกขาด ทำให้วัวมีสุขภาพดี ไม่มีแผล กินดี อยู่ดี ให้ผลผลิตน้ำนมดี
แผ่นยางปูพื้นคอกปศุสัตว์ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการนำงานวิจัยมาพัฒนาและปรับใช้ในงานเกษตรกรรม ที่สามารถช่วยพัฒนาเกษตรกรไทย ให้สามารถเลี้ยงสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทียบเท่ามาตรฐานสากล จนได้รับรางวัลผลงานวิจัยดีเด่นประจำปี 2551 จาก สกว.