E-Banking เทรนด์ใหม่ของการธนาคาร

สมัยนี้อะไรก็เหมือนจะ Go Online ไปเสียหมด กระทั่งธุรกรรมทางการเงินก็ถูกยกขึ้นไปไว้บนโลกออนไลน์

เพื่อความสะดวกสบายที่มากยิ่งขึ้น เพราะการไปต่อคิวรอโอนเงินแค่ไม่กี่ร้อยบาทที่สาขานอกจากจะเสียเวลาแล้วยังต้องเสียค่าเดินทาง และการโอนเงินข้ามธนาคารก็ต้องเสียค่าทำธุรกรรมเพิ่มอีก 25 บาท อีกทั้งการอัพเดตบุคธนาคารเพื่อตรวจสอบยอดเงินกว่าจะทำได้ก็มักต้องต่อแถวยาว เป็นเหตุให้ผู้ที่ทำธุรกิจค้าขายออนไลน์เสียเวลา อีกทั้งไม่สะดวก หรือการจ่ายค่าน้ำค่าไฟที่สมัยก่อนต้องไปจ่ายตามสาขาหรือร้านสะดวกซื้อ สมัยนี้ก็สามารถจ่ายผ่านช่องทาง E-bankingได้แล้ว E-Bankingนั้นถูกเรียกด้วยหลากหลายชื่อ ทั้ง Internet Banking, Online Banking, Electronic Banking และ Cyber Banking วันนี้MoneyGuruจึงจะมาแนะนำความรู้เบื้องต้น พร้อมทั้งแนะนำเคล็ดลับการใช้บริการ E-Banking อย่างปลอดภัยและถูกวิธี

รูปแบบการให้บริการ E-banking แบ่งออกเป็นสองรูปแบบด้วยกัน คือ การให้บริการผ่าน Internet และ การให้บริการผ่านสื่ออีเล็กโทรนิกส์ต่างๆ การให้บริการผ่านอินเตอร์เนต ได้แก่ การโอนเงินระหว่างบัญชี การสอบถามยอดเงินคงเหลือในบัญชี การชำระสินค้าและค่าบริการต่างๆ การสอบถามรายการเคลื่อนไหวในบัญชี การอายัดเช็ค การชำระค่าบัตรเครดิต และการสอบถามสถานะเช็ค บริการขอสินเชื่อ เป็นต้น ส่วนการให้บริการผ่านสื่ออีเล็กโทรนิกส์นั้นได้แก่  บริการบัตรสมาร์ทการ์ด บริการATM และบริการทางโทรศัพท์ ทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินเป็นเรื่องง่ายที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเองจากในบ้านหรือผ่านตู้ ATM ใกล้บ้าน ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่สาขาและกดบัตรคิวยาวเหยียดเพื่อรอโอนเงินไม่กี่บาทอีกต่อไป

การใช้งาน E-banking ในสมัยนี้โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมามีมากขึ้นเรื่อยๆ อิงจากสถิติของธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) พบว่าจำนวนบัญชี Internet Baking ปริมาณรายการธุรกรรมต่างๆ และมูลค่าโดยรวม เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2555 จำนวนบัญชี(account)ทั้งหมดรวมเป็น 6,051,554บัญชี รายการธุรกรรมกว่า 10,299,000 รายการ และมูลค่าโดยรวมกว่า 1,239 พันล้านบาท และการทำธุรกรรมผ่าน Mobile Banking หรือผ่านมือถือ กว่า 35 ล้านบาท ซึ่งมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่งจากข้อมูลในเดือนธันวาคม ปี 2556 ระบุว่า จำนวนบัญชีลูกค้าที่ใช้บริการได้เพิ่มขึ้นเป็น 8,033, 061 บัญชี นับว่าเพิ่มขึ้นจากเมื่อเดือนมิถุนายนในปี 2555 กว่าร้อยละ 32.7 ปริมาณรายการธุรกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 15,322,000 รายการ นับเป็นร้อยละ 48.7 และมูลค่ารายการทั้งหมดอยู่ที่ 1,732 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก มิถุนายน ปี 2555 กว่าร้อยละ 39.7 ในขณะที่ตัว Mobile Banking ก็มีการเติบโตที่สูง ในเดือนธันวาคมปี 2556 มีมูลค่าโดยรวมอยู่ที่ 79 ล้านบาท เพิ่มจากเดือนมิถุนายนในปี 2555 กว่าร้อยละ 125 หรือเกินเท่าตัว

สำหรับวิธีสมัครหรือเปิดใช้บริการบัญชีอินเตอร์เนตแบงก์กิ้งนั้นไม่ยากเลย คุณสามารถเข้าเปิดใช้ได้ในเว็บไซต์ของทางธนาคาร เพียงแค่ต้องเตรียมเลขบัตรประชาชนและหมายเลขบัญชี อีกทั้งข้อมูลส่วนตัวเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ก็สามารถเปิดใช้ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นข้อมูลที่ต้องใช้ก็แตกต่างกันออกไปตามนโยบายของแต่ละธนาคาร ซึ่งการใช้งาน internet banking นั้นคุณมักต้องลงทะเบียนเบอร์โทรศัพท์มือถือเพื่อรับหมายเลข OTP ด้วย หมายเลข OTP คือเลขหกหลักที่ทางธนาคารจะส่งมายังโทรศัพท์มือถือของคุณ ซึ่งจำเป้นจะต้องกรอกเมื่อต้องการโอนเงินหรือทำธุรกรรมอื่นผ่านช่องทางอินเตอร์เนตแบงก์กิ้ง ซึ่งรหัส OTP ส่วนมากนั้นมักจะมีอายุอยู่ได้แค่ 5 นาที นับเป็นระบบรักษาความปลอดภัยขั้นต้นของทางธนาคารที่กันไม่ให้แฮคเกอร์สามารถโอนเงินออกจากบัญชีของคุณได้

มีคุณก็ย่อมต้องมีโทษ เมื่อมีบัญชีและรหัส ก็ย่อมเปิดโอกาสให้มิจฉาชีพแฮคเอาข้อมูลของคุณเพื่อขโมยเงินในบัญชีได้ แม้ว่าทางธนาคารจะมีมาตรการป้องกันเบื้องต้นแล้วแต่ก็ยังมีความเสี่ยง ซึ่งคุณสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยตนเองดังนี้:

1. ห้ามเผยข้อมูลส่วนตัว เลขบัตรประชาชน ชื่อบัญชี รหัสพาสเวิร์ด กับใครหรือผ่านช่องทางใดทั้งสิ้น
2. ติดต่อคอลเซนเตอร์ธนาคารทันทีเมื่อมีปัญหา อย่าไว้ใจคนอื่น
3. อย่าทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเตอร์เนตสาธารณะ เช่น ในห้าง ในโรงแรม หรือ ตามร้านกาแฟ
4. อย่าคลิ๊กลิงค์อีเมลแปลกปลอมที่ส่งเข้ามาในอีเมลของคุณ
5. ตรวจสอบการเคลื่อนไหวในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ
6. ล็อกออฟทุกครั้งเมื่อทำธุรกรรมเสร็จสิ้น

เพียงปฏิบัติตามขั้นตอนง่ายๆเบื้องต้นก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากมิจฉาชีพและแฮคเกอร์บนโลกออนไลน์ได้แล้ว E-banking มีคุณประโยชน์มากมายทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายอย่างมหาศาล อีกทั้งสามารถทำให้ประหยัดเวลาและค่าเดินทาง ผู้ใช้เพียงแค่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้งาน เท่านี้ชีวิตก็จะสะดวกสบายขึ้นจากบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ที่ทางธนาคารเสนอให้ลูกค้าทุกท่าน