การเป็นชู้และการมีชู้
มีท่านผู้อ่านหลายท่านสอบถามมาเกี่ยวกับการเป็นชู้และการมีชู้ว่า มีความหมายต่างกันอย่างไร เนื่องจากปัจจุบันมีการนอกใจสามีและนอกใจภรรยากันมาก และนับวันจะมีมากขึ้นทุกวัน คนยุคใหม่เป็นคนหลายใจ หลายผัวหลายเมีย มากรักไม่รู้จักพอเรื่องกามารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเมือง นักธุรกิจ ผู้มีอันจะกินทั้งหลาย ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มีปัญหากันถ้วนหน้าจนทางราชการต้องมีกฎระเบียบออกมาเพื่อป้องกันการมีชู้ในหน่วยงานราชการ การเป็นชู้กับการมีชู้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีความหมายต่างกัน คนที่อธิบายเรื่องนี้ได้ดี ไม่มีใครเกินท่านศาสตราจารย์ (พิเศษ) ประสพสุข บุญเดช ปรมาจารย์กฎหมายครอบครัวของไทย ซึ่งท่านได้ให้คำจำกัดความและความหมายไว้ดีมาก เข้าใจง่าย มองเห็นภาพเรื่องการมีชู้และการเป็นชู้เป็นอย่างดี โดยท่านอธิบายไว้ดังนี้ (ในคำบรรยายของเนติบัณฑิตยสภา วิชากฎหมายครอบครัว)
มีท่านผู้อ่านหลายท่านสอบถามมาเกี่ยวกับการเป็นชู้และการมีชู้ว่า มีความหมายต่างกันอย่างไร เนื่องจากปัจจุบันมีการนอกใจสามีและนอกใจภรรยากันมาก และนับวันจะมีมากขึ้นทุกวัน คนยุคใหม่เป็นคนหลายใจ หลายผัวหลายเมีย มากรักไม่รู้จักพอเรื่องกามารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเมือง นักธุรกิจ ผู้มีอันจะกินทั้งหลาย ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มีปัญหากันถ้วนหน้าจนทางราชการต้องมีกฎระเบียบออกมาเพื่อป้องกันการมีชู้ในหน่วยงานราชการ การเป็นชู้กับการมีชู้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีความหมายต่างกัน คนที่อธิบายเรื่องนี้ได้ดี ไม่มีใครเกินท่านศาสตราจารย์ (พิเศษ) ประสพสุข บุญเดช ปรมาจารย์กฎหมายครอบครัวของไทย ซึ่งท่านได้ให้คำจำกัดความและความหมายไว้ดีมาก เข้าใจง่าย มองเห็นภาพเรื่องการมีชู้และการเป็นชู้เป็นอย่างดี โดยท่านอธิบายไว้ดังนี้ (ในคำบรรยายของเนติบัณฑิตยสภา วิชากฎหมายครอบครัว)
การเป็นชู้ หมายถึง การที่ชายสมัครใจร่วมประเวณีกับหญิงที่มีสามีแล้ว ซึ่งในกรณีของสามีที่ถูกภริยาของตนฟ้องหย่าเพราะเหตุที่ไปเป็นชู้กับภริยาผู้อื่นนี้ สามีต้องรู้ว่าหญิงอื่นที่สมัครใจมาร่วมประเวณีกับตนนั้นมีสามีแล้วด้วย จึงจะถือว่าเป็นชู้ หากสามีไม่ทราบว่าหญิงอื่นนั้นมีสามีอยู่แล้ว โดยเข้าใจว่าเป็นหญิงโสดจึงร่วมประเวณีด้วย ดังนี้ ไม่ถือว่าเป็นชู้ เพราะต้องคำนึงถึงเจตนาของชายที่มาล่วงละเมิดสิทธิในครอบครัวของสามีหญิงนั้นเป็นสำคัญ การที่สามีไปร่วมประเวณีกับหญิงอื่นที่มีสามีแล้วนี้ บุคคลทั้งสองต้องสมัครใจร่วมประเวณีกันด้วย หากสามีไปข่มขืนกระทำชำเราหญิงที่มีสามีแล้ว ไม่ถือว่าเป็นชู้ หรือหญิงที่มีสามีแล้วมาข่มขืนกระทำชำเรา สามีของหญิงอื่นก็ไม่ถือว่าเป็นชู้ แต่เป็นการล่วงเกินในทำนองชู้สาวและประพฤติชั่ว การเป็นชู้แม้จะเป็นการกระทำเพียงครั้งเดียวก็ถือเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ แตกต่างจากการที่สามีไปร่วมประเวณีกับหญิงโสดหรือหญิงหม้ายที่ต้องกระทำเป็นอาจิณจึงจะเป็นเหตุฟ้องหย่า
อย่างไรก็ดี การเป็นชู้ถือว่าเป็นการประพฤติชั่วซึ่งเป็นเหตุที่ภริยาฟ้องหย่าสามีได้อยู่แล้ว แต่กฎหมายเพิ่มเติมเข้ามาในเหตุฟ้องหย่าข้อ 1 นี้ เพื่อให้ภริยามีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากสามีและจากภริยาชายอื่นที่มาร่วมทำชู้กันได้ หากศาลพิพากษาให้หย่าขาดจากกันเพราะเหตุนี้ แต่ภริยาชายอื่นนั้นจะต้องรู้ว่าสามีมีภริยาอยู่แล้วด้วยเพราะต้องคำนึงเจตนาของภริยาชายอื่นนั้นในการล่วงละเมิดสิทธิในครอบครัวของภริยาเป็นสำคัญเช่นเดียวกัน
การมีชู้ หมายถึง การที่หญิงมีสามีสมัครใจร่วมประเวณีกับชายอื่นโดยอวัยวะเพศชายได้ล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศหญิงมีสามีนั้น ทั้งนี้โดยไม่คำนึงถึงว่าจะได้มีการสำเร็จความใคร่ด้วยหรือไม่ การที่หญิงมีสามีสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองโดยใช้อวัยวะเพศชายเทียมไม่เป็นการมีชู้ การที่หญิงมีสามีใช้น้ำเชื้อชายอื่นผสมเทียมโดยสามีมิได้ให้ความยินยอมจนหญิงตั้งครรภ์ก็ไม่เป็นการมีชู้ และการที่ชายอื่นและหญิงมีสามีต่างฝ่ายต่างสำเร็จความใครให้แก่กัน (Mutual Masturbation) ก็ไม่ถือว่าเป็นการมีชู้เช่นเดียวกัน แต่เป็นเพียงการประพฤติชั่วที่จะเป็นเหตุหย่าอีกเหตุหนึ่ง
ในปัจจุบันนี้แนวทางการวินิจฉัยของศาลฎีกาเกี่ยวกับภาระการพิสูจน์ในคดีชายชู้นี้ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยไม่ถือว่าจะต้องพิสูจน์โดยปราศจากข้อสงสัยอีกต่อไปแล้ว แม้ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นในเวลาที่ชายหญิงร่วมประเวณีกันก็ตาม แต่ถ้ามีพยานพฤติเหตุแวดล้อม กรณีที่เชื่อได้ว่าชายและหญิงรักใคร่ชอบพอกันในทางชู้สาวและไปอยู่ด้วยกันสองต่อสองในที่ลับมีโอกาสที่จะร่วมประเวณีกันได้แล้ว คดีก็ฟังได้ว่าภริยามีชู้ เช่น คดีของศาลสหรัฐ ภริยาเดินทางโดยทางเรือจากสหรัฐไปยุโรปโดยไม่ฟังคำทัดทานของสามี หลังจากกลับบ้านมาแล้วภริยามีปฏิกิริยาเย็นชากับสามีและบอกกับสามีว่า ตนรักใคร่กับชายที่พบบนเรือ ชายดังกล่าวเดินทางมาสหรัฐและพักแรมในโรงแรมกับภริยาหลายครั้ง คดีฟังได้ว่า “ภริยามีชู้”
การที่หญิงมีชู้ เป็นเรื่องหญิงร่วมประเวณีกับชาย ถ้าเล่นเพื่อนเล่นชู้กับหญิงเพศเดียวกันไม่ถือว่าเป็นการทำชู้ นอกจากนี้ การที่หญิงถูกข่มขืนก็ไม่เรียกว่ามีชู้ เพราะหญิงมิได้สมัครใจจึงไม่เป็นเหตุหย่า แต่ถ้าสามีผู้เป็นโจทก์สามารถพิสูจน์ได้ว่า ภริยาได้ร่วมประเวณีกับชายอื่นแล้ว หน้าที่นำสืบในคดีเปลี่ยนกลับไปอยู่ที่ภริยา โดยภริยามีหน้าที่ที่จะต้องพิสูจน์ว่าการร่วมประเวณีเช่นว่านั้นเกิดขึ้นโดยตนมิได้ยินยอมด้วย ทั้งนี้เพราะข้อเท็จจริงที่ว่า “ยินยอมหรือไม่” นี้อยู่ในความรู้แจ้งของภริยาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น อย่างไรก็ดี เพียงการกอด จูบ ลูบ คลำ ไม่ถึงขั้นร่วมประเวณี ยังไม่เรียกว่ามีชู้ แต่เป็นการประพฤติชั่ว ซึ่งเป็นเหตุหย่าได้ตามเหตุหย่าข้อ 2 พึงสังเกตว่า แม้หญิงจะได้ร่วมประเวณีกับชายชู้เพียงครั้งเดียวก็เป็นการมีชู้แล้ว ไม่ต้องถึงขนาดที่มีผัวลับทำชู้กันเป็นประจำ
ตัวอย่างคำพิพากษาคดีเรื่องชู้
1.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 454/2533
บุตรยืนยันว่ามีการร่วมประเวณีกัน ฟังได้ว่ามีชู้
2.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2538
การที่จำเลยทั้งสองพากันเข้าไปในโรงแรมโรสทาวน์ซึ่งเป็นโรงแรมม่านรูดในวันที่ 11 และ 28 ธ.ค. 2527 จะให้รับฟังเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากไปร่วมประเวณีกัน มิฉะนั้นแล้วก็ย่อมไม่มีเหตุที่จำเลยทั้งสองควรพากันเข้าไปในสถานที่เช่นนั้นถึงสองครั้งสองคราว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นชู้กับจำเลยที่ 2 โจทก์มีสิทธิฟ้องหย่าจำเลยที่ 1 ได้
ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เหตุฟ้องหย่าเนื่องจากเป็นชู้หรือมีชู้
ป.พ.พ. มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้
(1) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
การเรียกค่าทดแทนจากชู้
ป.พ.พ. มาตรา 1523 เมื่อศาลพิพากษาให้หย่ากันเพราะเหตุตามมาตรา 1516 (1) ภริยาหรือสามีมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากสามีหรือภริยาและจากผู้ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่อง หรือผู้ซึ่งเป็นเหตุแห่งการหย่านั้น
สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้
ถ้าสามีหรือภริยายินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจให้อีกฝ่ายหนึ่งกระทำการตามมาตรา 1516 (1) หรือให้ผู้อื่นกระทำการตามวรรคสอง สามีหรือภริยานั้นจะเรียกค่าทดแทนไม่ได้
คำแนะนำทนายคลายทุกข์ การมีผัวเดียวเมียเดียว อยู่อย่างพอเพียงตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเรื่องที่ดี ควรยึดถือเป็นหลักในการดำเนินชีวิตคู่นะครับ