กล้วยตากไทยดังถึงเกาหลี!โกยกว่า300ล้าน

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

กล้วยตาก ขนมไทยแท้ที่อยู่กับประเทศไทยมานาน กำลังสยายปีกและเติบโตไปต่างประเทศทั้งอาเซียน ในประเทศมาเลเซีย รวมถึงประเกาหลีใต้ ที่ชื่นชอบรสชาติกล้วยตากไทย กับแบรนด์นี้ “ป้าเพียน” มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมให้กล้วยไทย 

“สิทธิพงษ์ แสงสมัย” ผู้บริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัด แม่ตะเพียนการเกษตร จ.พิจิตร ในฐานะทายาทรุ่นสาม ของแบรนด์นี้ที่อยู่ในประเทศมาถึง 25 ปี โดยสินค้าของ “ป้าเพียน” มีทั้งกล้วยตาก มะขามจี๊ดจ๊าด และมะม่วงหยี ซึ่งได้ทำตลาดในประเทศผ่านทั้งห้างค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าต่างๆ มีรสชาติตั้งแต่ รุ่นต้นตำรับคือ กล้วยตากธรรมชาติ กล้วยตากอบน้ำผิ้ง และรุ่นที่เคลือบรสชาติต่างๆ ประมาณ 4-5 รส ทั้ง กล้วยตากเคลือบรสกาแฟ เคลือบรสสตอเบอรี และเคลือบรสช็อกโกแลต เป็นต้น

พร้อมกันนี้กำลังเปิดตัว กล้วยตากรุ่นใหม่ ที่จะผสมรสชาติ (ดิพ) ต่างๆ อยู่ในกล้วยตากเป็นเนื้อเดียวกัน จากปัจจุบันเป็นเคลือบรสต่างๆ อยู่ที่กล้วยตาก โดยการมีดิพรสชาติอยู่ในกล้วยตาก จะทำให้ได้รสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น และเป็นรูปแบบใหม่ของกล้วยตาก ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในไทย ทั้งดีไซน์และบรรจุภัณฑ์ที่จะเปลี่ยนใหม่พร้อมกัน เชื่อว่า ถ้าลูกค้าได้เห็นแล้ว จะต้องสนใจในรูปโฉมของกล้วยตากแบบใหม่ คาดว่าจะเปิดตัวเข้ามาทำตลาดในประเทศ ประมาณ 2 เดือนนับจากนี้

ขณะเดียวกัน กำลังพัฒนาสินค้า กล้วยตาก ที่จะวางขายเป็นชิ้นๆ โดยเมื่อบริโภคก็นำไปเข้าตู้อบไมโครเวฟ เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีสุดของกล้วยตาก ทั้งรสชาติความหวานและกล้วยที่กำลังอุ่นๆ คาดว่าจะเริ่มกับร้านค้าสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ภายในปีนี้ เจาะกลุ่มลูกค้าคนทำงาน หรือ คนทั่วไป ที่ชื่นชอบบริโภคกล้วย

สำหรับตลาดต่างประเทศนั้นได้เริ่มส่งออก มะขามจี๊ดจ๊าด เข้ามาทำตลาดในประเทศมาเลเซียแล้ว เจาะกลุ่มเป้าหมายชาวมุสลิม ซึ่งชื่นชอบมะขามจี๊ดจ๊าด เพราะยังไม่มีสินค้าในรูปแบบนี้ในประเทศ สินค้ามีราคาไม่สูง รวมทั้งนิยมบริโภคในช่วงเวลาที่เดินทาง ประกอบกับชาวมาเลเซีย จะชอบสินค้าที่หวานน้อยๆ

ประเทศต่อมาคือ เกาหลี ได้เข้าไปทำตลาดแล้วในต้นปีที่ผ่านมา โดยวางจำหน่ายในห้างล็อตเต้ ห้างชื่อดังของประเทศเกาหลี และห้างฮุนได รวมทั้งกำลังเข้าไปจำหน่ายผ่านทีวีขายตรงของเกาหลี ภายใต้ชื่อแบรนด์ “ป้าเพียน” โดยตลาดเกาหลี ก็ชื่นชอบสินค้าไทย และกล้วยตากไทย

พร้อมกันนี้ สนใจขยายตลาดส่งออกไปต่างประเทศให้มากขึ้น เพราะตลาดในต่างประเทศมีศักยภาพเติบโตได้อีกไกล ขณะที่การแข่งขันในประเทศทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากมีแบรนด์กล้วยตากจำนวนมาก รวมทั้งในช่วงฤดูผลไม้ ก็กระทบต่อยอดขายของกล้วยตาก ลดลงประมาณ 30% เพราะผู้บริโภคคนไทยจะหันไปซื้อผลไม้สดมารับประทาน ดังนั้น การขยายตลาดส่งออกจะช่วยเพิ่มโอกาสการขายใหม่ๆ

แม้ว่า ตลาดในประเทศจะแข่งขันรุนแรงมาก สิ่งสำคัญที่ทำให้ ป้าเพียน อยู่ในตลาดได้อย่างยั่งยืนคือ ใช้คำว่า คุณภาพ และใช้วัตถุดิบที่ดี รวมทั้งมุ่งแข่งขันกับตัวเอง พัฒนาสินค้าต่อเนื่อง ซึ่งแหล่งปลูกกล้วยตากจะอยู่ในพื้นที่ จ.พิจิตร และ จ.พิษณุโลก รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง มากกว่า 1,000 ไร่ มีกำลังการผลิตกล้วยตากมากกว่า 10 ตันต่อวัน และมีโรงตากกล้วยตาก ที่เรียกว่า พาราโบลาโดม จำนวน 30 โดม มากสุดในประเทศไทย

ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมาย ในปี 2557 นี้ จะสร้างยอดขายได้มากกว่า 300 ล้านบาท เติบโต 25% จากปีก่อน สัดส่วนยอดขายมาจากตลาดในประเทศ 90% และต่างประเทศ 10% คาดว่าในปีต่อไป ยอดขายจากต่างประเทศจะเติบโตสูงขึ้น 

เป้าหมายระยะยาว พร้อมขยายตลาดส่งออก ละสร้างแบรนด์ ป้าเพียน ให้ลูกค้ารู้จักเพิ่มขึ้น รวมถึงคนรุ่นใหม่ในประเทศ พร้อมกับใช้ นวัตกรรมนำหน้า ธุรกิจ เพื่อสร้างสินค้า กล้วยไทยให้มีโฉมใหม่ และโดดเด่นยิ่งขึ้น มั่นใจว่า ศักยภาพของกล้วยตากไทย ขนมไทยแท้ มีโอกาสโด่งดังไปไกลทั่วโลกแน่นอน

แนวคิดทายาทรุ่นใหม่ของธุรกิจ

1.รักษาเอกลักษณ์ของสินค้าดั้งเดิม ผสมกับการสร้างนวัตกรรมใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง

2.หาโอกาสใหม่ๆ ช่องทางขายในประเทศและต่างประเทศ

3.พร้อมปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์

4.สร้างแบรนด์สินค้าให้ลูกค้ารู้จักมากที่สุด