posttoday

เลี้ยงปลากับกุ้งรวมกัน ด้วยนวัตกรรม 'โค-คัลเจอร์'

06 กรกฎาคม 2557

ปลา เป็นสัตว์น้ำที่มีสารอาหารให้ประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้ปัจจุบันมีเกษตรกรหันมาเลี้ยงปลา

โดย...ทีมข่าวธุรกิจติดดาวโพสต์ทูเดย์

ปลา เป็นสัตว์น้ำที่มีสารอาหารให้ประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้ปัจจุบันมีเกษตรกรหันมาเลี้ยงปลาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเกษตรกรที่อาศัยริมแม่น้ำต่างหันมาเลี้ยงปลาในกระชังเป็นอาชีพ โดย วิฑูร สุนทรเสณี เจ้าของบางปะกงฟาร์ม ก็เป็นหนึ่งในเกษตรกรที่เลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง ริมแม่น้ำบางปะกง หนึ่งในแหล่งน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ ปลาที่ได้จะถูกเรียกว่าเป็นปลา 2 น้ำ คือ เป็นจุดที่น้ำจืดและน้ำเค็มมารวมกัน

เนื้อปลาที่ได้จึงมีรสชาติอร่อยเป็นพิเศษ รวมทั้งในแม่น้ำบางปะกงก็มีแร่ธาตุและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเลี้ยงปลาในกระชังอีกด้วย แต่การเลี้ยงปลาในกระชังริมแม่น้ำบางปะกงดูเหมือนจะไม่ง่ายเลย เพราะต้องคอยดูแลเอาใจใส่ อีกทั้งอุณหภูมิในน้ำและปัจจัยต่างๆ ที่มาจากธรรมชาติ ยากเกินที่จะควบคุม จนทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาเกือบหมดตัวมาแล้ว

ปัญหาที่ทำให้เจ้าของบางปะกงฟาร์มเกือบหมดตัวจากการเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง ก็คือคุณภาพน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควบคุมยากลำบากมาก เพราะเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ การเลี้ยงปลาทับทิมนี้หัวใจสำคัญจะต้องมีคุณภาพน้ำที่เหมาะสม โดยเฉพาะออกซิเจนในน้ำ ความข้นใสของน้ำ แคลเซียม และแมกนีเซียม ฯลฯ

เลี้ยงปลากับกุ้งรวมกัน ด้วยนวัตกรรม \'โค-คัลเจอร์\'

 

“สิ่งเหล่านี้ควบคุมได้ยากมาก อีกทั้งช่วงฤดูฝนน้ำหลากลงมา ระดับน้ำ อุณหภูมิน้ำก็เปลี่ยนไป ซ้ำยังมาเจอโคลนที่อาจติดในเหงือกปลาอีก และเมื่อเวลาน้ำเค็มหนุน สภาพน้ำที่แปรปรวนสลับน้ำเค็มและน้ำจืดอยู่ตลอด เพิ่มความเครียดให้กับปลา และทำให้ปลาตาย” วิฑูร กล่าว

ทั้งนี้ ในอดีตบางปะกงฟาร์มเคยใช้เครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำ หรือแม้แต่การใช้ยารักษาปลา แต่ผลสุดท้ายเมื่อเจอภัยธรรมชาติ หรือความเสื่อมโทรมจากสภาพของน้ำในธรรมชาติที่มีการพัดพานำเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อปลาทับทิม ก็ทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้กว่า 400 กระชัง ตายเกือบหมด

เวลานั้น วิฑูร ยอมรับว่าเครียดมาก เพราะไม่รู้จะหาหนทางวิธีใดมาเลี้ยงปลาทับทิม ซึ่งเป็นอาชีพที่รัก ให้ปลาสามารถอยู่รอดได้ จนกระทั่งมาได้รับคำแนะนำให้เลี้ยงปลาในกระชังบ่อดิน โดยบางปะกงฟาร์มนี้มีเนื้อที่ทำบ่อดินทั้งหมด 60 ไร่

เลี้ยงปลากับกุ้งรวมกัน ด้วยนวัตกรรม \'โค-คัลเจอร์\'

 

หลายคนอาจสงสัยว่า การนำมาปลาจากในกระชังริมแม่น้ำ ย้ายมาไว้ในบ่อดิน ปลาจะอยู่รอดได้อย่างไร แต่การย้ายมาเลี้ยงในบ่อดินนั้น ต้องมีวิธีและเทคนิคการเลี้ยงที่ถูกวิธี ซึ่งทางบางปะกงฟาร์มก็ได้รับคำแนะนำจาก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟ ให้เลี้ยงด้วยเทคโนโลยีการเลี้ยงระบบ “โคคัลเจอร์”(CoCulture) ที่ซีพีเอฟคิดค้นขึ้นมาให้สามารถเลี้ยงสัตว์น้ำ3 ชนิด คือ กุ้งก้ามกราม กุ้งขาว และปลาทับทิม ในบ่อเดียวกัน

ด้าน วันชัย ธัญญพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจสัตว์น้ำจืด บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า การเลี้ยงด้วยระบบ “โคคัลเจอร์” จะต้องสำรวจพื้นที่การทำบ่อดินของเกษตรกรก่อน โดยซีพีเอฟจะเข้าไปให้คำแนะนำ ตั้งแต่การสำรวจพื้นที่ แหล่งน้ำที่ใช้ พื้นดินของบ่อเหมาะสมหรือไม่ และการถ่ายน้ำจากบ่อออกไปรบกวนแหล่งน้ำธรรมชาติหรือไม่

เลี้ยงปลากับกุ้งรวมกัน ด้วยนวัตกรรม \'โค-คัลเจอร์\'

 

จากนั้นวิศวกรของซีพีเอฟจะออกแบบบ่อให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และสร้างบ่อ ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน เพราะต้องมีการเตรียมน้ำในบ่อดินและปรับสภาพบ่อดินให้มีความพร้อมสมบูรณ์พร้อมให้ปลาอาศัยอยู่ โดยวิธีการนี้จะช่วยเกษตรกรในการเลี้ยงปลากระชัง เพราะจากเดิมควบคุมแหล่งน้ำจากธรรมชาติไม่ได้ แต่วิธีนี้สามารถควบคุมน้ำจากธรรมชาติได้ ก็ทำให้เกษตรกรคำนวณผลผลิตได้ดีขึ้น

การย้ายปลาทับทิมจากริมแม่น้ำบางปะกงมาเลี้ยงในกระชัง นอกจากจะแก้ปัญหาเรื่องการควบคุมผลผลิตได้แล้ว ยังสามารถนำกุ้งขาวมาเลี้ยงรวมกันในบ่อได้อีกด้วย ซึ่งการเลี้ยงวิธีนี้จะช่วยเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกร และยังมีประโยชน์ต่อปลาทับทิมที่อยู่ในกระชัง และกุ้งขาว ซึ่งในตัวปลามีแบคทีเรียและจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ สามารถไปยับยั้งเชื้อโรคที่เป็นภัยต่อกุ้งขาว ทำให้กุ้งขาวไม่ป่วยเป็นโรค ถือเป็นการเลี้ยงที่ใช้ระบบนิเวศตามธรรมชาติของสัตว์น้ำมาดูแลซึ่งกันและกัน

เลี้ยงปลากับกุ้งรวมกัน ด้วยนวัตกรรม \'โค-คัลเจอร์\'

 

ทั้งนี้ การเลี้ยงด้วยระบบ “โคคัลเจอร์” (CoCulture) โดยใช้โปรแกรมซีพีเอฟเทอร์โบ คือ การเลี้ยงสัตว์น้ำที่คำนึงถึงผู้บริโภค เลี้ยงเชิงป้องกัน จะไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะและสารเคมี ด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ บวกกับการคิดค้นนวัตกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำ ดูแลคุณภาพน้ำทำให้ได้ปลาที่มีสุขภาพดี ปลอดจากสารเคมี ซึ่งจะส่งผลให้ผู้บริโภคไปรับประทานอาหารที่ปลอดภัย

ปัจจุบันบางปะกงฟาร์มเลี้ยงปลาในกระชังบ่อดิน จำนวน 14 บ่อ สามารถจับปลาทับทิมขายได้ 14 ตัน/เดือน ส่วนกุ้งขาวสามารถจับขายได้ประมาณ 3 ตัน/เดือน ทำให้บางปะกงฟาร์มมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนสูงถึงหลักแสนบาท จากในอดีตที่ต้องคอยเฝ้าระวังว่าปลาในกระชังจะตายกี่ตัว และจะเกิดโรคหรือไม่

เลี้ยงปลากับกุ้งรวมกัน ด้วยนวัตกรรม \'โค-คัลเจอร์\'

 

แต่ปัจจุบันไม่ต้องกังวลเรื่องนี้แล้ว เพราะได้รับคำแนะนำและเทคนิคที่ดีในการเลี้ยงปลาจากซีพีเอฟ ที่เข้ามาช่วยเหลือให้คำแนะนำจนประสบความสำเร็จ สามารถต่อยอดธุรกิจจำหน่ายลูกพันธุ์ปลาทับทิมคุณภาพให้กับเกษตรกรรายย่อย

นอกจากนี้ ทางบางปะกงฟาร์มยังเล็งเห็นถึงคุณค่าความเป็นธรรมชาติของริมแม่น้ำบางปะกง จึงได้สร้างรีสอร์ทและร้านอาหารริมแม่น้ำบางปะกงให้นักท่องเที่ยวมาชมพระอาทิตย์ตกดิน บรรยากาศริมน้ำที่แสนสบาย และชิมอาหารที่ทำมาจากปลาสดๆ จากกระชัง และยังมีกิจกรรมอีกมากมาย สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-619-6020

เลี้ยงปลากับกุ้งรวมกัน ด้วยนวัตกรรม \'โค-คัลเจอร์\'