"มิสเตอร์ สกิน” สร้างรายได้จากฉากหวิว
โดย...ชาลินี ลงกานี
โดย...ชาลินี ลงกานี
คํากล่าวหนึ่งที่ได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่า “ให้ทำในสิ่งที่รัก” แต่โชคร้ายที่ความชอบของคนส่วนใหญ่หยุดอยู่แค่เพียงงานอดิเรก หรือกลายเป็นธุรกิจที่ไม่ประสบความสำเร็จ แล้วถ้าเกิดว่าความหลงใหลนั้นสุดแสนจะแปลกจนไม่คาดคิดว่าจะเปลี่ยนมาเป็นธุรกิจที่ทำกำไรมหาศาลได้เลยล่ะ?
อย่างนี้ต้องลองถาม จิม แมคไบรด์ ชายที่มีมันสมองเป็นเลิศในด้านการจดจำและระบุนักแสดงในฉากวาบหวามจากภาพยนตร์ และเปลี่ยนให้มาเป็นกิจการมูลค่าหลายล้าน พร้อมกับสร้างเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมไม่เดือนละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน
เมื่อย้อนกลับไปในสมัยครั้งเป็นเด็กหนุ่มมัธยมปลาย แมคไบรด์ หรือที่รู้จักกันในวงการว่า “มิสเตอร์ สกิน” ก็ได้ลองค้นหารายการภาพยนตร์ที่มีฉากวาบหวิวประกอบและนำมาตัดต่อให้กลายเป็นวิดีโอที่มีแต่ฉากโป๊จากหนังหลายๆ เรื่อง ไม่ช้าจากความคึกคะนองก็ทำให้ แมคไบรด์ กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สามารถตอบคำถามจากเพื่อนๆ เกี่ยวกับช็อตเด็ดได้อย่างแม่นยำ
แม้ว่าจะเริ่มเข้าทำงานอย่างเป็นจริงเป็นจังที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์แห่งเมืองชิคาโก มิสเตอร์ สกิน ก็ยังคงปล่อยให้ความสามารถพิเศษโลดแล่น เพราะทั้งเพื่อนร่วมงานและลูกค้าที่รู้จักกันดีก็มักถามว่านางเอกสาวในดวงใจเคยเปลื้องผ้าในภาพยนตร์เรื่องไหนบ้างหรือเปล่า และทักษะนี้ก็ได้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในปี 1977 เมื่อผู้จัดรายการวิทยุได้เชิญ แมคไบรด์ ไปออกรายการเพื่อให้ผู้ฟังทางบ้านได้โทรเข้ามาถามเรื่องฉากติดเรทในหนัง ซึ่ง แมคไบรด์ ก็ไม่เคยตอบพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ก็เลือกที่จะไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงเลยตั้งฉายาให้กับตัวเองว่า มิสเตอร์ สกิน
รายการได้รับความนิยมมากจนมีผู้แนะนำให้เปิดเว็บไซต์ จนในปี 1999 เว็บไซต์เดอะสกินดอทคอม ก็ได้ถูกก่อตั้งขึ้นจากเงินทุนจำนวนน้อยนิด สิ่งที่ทำให้เว็บไซต์ของ แมคไบรด์ ได้รับความนิยมเป็นเพราะบรรยากาศที่ไม่ได้ดูอนาจาร แต่กลายเป็นแหล่งรวมตัวของผู้ที่มีความสนใจเกี่ยวกับภาพยนตร์ ดังที่ผู้ก่อตั้งกล่าวเอาไว้ว่า “เราไม่ได้อยากเปิดเว็บโป๊ เราแค่อยากให้มีความสนุก”
นอกจากนี้ แมคไบรด์ ก็ทราบดีว่าเรื่องลิขสิทธิ์จะต้องเป็นปัญหาใหญ่อย่างแน่นอนสำหรับการตัดต่อทำวิดีโอคลิป จึงได้ไปถามทนายว่าจะต้องทำอย่างไรจึงจะไม่ถูกฟ้องและถูกปิด ทนายสาวประจำบริษัทตอบกลับมาว่าจะต้องทำเว็บไซต์ให้มีเนื้อหากึ่งวิพากษ์วิจารณ์หนัง และคอยอัพเดทข้อมูลข่าวสารและเป็นเรื่องน่าแปลกที่บรรดาค่ายหนังยักษ์ใหญ่ไม่ได้เกลียดเดอะสกินดอทคอมที่เอาภาพยนตร์ของบริษัทไปตัดต่อเลย แต่กลับส่งตัวอย่างหนังมาให้ดูก่อนจะฉายจริงเสียด้วยซ้ำ เพราะเว็บไซต์นี้มีผู้เข้าชมล้นหลาม บริษัทภาพยนตร์ก็ได้โฆษณาไปในตัวเลย
ในแง่ของการตลาด มิสเตอร์สกินทราบดีอยู่แล้วว่าธุรกิจนี้คงไม่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทโฆษณาทุกบริษัท ดังนั้นในเมื่อทีเด็ดของบริษัทอยู่ที่ความสามารถของเจ้าของ ก็ต้องยอมเสียสละเวลาเพื่อไปออกรายการสัปดาห์ละไม่ต่ำกว่า 1015 รายการ เพื่อเป็นการโปรโมทกิจการไปในตัว ซึ่ง แมคไบรด์ ระบุว่าเป็นวิธีการที่ทำให้บริษัทเป็นที่รู้จัก
เมื่อถูกถามถึงวิธีการขยับขยายธุรกิจให้เติบโตจนมีมูลค่าหลายล้าน แมคไบรด์ ก็ได้ให้คำแนะนำว่า “จะต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควรจะขอความช่วยเหลือ อย่าคิดว่าสามารถทำทุกอย่างเองได้ ตัวผมเองนั้นเขียนไม่เก่ง จึงต้องจ้างนักเขียนเพิ่มเติม ผมดึงคลิปและรูปภาพไม่เก่ง ก็ต้องหาผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วย เมื่อผมนั้นถนัดในเรื่องการให้ข้อมูลและการโปรโมทบริษัท จึงมุ่งหน้าพัฒนาศักยภาพของตน ส่วนด้านอื่นก็ปล่อยให้ผู้อื่นดูแลแทน”
ในปัจจุบัน ธุรกิจของมิสเตอร์สกินได้ขยับขยายไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นหญิงและชาวสีม่วงมากขึ้น โดยการเปิดตัวเว็บไซต์ “มิสเตอร์แมน” ที่รวบรวมภาพและวิดีโอคลิปของนักแสดงหนุ่มเอาไว้มากมาย
แม้ว่าการเจาะกลุ่มตลาดใหม่นั้นจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ทว่า แมคไบรด์ ก็มั่นใจว่าการคร่ำหวอดอยู่ในวงการกว่าและสั่งสมชื่อเสียงให้กับมิสเตอร์สกิน 14 ปี จะทำให้ลูกค้าไว้วางใจและเลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง