ธุรกิจไอเดียเจ๋ง บริการอาบน้ำตัดขนน้องหมาถึงบ้าน
“คงถูกใจคนรักสัตว์เลี้ยงอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะคนรักสุนัขหรือน้องหมา กับธุรกิจไอเดียเจ๋ง ‘บริการอาบน้ำ ตัดขนสุนัขถึงบ้านแบบเดลิเวอรี’
โดย...ภาดนุ ภาพ ไม่มีเครดิต
“คงถูกใจคนรักสัตว์เลี้ยงอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะคนรักสุนัขหรือน้องหมา กับธุรกิจไอเดียเจ๋ง ‘บริการอาบน้ำ ตัดขนสุนัขถึงบ้านแบบเดลิเวอรี’ ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบความสะดวกสบาย ไม่ยุ่งยาก ไม่เสียเวลาเดินทาง ฟังดูแล้วก็น่าสนใจ
ดีนะ เพราะธุรกิจบริการอาบน้ำตัดขนสัตว์เลี้ยงแบบเดลิเวอรีนี้ ถือว่าเป็นรายแรกของเมืองไทยเลยก็ว่าได้
พอว์พาลส์ โมบาย ด็อก กรูมมิ่ง
บริการอาบน้ำ ตัดขนสุนัข แบบเดลิเวอรี
ฐิติกุล อยู่วิทยา หรือพลอย เซเลบสาวคนเก่งหน้าตาสดใสวัย 24 ปีคนนี้ นอกจากจะเป็นหลานสาวของคุณปู่เฉลียว อยู่วิทยา ผู้ก่อตั้งเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดงแล้ว เธอยังเป็นเจ้าของธุรกิจบริการอาบน้ำตัดขนสุนัขถึงบ้านแบบเดลิเวอรีเจ้าแรกในเมืองไทย ที่คนรักน้องหมาน้องแมวผู้เคยเรียกใช้บริการรู้จักกันดี ภายใต้ชื่อ “พอว์พาลส์ โมบาย ด็อก กรูมมิ่ง” (Pawpals Mobile Dog Grooming) พลอยพูดถึงแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นทำธุรกิจนี้ให้ฟังแบบเป็นกันเอง
“ธุรกิจนี้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่พลอยเรียนจบปริญญาโททางด้านมาร์เก็ตติ้งจากอังกฤษและกลับมาอยู่บ้าน ด้วยความที่พลอยเป็นคนรักสุนัข พลอยจึงเลี้ยงน้องหมาไว้ที่บ้านสองตัว แล้วพลอยก็มีหน้าที่ต้องพาน้องหมาไปอาบน้ำตัดขนอยู่เรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพลอยจะมีเวลาว่างแค่วันเสาร์อาทิตย์ เลยรู้สึกว่ามันไม่ค่อยสะดวก อีกอย่างเวลาพาน้องหมาไปอาบน้ำตัดขนแล้วจะต้องฝากน้องหมาไว้ตั้งครึ่งค่อนวัน เสร็จแล้วก็ต้องขับรถออกไปรับน้องหมากลับบ้านอีก พลอยเลยปิ๊งไอเดียว่ามันน่าจะมีบริการอาบน้ำตัดขนน้องหมาแบบเดลิเวอรีถึงบ้านบ้างนะ เลยปิ๊งไอเดียคิดทำธุรกิจนี้ขึ้นมา โดยได้ต้นแบบมาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งที่ต่างประเทศธุรกิจนี้ได้รับความนิยมมากค่ะ”
บริการของพอว์พาลส์มีทั้งอาบน้ำ ตัดขน ตัดเล็บ เช็ดหู บีบต่อมก้น ดูแลแผลใต้เท้า แผลใต้ท้อง พลอยบอกว่า ก่อนเริ่มทำธุรกิจนี้เธอได้ทำการสำรวจฐานลูกค้าก่อนว่า ถ้ามีบริการแบบนี้ลูกค้าจะสนใจไหม ปรากฏมีคุณป้าท่านหนึ่งรีบบอกเลยว่า ถ้าเปิดให้บริการแล้วขอจองล่วงหน้าเป็นรายแรกเลย แถมยังมีคนรักน้องหมารายอื่นๆ ที่พูดเป็นเสียงเดียวกัน พลอยจึงเดินหน้าลุยธุรกิจนี้ทันที
“พอว์พาลส์มีรถยนต์บริการอาบน้ำ ตัดขน 2 คัน ซึ่งสามารถบริการอาบน้ำ ตัดขน ตัดเล็บ และดูแลน้องหมาในรถคันนั้นได้แบบครบถ้วนเลย ซึ่งรถยนต์แต่ละคันนี้ใช้เงินลงทุนติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ คันละล้านกว่าบาท และยังมีรถมอเตอร์ไซค์อีก
1 คันไว้เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการลูกค้าและรองรับปัญหาเรื่องรถติดด้วยค่ะ ในหนึ่งวันพอว์พาลส์สามารถให้บริการสุนัขได้ถึงวันละ 10 ตัว/วัน/รถ 1 คัน ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 500 บาท/สุนัข 1 ตัว ซึ่งธุรกิจนี้ทำรายได้ให้เดือนละหลายแสนบาทเลยละ”
พลอยบอกว่า พอว์พาลส์ให้บริการลูกค้าทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ลูกค้าสามารถโทรนัดและเรียกใช้บริการได้เลย โดยค่าบริการอาบน้ำตัดขนสุนัขจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และน้ำหนักของน้องหมา รวมทั้งระยะทางที่พอว์พาลส์จะต้องเดินทางไปด้วย อย่างเช่น สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ซึ่งมีแผงขนถึง 3 ชั้น จะคิดราคา 1000 บาทขึ้นไป แต่ถ้าเป็นสุนัขตัวเล็กๆ อย่างพันธุ์ปอมเมอเรเนียน จะคิดราคาค่าอาบน้ำตัดขน 480 บาท เป็นต้น นอกจากบริการอาบน้ำตัดขนน้องหมาแล้ว ใครที่เลี้ยงแมวหรือกระต่ายก็สามารถเรียกใช้บริการเหล่านี้ได้ด้วยเหมือนกัน
จากความชื่นชอบในการเลี้ยงสุนัข ทำให้สาวคนนี้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่แตกต่าง จนกลายเป็นธุรกิจอาบน้ำตัดขนสุนัขเคลื่อนที่แบบเดลิเวอรีดังที่กล่าวมา แล้วยังต่อยอดไปสู่ธุรกิจเพื่อสุนัขแบบครบวงจรแห่งแรกในเมืองไทย ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้รักสัตว์เลี้ยงอีกด้วย
“ตอนนี้พลอยยังเปิด เพ็ตโปร ซูเปอร์สโตร์ (Petpro Superstore) หรือซูเปอร์มาร์เก็ตสัตว์เลี้ยงครบวงจร ที่ขายทั้งอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ทั้งอาหารและขนมของน้องหมา น้องแมว กระต่าย หนู และปลา ซึ่งไอเดียในการเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตสัตว์เลี้ยงเกิดขึ้น เพราะว่าเวลาที่พลอยไปช็อปปิ้งอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงในเมืองไทย พลอยรู้สึกว่ามันมีไม่ค่อยครบครัน แต่ที่เมืองนอกจะมีครบวงจรเลยค่ะ พลอยก็เลยตัดสินใจเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตสัตว์เลี้ยงเองเลยดีกว่า แล้วพลอยยังทำนิตยสารเพื่อคนรักสัตว์เลี้ยงที่ชื่อว่า Petple อีกด้วยค่ะ”
นอกจากธุรกิจบริการอาบน้ำตัดขนแบบเดลิเวอรีแล้ว พลอยยังมีธุรกิจบริการน้องหมาแบบครบวงจรตั้งแต่เกิดจนตาย โดยมีทั้งร้านขายสัตว์เลี้ยงที่ขายลูกหมา ลูกแมว และลูกกระต่าย รวมทั้งมีบริการฌาปนกิจสัตว์เลี้ยงด้วย ซึ่งจะมีเตาสำหรับเผาศพน้องหมาผู้จากไปโดยเฉพาะ แถมยังมีการทำพิธีสวด มีการลอยอังคารและถวายสังฆทานเหมือนคนเลยล่ะ
“ไอเดียเหล่านี้มันมาจากทัศนคติในการเลี้ยงน้องหมาที่เรารักเขาเหมือนลูก ยามที่เขาเสียชีวิตไป เราก็อยากให้เขาไปสู่สุคติน่ะค่ะ ซึ่งคนรักสัตว์เลี้ยงหลายคนก็อยากทำให้ดีที่สุดเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งบริการของเราจะทำพิธีให้ที่วัดธาตุทองและวัดไก่เตี้ยค่ะ”
เมื่อถามถึงค่าบริการของการทำฌาปนกิจสัตว์เลี้ยง พลอยบอกว่า ราคาขึ้นอยู่กับน้ำหนักของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ ถ้าตัวใหญ่หน่อยก็คิดราคา 4,000 บาท ส่วนสัตว์อื่นๆ ก็รับทำฌาปนกิจให้ด้วยเช่นกัน ดูข้อมูลได้ที่ www.thepawpals.com, www.facebook.com/thepawpals หรือ www.petpro.co.th
มุมมองจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงผู้ใช้บริการ
เพ็ญสินี (อายุ 52 ปี)
“เหตุผลสำคัญที่ดิฉันเลือกใช้บริการของพอว์พาลส์ก็คือความสะดวกสบาย เพราะดิฉันไม่ต้องขับรถพาสุนัขเดินทางไปอาบน้ำตัดขนถึงที่ร้าน จึงช่วยประหยัดเวลาได้มากเลย แถมรถยังไม่เลอะฉี่เลอะอึสุนัขให้ต้องมาทำความสะอาดอีกด้วย เบาะรถก็ไม่มีรอยข่วนรอยกัด และยังสามารถโทรนัดวันล่วงหน้าได้ ราคาก็ไม่แพงจนเกินไป ยังพอรับได้ค่ะ
ดิฉันเลี้ยงสุนัขไว้ทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน มีพันธุ์ชิห์สุ ชิวาวา และพันธุ์ไทยผสม ครั้งแรกที่ใช้บริการดิฉันต้องจับสุนัขให้พนักงานอาบน้ำและตัดขนทีละตัวๆ เพราะสุนัขยังไม่คุ้นเคยกับพนักงานที่มาให้บริการ แต่เมื่อคุ้นเคยกันดีแล้ว การเรียกใช้บริการในครั้งที่สองก็ไม่มีปัญหาอะไร พออาบน้ำตัดขนจนสะอาดขนสวยแล้ว เจ้าสุนัขทั้งสามตัวมันจะวิ่งโชว์ตัวไม่หยุดเลย (หัวเราะ) เห็นแล้วก็ขำดีค่ะ”
พิมพรรณ (อายุ 32 ปี)
“ดิฉันรู้จักบริการของพอว์พาลส์เพราะอ่านเจอในนิตยสารและเว็บไซต์ จึงมีความสนใจและคิดที่จะเรียกใช้บริการ เนื่องจากตอนนี้ดิฉันเพิ่งคลอดลูก ต้องดูแลและให้นมลูก จึงขยับตัวไปไหนไกลๆ ไม่ได้ ช่วงนี้จึงไม่มีเวลาที่จะพาสุนัขไปอาบน้ำตัดขนเลยค่ะ สุนัขที่เลี้ยงไว้มี 2 ตัว เป็นพันธุ์ปอมเมอเรเนียนและชิบะซึ่งเป็นสุนัขขนาดกลาง ตัวไม่ใหญ่มากนัก
ต้องบอกว่าครั้งแรกที่เรียกใช้บริการของพอว์พาลส์ โชคดีที่พนักงานชุดแรกค่อนข้างจะเก่ง ทำให้การอาบน้ำตัดขนค่อนข้างจะราบรื่นดี พอครั้งที่สองครั้งที่สามน้องหมาของดิฉันจึงติดใจ แม้จะเปลี่ยนพนักงานหรือช่างชุดอื่นมาให้บริการก็ไม่มีปัญหาอะไร ดิฉันจะเรียกใช้บริการอาบน้ำน้องหมาสัปดาห์ละครั้ง พร้อมกับให้ช่างเล็มขนบริเวณก้นให้น้องหมาทั้งสองตัวด้วย จะได้สะดวกเวลาที่พวกมันถ่าย
ถ้าพูดถึงราคาค่าบริการก็ถือว่าแพงกว่าการอาบน้ำตัดขนที่ร้านแน่นอน แต่ถ้าคิดว่าต้องการซื้อความสะดวก ดิฉันว่ามันก็คุ้มค่ากว่าการที่ต้องเสียค่าน้ำมันรถและต้องไปเผชิญกับปัญหารถติด อีกอย่างเด็กรับใช้ที่บ้านยังสามารถดูแลน้องหมาตอนรับบริการแทนดิฉันได้ด้วยค่ะ”
นสพ.อำพล ผูกพันธ์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์ปากเกร็ด
นสพ.อำพล ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อดีข้อเสียของการอาบน้ำตัดขนสัตว์เลี้ยงแบบเดลิเวอรี และการไปอาบน้ำตัดขนที่ร้านหรือโรงพยาบาลสัตว์ ว่า “โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว ผมมองว่าการบริการอาบน้ำตัดขนแบบเดลิเวอรี มีข้อดีคือ ช่วยทำให้สุนัขไม่เครียด เพราะสุนัขจะมีความคุ้นเคยกับสถานที่ซึ่งก็คือบ้าน รู้สึกว่าเป็นอาณาเขตของตัวเอง สุนัขจึงมีความสุขมากกว่าไปที่ร้านหรือโรงพยาบาลสัตว์อยู่แล้วครับ
แต่ข้อเสีย คือ สุนัขอาจจะดื้อสักหน่อย เพราะเขามีความเป็นส่วนตัวมากเกินไป ทำให้การจับเขาเพื่ออาบน้ำตัดขนจะยากขึ้น เพราะสุนัขรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าถิ่น ดังนั้นจึงอยู่ที่ศิลปะและความเชี่ยวชาญของผู้ให้บริการที่จะต้องเข้าไปทำความคุ้นเคยกับสุนัขเสียก่อน ต้องรู้ว่าสัตว์อยู่ในอารมณ์ไหน ต้องมีทักษะสูงจึงจะทำงานได้อย่างราบรื่น ข้อเสียอีกอย่าง คือ การบริการถึงบ้านอาจจะมีราคาค่าบริการที่สูงกว่า ผู้ประกอบการอาจจะเสียเวลาในการเดินทางไปให้บริการตามบ้าน ฉะนั้นในหนึ่งวันจึงอาจจะตัดขนอาบน้ำสุนัขได้น้อยรายกว่าที่ร้านหรือที่โรงพยาบาล
ส่วนข้อดีของสุนัขที่อยู่ในความดูแลของสัตวแพทย์ที่ร้านหรือที่โรงพยาบาลสัตว์ ก็คือ สุนัขจะได้รับการตรวจสุขภาพโดยรวมอย่างละเอียด มีการวัดอุณหภูมิ ตรวจสุขภาพผิวหนัง ตรวจช่องปากว่ามีหินปูนเกาะไหม มีฟันงอกเกยกันหรือไม่ ช่องหูมีลักษณะผิดปกติไหม ลักษณะขี้หูเป็นอย่างไร มีเห็บหมัดซึ่งสามารถทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้หรือไม่ ซึ่งที่โรงพยาบาลสัตว์จะเน้นการดูแลสุขภาพให้สุนัขแบบ 100% แม้จะมาแค่อาบน้ำตัดขน ไม่ได้มาทำการรักษาอาการเจ็บป่วยก็ตาม
คุณทราบไหมว่า สุนัขบางตัวเมื่อตัดขนแล้วมันอาจรู้สึกสบายตัว แต่บางตัวเมื่อตัดขนแล้วมันอาจจะรู้สึกอาย ไม่มั่นใจ นั่นเพราะขนถูกตัดให้สั้นลง พอลมพัดมาแล้วรู้สึกเย็นกว่าปกติ มันก็อาจจะรู้สึกไม่คุ้นชินกับกลิ่นของขนที่ถูกตัดให้สั้นลง ซึ่งลักษณะอารมณ์แบบนี้จะเป็นลักษณะเฉพาะของสุนัขแต่ละตัว ความรู้สึกของสุนัขกับเจ้าของจะสามารถสื่ออารมณ์ถึงกันได้
ถ้าตัดขนแล้วเจ้าของชื่นชมยินดี สุนัขก็จะรับรู้ถึงอารมณ์นี้ไปด้วย และมันก็จะรู้สึกแฮปปี้ไปด้วยเหมือนกัน
ส่วนข้อเสียของเรื่องเวลาในการนำสุนัขมาฝากที่โรงพยาบาลสัตว์เพื่อรออาบน้ำตัดขน สำหรับผมมองว่าไม่น่าจะใช่ข้อเสียนะ เพราะระหว่างที่นำสุนัขมาฝากร้านหรือโรงพยาบาลสัตว์ เจ้าของก็สามารถเอาเวลา 4-5 ชั่วโมงนี้ไปทำธุระอย่างอื่นได้ แต่หากใครจะมองว่าการที่นำสุนัขมาฝากไว้ครึ่งค่อนวันนี่แหละคือข้อเสีย เพราะรู้สึกว่าน้องหมาถูกขังไว้ รู้สึกสงสาร ผมว่ามันก็แล้วแต่ทัศนคติและมุมมองของแต่ละบุคคลมากกว่า
เอาเป็นว่าใครที่ต้องการความสะดวกสบายก็เลือกใช้บริการแบบเดลิเวอรีละกัน ซึ่งผมมองว่าการมีธุรกิจบริการใหม่ๆ มันก็เป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะถือว่าเป็นทางเลือกใหม่ๆ ที่ทำให้คนรักสุนัขได้ประโยชน์มากที่สุดนั่นเอง