posttoday

วรรณออกกองทุนซื้อหุ้นอาเซียนรับเศรษฐกิจรุ่ง

17 กันยายน 2557

บลจ.วรรณ ออกกองทุนวรรณ อาเซียน สตาร์ ฟันด์ ลงทุนหุ้นอาเซียน รับแนวโน้มเศรษฐกิจสดใส

บลจ.วรรณ ออกกองทุนวรรณ อาเซียน สตาร์ ฟันด์ ลงทุนหุ้นอาเซียน รับแนวโน้มเศรษฐกิจสดใส

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ  กล่าวว่า บลจ.วรรณ เสนอขายกองทุนเปิด วรรณ อาเซียน สตาร์ส ฟันด์ (ONE-ASEAN) ซึ่งเน้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มอาเซียน โดยจะเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 15-25 ก.ย. 2557 เนื่องจากมองว่าตลาดอาเซียนน่าสนใจ โดยเฉพาะช่วงระยะถัดจากนี้ เนื่องจากเริ่มเข้าสู่การรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อย่างเป็นทางการในปีหน้า

ขณะที่เศรษฐกิจอาเซียนในช่วงที่ผ่านมาเติบโตได้ต่อเนื่องในระดับค่อนข้างดี โดยล่าสุดปี 2556 จีดีพีของกลุ่มอาเซียนมีมูลค่ากว่า 2,412 พันล้านเหรียญสหรัฐ นำโดยอินโดนีเซียและไทย ที่มีมูลค่าจีดีพีกว่า 867 และ 401 พันล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าปี 2557 นี้ จีดีพีของกลุ่มอาเซียนจะมีมูลค่าการเติบโตที่ 5.9% จากที่ขยายตัว 5.2% ในปี 2556 เนื่องจากการส่งออกที่ฟื้นตัวได้ดีขึ้นตามเศรษฐกิจโลก และคาดว่าปีนี้การส่งออกน่าจะขยายตัวได้ประมาณ 9.4% จากปีก่อนหน้าที่ขยายตัว 7.3%

ด้านการบริภาคภายในประเทศในช่วงที่ผ่านมาอาจจะเห็นการชะลอตัวลงไปบ้างเนื่องจากบางประเทศในกลุ่มอาเซียนต้องเผชิญกับปัญหาการเมืองในประเทศ เช่น ไทยและอินโดนีเซีย แต่อย่างไรก็ดี ด้วยปัญหาการเมืองในประเทศที่หาข้อสรุปได้อย่างชัดเจนและแนวโน้มรายได้ต่อหัวของประชากรที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ก็น่าจะสนับสนุนให้การบริโภคภายในประเทศพลิกกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจของอินโดนีเซียและไทยซึ่งรวมกันมีสัดส่วนมากถึง 50% ของกลุ่มอาเซียนทั้งหมด

“การลงทุนในตลาดหุ้นอาเซียนน่าสนใจและยังมีโอกาสขยายขนาดมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นได้อีกมากในอนาคตเนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศที่คลี่คลาย รวมทั้งมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการในแต่ละประเทศจะผลักดันให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเข้าสู่การลงทุนในตลาดหุ้นอาเซียนมากขึ้นและเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้การลงทุนในตลาดหุ้นอาเซียนยังมีโอกาสเติบโตต่อได้ในระยะถัดไป ดังนั้น การลงทุนในตลาดหุ้นอาเซียนจึงเป็นโอกาสทางเลือกของนักลงทุนในการกระจายการลงทุนไปยังบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ในประเทศกลุ่มอาเซียนด้วยกันจากการอาศัยความแตกต่างและความโดดเด่นหลักทรัพย์ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้แก่พอร์ตการลงทุน เช่น กลุ่มพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ ค้าปลีกในตลาดหุ้นไทย / หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และโลหะในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย รวมทั้งกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โครงสร้างพื้นฐานและกลุ่มบันเทิงในมาเลเซีย เป็นต้น”

นายวิน กล่าวว่า จุดเด่นของกองทุนอยู่ที่แนวทางการคัดเลือกหุ้นที่จะลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดความเสี่ยงจากการลงทุน โดยจะใช้กลยุทธ์การเลือกหุ้นที่สำคัญ ได้แก่ การเลือกลงทุนหุ้นเบต้าต่ำ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับทิศทางตลาดหุ้นที่ไม่สูงมากนัก และมักจะสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาด ขณะที่มีความผันผวนกับการเคลื่อนไหวของตลาดค่อนข้างต่ำ ทำให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนหลังการปรับด้วยความเสี่ยงอยู่ในระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้นที่มีค่าเบต้าสูงๆ ทั้งการลงทุนในหุ้นไทยและหรือหุ้นในแต่ละภูมิภาค รวมถึงหุ้นทั่วโลก ควบคู่ไปกับการคัดเลือกหุ้นผ่าน 4 ปัจจัยหลักอื่นๆ ได้แก่ ปัจจัยพื้นฐาน  มูลค่าหุ้น โมเมนตัมและความเสี่ยง  เพื่อหาหุ้นที่น่าสนใจในการลงทุนและคาดว่าจะให้ผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพ

"เกณฑ์การคัดเลือกหุ้นมีตัวอย่างหุ้นที่เข้าข่าย เช่น หุ้น First Gen Corp. (FGEN) ของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นหุ้นโรงไฟฟ้า ซึ่งบริษัทยังคงมีศักยภาพในการขยายความสามารถในการผลิตได้อีกมาก และที่ผ่านมาราคาหุ้นไม่ได้ปรับตัวผันผวนมากนัก รวมทั้งระดับราคาหุ้นต่อกำไรในปัจจุบันยังค่อนข้างต่ำ และยังมีโมเมนตัมในการเติบโต และหุ้น Singapore Post Ltd. (SPOST) ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นหุ้นประเภทขนส่งที่มีแนวโน้มเติบโตจากการขยายสาขาการจัดส่งพัสดุและอีคอมเมิร์ซในกลุ่มอาเซียนได้อย่างรวดเร็ว มีโมเมนตัมการปรับเพิ่มของราคาหุ้นต่อกำไรได้ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน เป็นต้น ซึ่งการลงทุนในหุ้นดีๆเหล่านี้ยังมีช่องทางจำกัดสำหรับผู้ลงทุนในประเทศไทย”นายวินกล่าว

 

Thailand Web Stat