ขายสินค้าพร้อมติดตั้ง
การแข่งขันของธุรกิจที่ขายสินค้าที่ต้องติดตั้งก่อนใช้งาน ผู้ประกอบการจะให้บริการติดตั้งฟรี หรือคิดค่าติดตั้งราคาต่ำ แต่มีลูกค้าบางรายที่ซื้อสินค้าแล้วไปติดตั้งเองก็มี หากว่าได้คิดคำนวณดูแล้วตนเองจ่ายเงินน้อยกว่าที่ซื้อสินค้าพร้อมติดตั้ง
การแข่งขันของธุรกิจที่ขายสินค้าที่ต้องติดตั้งก่อนใช้งาน ผู้ประกอบการจะให้บริการติดตั้งฟรี หรือคิดค่าติดตั้งราคาต่ำ แต่มีลูกค้าบางรายที่ซื้อสินค้าแล้วไปติดตั้งเองก็มี หากว่าได้คิดคำนวณดูแล้วตนเองจ่ายเงินน้อยกว่าที่ซื้อสินค้าพร้อมติดตั้ง
ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าประเภทที่ต้องติดตั้งสินค้าก่อนใช้งาน เช่น เครื่องปรับอากาศ ลิฟต์ บันไดเลื่อน อุปกรณ์ประดับยนต์ ปั๊มน้ำ เป็นต้น การขายสินค้าพร้อมบริการติดตั้งให้ลูกค้าฟรี หรือคิดค่าติดตั้งสินค้าในราคาต่ำ เป็นเทคนิคที่ผู้ขายสินค้าใช้ดึงดูดใจลูกค้าที่ซื้อสินค้าได้ดีกว่าที่จะขายสินค้าเพียงอย่างเดียว เพราะสินค้าบางชนิดลูกค้าคงติดตั้งเองไม่เป็น หากต้องไปว่าจ้างผู้อื่นมาติดตั้งอีก ก็คงไม่สะดวกอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ขายสินค้า ต้องนำมูลค่าสินค้าที่ขาย รวมทั้งค่าติดตั้งไปรวมคำนวณเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้ตามปกติ ในส่วนของลูกค้า ดูๆ แล้วตนเองเป็นผู้ซื้อสินค้าไม่น่าที่จะมีประเด็นภาษีหัก ณ ที่จ่ายมาเกี่ยวข้อง ในประเด็นนี้มักปฏิบัติผิดพลาดกันเสมอว่า ควรหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายหรือไม่ ถ้าหักจะหักจากยอดใด และหักในอัตราใดกันแน่ ทำให้ผู้ที่ขายสินค้าและลูกค้าที่ซื้อปฏิบัติทางภาษีผิดพลาดบ่อยครั้ง
ประเด็นภาษีมูลค่าเพิ่มและการหักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับการขายสินค้าพร้อมติดตั้งมีดังนี้
l ภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ขายสินค้าที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องนำมูลค่าทั้งหมดของการขายสินค้าและค่าติดตั้งมารวมคำนวณเป็นมูลค่าฐานภาษีเพื่อคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ไม่ว่าบิลเรียกเก็บเงินจะระบุรายการค่าสินค้าและค่าติดตั้ง หรือแยกแต่ละรายการออกจากกันในบิลเรียกเก็บเงินฉบับเดียวหรือแยกบิลเรียกเก็บเงินแต่ละรายการออกจากกันก็ตาม การคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มคิดจากมูลค่าของสินค้าและค่าติดตั้ง แต่ถ้าผู้ประกอบการที่ขายสินค้าได้เรียกเก็บเงินเป็นค่าขายสินค้าพร้อมติดตั้งฟรี โดยไม่แยกรายการค่าติดตั้งก็จะทำให้ไม่สับสนในการคำนวณเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม
l ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ลูกค้าที่ซื้อสินค้าต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการที่ขายสินค้าเรียกเก็บเงินค่าขายสินค้าและค่าติดตั้งในลักษณะใด และผู้จ่ายเงินที่มีหน้าที่หักภาษีต้องเป็นบุคคลที่กฎหมายกำหนด
กรณีที่ผู้ประกอบการขายสินค้าได้เรียกเก็บเงินโดยแยกรายการค่าสินค้าและค่าติดตั้งออกจากกัน ไม่ว่าจะแยกบิลเรียกเก็บเป็นแต่ละรายการ หรือเรียกเก็บในบิลเดียวกัน ค่าติดตั้งสินค้าเป็นการรับจ้างทำของอย่างหนึ่ง ผู้จ่ายเงินที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายจากมูลค่าของค่าติดตั้งสินค้า โดยให้หักภาษีในอัตราร้อยละ 3 สำหรับลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดาจ่ายเงินค่าติดตั้งไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายแต่อย่างใด เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดให้หักภาษีณ ที่จ่าย
สำหรับค่าสินค้า ผู้จ่ายเงินไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ เว้นแต่หน่วยงานรัฐจ่ายเงินค่าซื้อสินค้า ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 1 ตามที่กฎหมายกำหนด
ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าและได้ดำเนินการติดตั้งสินค้าให้กับลูกค้า หากได้ระบุบิลเรียกเก็บเงินเป็นค่าสินค้าพร้อมติดตั้งฟรีโดยไม่ได้แยกรายการค่าติดตั้ง ก็จะเป็นการสะดวกแก่ลูกค้าที่เป็นผู้จ่ายเงิน เพราะไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายแต่อย่างใด รวมถึงผู้ขายสินค้าก็ไม่ต้องพะวงว่าจะออกใบกำกับภาษีผิดพลาด สะดวกทั้งผู้ขายสินค้าและผู้ซื้อ อีกทั้งยังมัดใจลูกค้าที่ซื้อสินค้าได้เป็นอย่างดี สวัสดีครับ