‘จิราพร’กล้วยตากชั้นดี ของดีเมืองพิษณุโลก
กล้วยน้ำว้าเป็นกล้วยที่นิยมปลูกและบริโภคกันอย่างกว้างขวางในเมืองไทย ด้วยประโยชน์และคุณค่ามาก
โดย...ทีมข่าวธุรกิจติดดาว
กล้วยน้ำว้าเป็นกล้วยที่นิยมปลูกและบริโภคกันอย่างกว้างขวางในเมืองไทย ด้วยประโยชน์และคุณค่ามากมายที่ได้จากทุกส่วนของต้นกล้วย จนเป็นที่คุ้นชิน ถ้าเราจะเห็นต้นกล้วยปลูกอยู่ตามหัวไร่ปลายนา หรือในรั้วบ้าน และมีวางขายตามแผงผลไม้ทั่วไปในตลาดสด เรื่อยไปจนถึงในซูเปอร์มาร์เก็ต
เพราะเป็นพืชที่ปลูกและเจริญเติบโตง่าย ให้ผลต่อเครือเป็นร้อยๆ ผล สุกพร้อมกันแต่ละครั้งก็กินแทบไม่ทัน จึงเกิดเป็นขนมไทยจากภูมิปัญญามากมายที่มีกล้วยเป็นส่วนผสม บ้างก็นำมาแปรรูปด้วยวิธีการถนอมอาหารต่างๆ อาทิ กล้วยกวน กล้วยฉาบ และกล้วยตาก เพื่อเก็บไว้รับประทานได้นานๆ กระทั่งพัฒนาเป็นสินค้าสร้างรายได้เสริมให้กับครัวเรือน
เรื่องราวของกล้วยน้ำว้าของที่อื่นอาจหมายถึงการปลูกแบบปล่อยโตตามธรรมชาติ ปลูกเพื่อขายสดส่งตลาด หรือปลูกในรั้วบ้านไว้ใช้สอยประโยชน์ก็ตาม แต่ที่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก มีวัตถุประสงค์ที่ต่างออกไป เพราะกล้วยที่บางกระทุ่มแทบทั้งหมดจะถูกนำไปแปรรูปเป็นกล้วยตากเพื่อจำหน่าย และอาจกล่าวได้ว่าเป็น “แดนดินถิ่นกล้วยตาก” ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของกล้วยตากยี่ห้อดังระดับพรีเมียมอย่าง “กล้วยตากจิราพร” ของห้างหุ้นส่วนจำกัด จิราพร ฟู๊ด
จิราพร พงศ์รุจิกรพันธ์ กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จิราพร ฟู๊ด เจ้าของผลิตภัณฑ์กล้วยตากจิราพร เล่าให้ฟังว่า ที่บางกระทุ่มมีการทำกล้วยตากกันมากว่า 70 ปี และกว่า 20 ปีแล้วที่ครอบครัวเริ่มต้นทำกล้วยตากเพื่อขายส่งให้ร้านขายของฝากในจังหวัด ในตอนแรกใช้กล้วยในท้องถิ่นเป็นวัตถุดิบและตากบนห้างร้านที่ทำขึ้นกลางแจ้ง ในช่วงฤดูแล้งที่แดดดีก็จะได้ผลผลิตดี แต่จะเจอปัญหาในฤดูฝนเพราะอุณหภูมิและความชื้นที่ไม่เหมาะสม ทำให้กล้วยขึ้นราเสียหายที่ต้องทิ้งก็ไม่น้อย
ต่อมามีความคิดที่จะทำเป็นผลิตภัณฑ์ของตัวเอง จึงเริ่มมองหาเทคโนโลยีที่จะมาช่วยให้สามารถผลิตกล้วยตากได้ผลผลิตสม่ำเสมอและได้คุณภาพทั้งด้านรสชาติและด้านสุขอนามัย จนกระทั่งได้รู้จักกับโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์แบบพาราโบลาโดม ที่ควบคุมได้ทั้งอุณหภูมิ ป้องกันฝุ่นและแมลง ทำให้ตอนนี้ได้กล้วยตากที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน อย. GMP และ HACCP
กระบวนการผลิตกล้วยตากจิราพรเป็นแบบครบวงจร ที่กล้าพูดได้เลยว่าปลอดสารเคมีตลอดทั้งกระบวนการ เริ่มต้นตั้งแต่การเลือกใช้กล้วยน้ำว้าสายพันธุ์มะลิอ่องมาปลูกเอง รอจนแทงปลี ตกเครือ ผ่านระยะเวลากระทั่งกล้วยแก่เต็มที่นับจากวันที่ตัดปลี รวม 110 วัน ก่อนจะอำลาต้นเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนที่พิถีพิถัน ได้แก่ การบ่ม ปอกเปลือก นำไปตากในพาราโบลาโดม 5 วัน จากนั้นนำมาตัดแต่งและคัดแยกขนาด โดยกล้วยแต่ละชิ้นต้องมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 20 กรัม แล้วจึงนำไปบรรจุห่อ เป็นกล้วยตากออร์แกนิกรายแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรองรับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์
“จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดสินค้าอินทรีย์ เป็นจุดเริ่มต้นของการทำกล้วยตากออร์แกนิก กล้วยที่เป็นวัตถุดิบได้จากแปลงปลูกออร์แกนิกของเราเอง โดยปลูกบนพื้นที่กว่า 10 ไร่ ภายในโรงงาน ซึ่งหลังจากที่ตัดปลีแล้วกล้วยแต่ละเครือจะมีแท็กหมายเลขแขวนไว้เพื่อบ่งบอกว่า กล้วยเครือใดที่อายุครบ 110 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เราค้นพบว่า กล้วยจะแก่พอเหมาะที่จะนำไปทำกล้วยตาก ถ้าสังเกตจากลักษณะภายนอกจะมีลักษณะผลกลม ไม่มีเหลี่ยม เมื่อบวกกับคุณลักษณะเฉพาะของสายพันธุ์มะลิอ่องที่มีเนื้อนุ่มและรสหวานแล้ว จะได้กล้วยตาก 100% ที่ทั้งนุ่มและหวานอร่อย” จิราพร กล่าว
กล้วยตากจิราพรเป็นตัวอย่างของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้เป็นอย่างดี จากกล้วยน้ำว้าสดราคาหวีละไม่กี่สิบบาท นำมาผ่านกระบวนการผลิตที่พิถีพิถันและได้มาตรฐาน บรรจุในหีบห่อดีไซน์ทันสมัย ก็สามารถเพิ่มมูลค่าให้กล้วยตากรสธรรมชาติเป็นผลละ 6 บาท
นอกจากนี้ จิราพรยังพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เพิ่ม 2 รสชาติ ได้แก่ กล้วยตากเคลือบช็อกโกแลต และกล้วยตากเคลือบสตรอเบอร์รี่ ที่ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ผลละ 10 บาท วางจำหน่ายตามร้านขายของฝากและโมเดิร์นเทรดทั่วไป ส่วนตลาดในต่างประเทศตอนนี้มีทั้งในเกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ประเทศในกลุ่มอาหรับและอเมริกาบางส่วน ทั้งนี้ยังสามารถสั่งซื้อผ่านทาง www.jirapornbanana.com ได้ด้วย
แม้จะเป็นผู้ประกอบการที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จแล้วก็ตาม จิราพรก็ไม่ลืมที่จะแบ่งปันความสำเร็จผ่านภูมิปัญญาและองค์ความรู้ที่ได้สั่งสมมาให้กับผู้ที่สนใจ อย่างที่จิราพรกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า
“ทุกวันนี้จะมีหน่วยงานราชการ นักเรียน นักศึกษา และผู้ประกอบการ เข้าเยี่ยมชมโรงงานอยู่เรื่อย พอได้ยินว่าบางรายมีการนำความรู้ไปปรับใช้กับวัตถุดิบที่มีแต่ละจังหวัด และสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นได้สำเร็จเราก็ยินดี”
ด้วยความมุ่งมั่นหาหนทางในการพัฒนาอาชีพ จากการมองเห็นโอกาสที่จะขยายธุรกิจโดยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น ทำให้วันนี้ กล้วยตากจิราพร กลายเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของ จ.พิษณุโลก ที่กำลังโลดแล่นไปไกลในตลาดโลกแล้ว