posttoday

คาดค่าบาทอ่อนแตะ34-35

10 มกราคม 2558

ค่ายกสิกรฯ ชี้ิบาทอ่อนยวบ คาดสิ้นปีเห็น 34-35 บาทต่อดอลล์ จับตาต่างชาติระบายบอนด์ 6 แสนล้าน

ค่ายกสิกรฯ ชี้ิบาทอ่อนยวบ คาดสิ้นปีเห็น 34-35  บาทต่อดอลล์  จับตาต่างชาติระบายบอนด์ 6 แสนล้าน

นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า  ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ไทยในปี 2558 คือความไม่แน่นอนของตลาดโลก นอกจากดอกเบี้ยสหรัฐแล้วยังต้องจับตายูโรโซนและวิกฤตรัสเซีย ซึ่งอาจมีแรงกดดันต่ออัตราผลตอบแทนตลาดเงินทั่วโลกรวมทั้งไทย ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าสิ้นปี 2558 ค่าเงินบาทจะมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 34.50 บาท/เหรียญสหรัฐ

“สหรัฐยกเลิกคิวอีและปรับดอกเบี้ยอาจจะทำให้พันธบัตรรัฐบาลไทยที่ถือโดยต่างชาติ 6.83 แสนล้านบาท ถูกเทขายออกมาและกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงอีก” นายธิติ กล่าว

แนวโน้มการออกหุ้นกู้ระยะยาวในปี 2558  คาดว่าจะอยู่ที่ 5.5 แสนล้านบาท ชะลอตัวลงเล็กน้อยจาก 5.66 แสนล้านบาท เมื่อปี 2557 เนื่องจากปีที่แล้วมีการออกตราสารหนี้เพื่อทดแทนตราสารที่ครบกำหนดมากถึง 50% ของการออกตราสารทั้งหมด ส่วนการกำหนดผลตอบแทนจะยากขึ้น เพราะตลาดเงินค่อนข้างผันผวนมากในช่วงดอกเบี้ยสหรัฐยังไม่มีความชัดเจน

อย่างไรก็ดี คาดว่าภาคธนาคารจะเป็นกลุ่มที่ออกตราสารมากที่สุด เพื่อเสริมเงินกองทุนขั้นที่ 2 ตามหลักเกณฑ์บาเซิล 3 ส่วนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดมีทั้งสิ้น 2.3 แสนล้านบาท  และคาดว่าผู้ออกรายใหม่จะเข้ามาระดมทุนอีก 1.5 แสนล้านบาท โดยธนาคารกสิกรไทยจะมีส่วนแบ่งในการจัดจำหน่ายราว 12.52%  มูลค่า  6.91 หมื่นล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาดลดลงจาก 14.78% ปีที่แล้ว

สำหรับพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลังและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ที่ออกมา 1 แสนล้านบาท ดอกเบี้ย 3.8-4% นั้น ไม่มีผลต่อผลตอบแทนของหุ้นกู้เพราะพันธบัตรขายประชาชนทั่วไป ส่วนลูกค้าสถาบันไม่มีสิทธิ

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย กล่าวว่า เงินสหรัฐแข็งค่า คาดว่าค่าเงินบาทจะอ่อนค่าในช่วง 34-35 บาท  ซึ่งจะทำให้นักลงทุนต่างชาติขาดแรงจูงใจเข้ามาลงทุนในหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีแรก ส่งผลให้ดัชนีหุ้นจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,420-1,638 จุด กลุ่มหุ้นที่น่าจะลงทุนจะเป็นรับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างรวมถึงกลุ่มสายการบิน แต่ในช่วงครึ่งปีหลังภาพการลงทุนจะเปลี่ยนไปดัชนีจะฟื้นตัว 1,480-1,710 จุด ได้

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้  กล่าวว่า กระแสเงินทุนต่างชาติในปีนี้คงไม่มีเม็ดเงินไหลเข้าลงทุนหุ้นไทยมาก เนื่องจากไม่มีปัจจัยหลักผลักดันและรัฐบาลชุดปัจจุบันไม่อยู่ในภาวะจะกระตุ้นเศรษฐกิจนโยบายมาก ยกเว้นโครงสร้างพื้นฐาน

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย  เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน FETCO NIDA Investor Sentiment Index ประจำเดือน ม.ค. 2558 เท่ากับ 88.27 ลดลง 36% จากเดือนที่ผ่านมา และประเมินแนวโน้มสภาพตลาดอยู่ในระดับทรงตัว โดยนักลงทุนมองว่าอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างน่าลงทุนมากที่สุด ส่วนหมวดทรัพยากรไม่น่าลงทุนมากที่สุด ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน ได้แก่ สถานการณ์ต่างประเทศเป็นปัจจัยหลัก รองลงมา คือ เศรษฐกิจในประเทศและนโยบายด้านเศรษฐกิจ

ล่าสุด ธนาคารเอชเอสบีซีได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีีดีพี) ปี 2558 ลงมาอยู่ที่ 3.9% จากเดิม 4.5% และลดคาดการณ์จีดีพีปีที่แล้วเหลือโตเพียง 0.5%  โดยมองว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างเชื่องช้า  ทำให้เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จำเป็นต้องใช้มาตรการลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ภายในไตรมาสแรกนี้เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทาง