บังคับพรีเพดลงทะเบียนซิมเริ่ม 1 กพ.

กสทช. บังคับคนใช้ พรีเพด รวม 90 ล้านเบอร์ ต้องลงทะเบียนซิม เริ่ม 1 ก.พ.นี้ ถ้าไม่ลงใน 6 เดือน ถูกระงับใช้ได้

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช.ได้ออกประกาศ กำหนดให้วันที่ 1 ก.พ.นี้ ประชาชนที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงิน (พรีเพด) จำนวน 90 ล้านเบอร์ จะต้องลงทะเบียนซิมเพื่อแสดงตัวตนความเป็นเจ้าของเบอร์ โดยประชาชนจะต้องลงทะเบียนภายใน 6 เดือน เริ่ม 1 ก.พ.-31 ก.ค.นี้ หากไม่ลงทะเบียนผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ (โอเปอเรเตอร์) 5 บริษัท สามารถระงับใช้บริการได้ทันที

ทั้งนี้ขั้นตอนการแจ้งให้ประชาชนรับรู้นั้น โอเปอเรเตอร์ จะมีการส่งข้อความแจ้งไปยังลูกค้าให้เข้ามาลงทะเบียน โดย ประชาชน ต้องบัตรประชาชนไปลงทะเบียน ผ่านศูนย์บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่ายที่ใช้บริการอยู่ ธนาคารกรุงไทย ห้างค้าปลีกเทสโก้ โลตัส บิ๊กซี และร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ที่จะเปิดลงทะเบียนซิมใหม่ หรือสามารถลงผ่านแอพพลิเคชั่น 2 แชะได้ โดยหลังจากนี้ จะกำหนดให้มีการลงทะเบียน เมื่อใช้ฟรีไวไฟ ด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ

สำหรับในช่วงที่ผ่านมา เกิดปัญหามีการนำซิม ที่ไม่ได้ลงทะเบียนไปใช้ทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายและความมั่นคง หรือนำไปก่อเหตุระเบิด แต่ไม่สามารถหาผู้ที่กระทำความผิดได้ รวมทั้ง กสทช. กำหนดให้โอเปอเรเตอร์ ต้องลงทะเบียนซิม ที่มีประชาชนลงทะเบียนซิมไปแล้ว 1.6 ล้านเลจขหมายเท่านั้น เพราะประชาชนมีความกังวลเรื่องนำบัตรประชาชนไปให้ร้านลงทะเบียน รวมถึงโอเปอเรเตอร์ไม่มีอำนาจระงับบริการได้

นายอเนก อนันต์วัฒนพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริหาร ด้านผลิตภัณฑ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชนไม่เข้ามาลงทะเบียนซิม เพราะบริษัทไม่มีอำนาจระงับบริการของลูกค้า ทั้งนี้ ขั้นตอนการระงับเมื่อไม่ลงทะเบียนนั้น จะเริ่มจากระงับบริการบางส่วน เช่น ไม่สามารถโทรออกได้ ใช้เน็ตไม่ได้ แต่รับสายได้อย่างเดียว เป็นต้น จนกว่าจะเข้ามาลงทะเบียน

นายฐากร กล่าวต่อถึง ความคืบหน้า เรื่องการกำหนดค่าบริการโทรศัพท์เป็นวินาทีนั้น กสทช. กำลังหารือกับโอเปอเรเตอร์ เรื่องอัตราการกำหนด และการคิดค่าบริการ แต่มั่นใจว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ หรือ ภายในเดือน ก.พ. เร็วกว่าแผนงานเดิมที่วางไว้จะได้ในวันที่ 1 มี.ค.นี้

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. ชุดใหญ่ ยังเห็นชอบการจ่ายเงินให้แก่ บริษัทจำหน่ายกล่องรับสัญญาณดาวเทียม (เซท ท็อป บ็อกซ์) และเป็นเรื่องที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เห็นชอบ คือ หากสุ่มตรวจคูปองได้ 10% ไม่เกิดปัญหาจะสามารถจ่ายเงินในสัดส่วน 50% ให้แก่บริษัทจำหน่าย เซท ท็อป บ็อกซ์ได้ทันที สุ่มตรวจ 30% สามารถจ่ายเงินได้ 70% และสุ่มตรวจ 50% สามารถจ่ายเงินได้ 90% เพื่อทำให้การจ่ายเงินรวดเร็วขึ้นและเริ่มได้ทันที

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบเรื่องการปรับลดคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ที่กำหนดให้คณะอนุกรรมการ 1 ชุด จะมีได้ไม่เกิน 10 คน จากปัจจุบันมีคณะอนุกรรมการรวม 60 คณะ คาดว่าจะลดจำนวนลงได้มาก หรือ อาจจะเหลือคณะอนุกรรมการ 20 คณะ เพราะที่ผ่านมา มีคณะอนุกรรมการจำนวนสูงถึง 18-20 คนในบางคณะ เชื่อว่าจะทำให้งบประจำปีของ กสทช.ลดลงได้

นายฐากร กล่าวว่า ในเรื่องการออก ร่าง พ.ร.บ.กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดิจิทัล อีโคโนมี รวม 10 ฉบับนั้น อยู่ระหว่างการนำเข้า คณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่ง กสทช. พร้อมไปชี้แจง หาก คณะกรรมการกฤษฎีกา  ต้องการสอบถามในเรื่องนี้ โดย กสทช. เห็นชอบกับร่างกฎหมายดังกล่าวทุกฉบับ แต่ กฎหมายบางฉบับมีผลทำให้ต้องแก้ไข กฎหมายที่เกี่ยวข้อง กสทช.ด้วย ดังนั้นจึงต้องมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ กสทช.ด้วย