หนึ่งเดียวในโลก! "บุษบา" ผ้าขาวม้า คอลลาเจน
“บุษบา” ได้พลิกโฉมผ้าขาวม้าไทย ด้วยการใช้นวัตกรรมนำหน้า และไอเดียดีไซน์สินค้า
โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน
ผ้าขาวม้า สินค้าเลื่องชื่อของไทย ถูกนำมาสร้างเป็นสินค้าใหม่กับแบรนด์ “บุษบา” ได้พลิกโฉมผ้าขาวม้าไทย ด้วยการใช้นวัตกรรมนำหน้า และไอเดียดีไซน์สินค้า กับเจ้าของธุรกิจที่เริ่มสร้างแบรนด์ในช่วงอายุ 25 ปี กับความชื่นชอบในการทำธุรกิจ และอยากทำ ผ้าขาวม้าไทย ให้ดังไกลระดับโลก ไม่แพ้ ผ้ากิโมโนของประเทศญี่ปุ่น และผ้าลายสก๊อต ของสก๊อตแลนด์
“พรเทพ แซ่ลี้” Design Director และเจ้าของแบรนด์ผ้าขาวม้า “บุษบา” (Busaba) บริษัท บุษบา คราฟท์ แอนด์ ดีไซน์ เปิดเผยว่า ได้เปิดตัว ผ้าขาวม้า คอลลาเจน(Pha Kao Mah Collagen Scarf) เป็นแบรนด์แรกในประเทศและในโลก ที่มีการผสม เส้นใยคอลลาเจนลงไปใน เส้นใยธรรมชาติ โดยเส้นใยคอลลาเจน สกัดมาจากปลาทะเล และพัฒนาด้วยนาโนเทคโนโลยี ซึ่งพัฒนาร่วมกันกับหน่วยงานพันธมิตรในประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์ ทำให้ได้ ผ้าพันคอ คอลลาเจน
พร้อมกันนี้ได้มีการทดสอบพบว่า ผ้าจะมีคุณสมบัติ อ่อนนุ่ม น้ำหนักเบา ทำให้ช่วยเก็บความชุ่มชื่นของผิวเมื่อนำผ้าพันคอ คอลลาเจน ไปใช้ เพราะช่วยการหมุนเวียนของเลือดตรงคอได้ดีมากขึ้น รวมทั้งยังช่วยเก็บอุณหภูมิ บริเวณคอได้ ทำให้ผู้ใช้อุ่นสบาย ซึ่งได้เปิดตัวสินค้านี้ในงาน BIG&BIH 2014 ที่จัดขึ้นในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา พบลูกค้า ลูกค้าตอบรับดีมาก โดยเฉพาะลูกค้าต่างประเทศสนใจสินค้า เพราะเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลก
“พรชัย” กล่าวต่อว่า แนวคิดการสร้างนวัตกรรมให้กับสินค้า เพราะต้องการสร้างแบรนด์ผ้าขาวม้า ให้มีคาแรกเตอร์ของสินค้าไทย ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและลูกค้าทุกคนรู้จัก รวมทั้งมุ่งพัฒนาสินค้าใหม่ต่อเนื่อง พร้อมกับสำรวจว่าผู้บริโภคในตลาดและต่างประเทศชื่นชอบสินค้าแบบใด ติดตามเทรนด์ของโลก เทรนด์แฟชั่น รวมถึงการนำ นวัตกรรมคอลลาเจน มารวมในผ้าขาวม้า ก็ตรงกับเทรนด์ในตลาดในขณะนี้
“ผ้าพันคอ คอลลาเจน” สนใจส่งออกไปในตลาดสหรัฐ ยุโรป เพราะลูกค้าสองตลาดนี้สนใจสินค้า รวมทั้งในประเทศลูกค้าคนไทยก็ชื่นชอบเช่นกัน โดยปัจจุบันสินค้ามีวางจำหน่ายในห้างเซ็นทรัล ศูนย์การค้า สยามพารากอน ในโซน Exotic Thai, ร้านลอฟท์, เอ็มโพเรียม ตลาดน้ำอโยธยา จ.พระนครศรีอยุธยา และร้านหนังสือเอเชีย บุ๊ค รวมทั้งได้เปิดร้านต้นแบบที่ห้าง MAYA จ.เชียงใหม่ ขนาด 20 ตร.ม. ,สาขาร้านเซ็นทรัล เฟสติวัล จ.เชียงใหม่ และ เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต
ระยะต่อไปจะสร้างสินค้าให้เป็น โปรดักส์ ไลฟ์สไตล์ และนำผ้าไทยมาพัฒนาใหม่ ซึ่งได้เริ่มสร้างแบรนด์ กระเป๋าสำหรับเจาะกลุ่มลูกค้าผู้ชาย ใช้ชื่อแบรนด์ว่า “Canvas Factory” โดยเป็นกระเป๋าเอนกประสงค์และใส่สิ่งของได้ทุกอย่าง โดยได้นำผ้ากี่เอว และเป็นผ้าทอมือ มาพัฒนาเป็นสินค้า จะเริ่มตัวในปีนี้ และส่งออกไปทำตลาดที่ประเทศญี่ปุ่น ในร้านลอฟท์ เชื่อมั่นว่า เมื่อลูกค้าเห็นสินค้าแล้วจะต้องชื่นชอบแน่นอน เพราะหลังได้คุยกับคู่ค้าญี่ปุ่นชื่นชอบสินค้า
พรชัย กล่าวย้อนกลับไปว่า การใช้นวัตกรรมพัฒนาสินค้ามีมาต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มสร้างแบรนด์ผ้าขาวม้า เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา เป็นแบรนด์แรกๆ ในประเทศ โดยนำผ้าขาวม้ามาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า ซึ่งได้นำผ้าขาวม้า มาจาก จ.อยุธยา และจ.ราชบุรี ที่เป็นการทอด้วยมือ หลังจากนั้นได้พัฒนาเป็น นำพลาสติกมาเคลือบผ้าขาวม้า รายแรกในประเทศ โดยเมื่อใช้งานไป 2-3 ปีพลาสติกอาจแตกได้ จึงพัฒนาสินค้าใหม่ นำสารเคมีมาเคลือบบนผ้ากลายเป็นเนื้อเดียวกับผ้า เป็นรายแรกในประเทศเช่นกัน
ส่งผลให้ผ้ามีความอ่อนนุ่ม ยังกันน้ำได้ด้วย รวมถึงไม่แตก แม้อยู่ในอุณหภูมิติดลบ โดยได้เริ่มทำตลาด บุษบา รุ่นแบบใหม่นี้ กว่า 1 ปีที่ผ่านมา โดยสารเคมีที่นำมาเคลือบมีความปลอดภัย เลือกใช้ผ้าคุณภาพสูง และไม่มีเศษขนผ้าติดอยู่กับผลิตภัณฑ์ ต่อมาได้ พัฒนา ผ้าขาวให้มีการทอที่มีหน้ากว้างมากขึ้น ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ขณะที่กลุ่มเป้าหมายเจาะตลาดกลางและบน
แผนงานในปีนี้ จะออกงานแสดงสินค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างแบรนด์ บุษบา ก้าวสู่แบรนด์ระดับโลก และทำให้สินค้ากลายเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ ที่ลูกค้าในประเทศและต่างประเทศสามารถใช้ได้ทุกกลุ่ม ตั้งแต่วัยรุ่น คนทำงาน จนถึง คนสูงอายุ พร้อมมุ่งสร้างแบรนด์ผ้าขาวม้าไทย และผ้าทอไทย ให้มีมูลค่าเพิ่มสูงสุด รวมทั้งไม่หยุดที่จะสร้างดีไซน์ผ้าขาวม้า ให้สวยยิ่งขึ้น พร้อมนำเสนอนวัตกรรมใหม่ โดยผลงานการดำเนินงานที่ผ่านมา ยอดขายเติบโต 50-100% มาตลอด
แนวคิดทำธุรกิจ
-นำผ้าขาวม้าไทย มาสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรม ดีไซน์สวย
-ศึกษาเทรนด์โลก และตลาดเพื่อสร้างสินค้าตอบโจทย์ลูกค้า
-ไม่หยุดที่จะพัฒนาสินค้า และสร้างไอเดียใหม่
-หาพันธมิตรทางธุรกิจมาร่วมพัฒนาธุรกิจ
-อุปสรรคทางการค้าทุกบริษัทต้องเผชิญ ต้องประคององค์กรไปให้ได้