ดัชนีผลผลิตอุตฯก.พ.ฟื้นตัว

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ก.พ. ขยายตัวสูงสุดรอบ 23 เดือน กลุ่มยานยนต์-อิเล็กทรอนิกส์-เครื่องนุ่งห่มฟื้น

นายสมศักดิ์ จันทรรวงทอง รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือเอ็มพีไอ เดือน ก.พ. 2558 ขยายตัวสูงสุดรอบ 23 เดือน อยู่ที่ 3.6% ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของอุตสาหกรรมสำคัญ อาทิ กลุ่มยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องนุ่งห่ม คาดว่าทั้งปีจะขยายตัว 3-4%

“เดือน ก.พ.มีสัญญาณว่าภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เพราะแม้จะเป็นเดือนที่มีวันทำการเพียง 28 วัน ซึ่งโดยปกติดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมตามฤดูกาลจะลดลง แต่ปรากฏว่าดัชนีกลับปรับตัวขึ้นเป็นบวกสวนทางฤดูกาลเป็นครั้งแรกในรอบ 23 เดือน คาดการณ์ว่าดัชนีอุตสาหกรรมตลอดไตรมาสแรกมีโอกาสขยายตัว เนื่องจากเห็นสัญญาณการนำเข้าวัตถุดิบของสินค้าทุนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง” นายสมศักดิ์ กล่าว

สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา มียอดผลิต 178,351 คัน มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.79% ส่วนการส่งออกมีจำนวน 108,173 คัน เพิ่มขึ้น 11.32 จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดขายในประเทศมีจำนวน 63,945 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.79%

ขณะที่การผลิตในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์หดตัว 1.05% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัว 0.04% และอุตสาหกรรมไฟฟ้าที่ติดลบ 5.06% ด้านการผลิตในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์เส้นใยสิ่งทอหดตัว 0.11% ผลิตภัณฑ์ผ้าผืนลดลง 12.41% และเสื้อผ้าสำเร็จรูปขยายตัว 0.79% ขณะที่การส่งออกขยายตัวถึง 14.98%

น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการไทยและต่างชาติแจ้งเปิดกิจการโรงงานต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ล่าสุด บริษัท ทีอี คอนเน็คทิวิตี้ แมนูแฟคเจอริ่ง (ไทยแลนด์) บริษัทในเครือทีอี คอนเน็คทิวิตี้ กรุ๊ป ผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากสหรัฐอเมริกาได้เปิดโรงงานแห่งแรกในไทย ตั้งอยู่นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ จ.ฉะเชิงเทรา มีมูลค่าเงินลงทุน 1,084 ล้านบาท

บริษัท ทีอี คอนเน็คทิวิตี้ แมนูแฟคเจอริ่ง (ไทยแลนด์) มีการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานพาหนะ จัดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง มีกำลังการผลิตขั้วต่อและขั้วต่อสัญญาณผลิตปีละกว่า 1,000 ล้านชิ้น