มูดี้ส์มั่นใจไทยเอาอยู่เฟดขึ้นดอกเบี้ย

มูดี้ส์มั่นใจเศรษฐกิจเอเชียรวมถึงไทยยังแกร่ง ต้านทานปัจจัยเฟดขึ้นดอกเบี้ยไหว

บริษัทจัดอันดับเครดิต มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เปิดเผยรายงานว่า ประเทศในกลุ่มเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ส่วนใหญ่แล้วยังคงมีภูมิต้านทานสูงต่อภาวะช็อกทางเศรษฐกิจจากต่างประเทศ เช่น การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

มูดี้ส์ ระบุว่า ปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศหลักๆ ของเอเชียในปีนี้ยังคงเป็นเรื่องของเฟด แต่หลายประเทศเอเชียยังมีความสามารถในการชำระหนี้ที่แข็งแกร่ง ขณะที่การก่อหนี้ต่างประเทศยังไม่ถือเป็นระดับที่สูงจนน่ากังวล ขณะที่ภาวะหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศนั้น แม้จะกระทบต่อการบริโภคของภาคเอกชนในประเทศ และฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจ แต่ก็ยังไม่ถือเป็นระดับที่เสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญต่อเสถียรภาพในระบบการเงิน

อย่างไรก็ตาม แม้ในภาพรวมจะยังดีอยู่ แต่สำหรับการประเมินอันดับเครดิตนั้นยังต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยเฉพาะในแต่ละประเทศ เช่น การปฏิรูปเศรษฐกิจ

ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ ได้ระบุว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงสูงต่อการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด เนื่องจากมีหนี้ครัวเรือนในระดับสูง หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้เกิดภาวะทุนไหลออก ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมในประเทศสูงขึ้น และส่งผลกระทบในวงกว้างตามมา

ทั้งนี้ นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี มองว่าหนี้ครัวเรือนไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้ไทยเสี่ยงถูกกระทบจากเฟด และปัจจุบันประเทศไทยมีการก่อหนี้ต่างประเทศน้อยมาก หากเทียบกับปี 2540 โดยเฉพาะการกู้ยืมของธนาคารพาณิชย์ที่มาจากในประเทศเป็นหลัก และการก่อหนี้ต่างประเทศส่วนใหญ่มาจากภาคเอกชนที่ออกไปลงทุนในต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่ไทยจะได้รับจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่น่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.ย.นี้ น่าจะอยู่ที่ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เกิดการอ่อนค่าอย่างรุนแรงของค่าเงินบาทมากกว่า โดยอาจเคลื่อนไหวกว้างถึงระหว่าง 33-35 บาท/เหรียญสหรัฐ เพราะภาวะเศรษฐกิจไทยคงไม่เอื้ออำนวยให้สามารถขึ้นดอกเบี้ยตามเฟดได้ ซึ่งจะทำให้ช่องว่างอัตราดอกเบี้ยแคบลงและมีเงินทุนไหลออกอีก และทำให้ตลาดทุนไทยมีความเสี่ยงสูง แต่กลุ่มสินค้าเกษตรและโภคภัณฑ์น่าจะได้ประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยนที่ทำให้แข่งขันด้านราคาได้