ที่ปรึกษาแนะกลยุทธ์ เศรษฐีใหม่อยากมีโรงแรม
การลงทุนโรงแรมใช้เงินลงทุนสูงแต่ไม่ใช่ว่าพื้นที่ไหนสร้างโรงแรมขึ้นมาก็จะมีผลตอบรับดีทั้งหมด ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน
โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
การลงทุนโรงแรมใช้เงินลงทุนสูงแต่ไม่ใช่ว่าพื้นที่ไหนสร้างโรงแรมขึ้นมาก็จะมีผลตอบรับดีทั้งหมด ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน ผู้ประกอบการจึงต้องพิจารณาปัจจัยแวดล้อมอย่างละเอียดถี่ถ้วน ยิ่งเป็นกลุ่มที่ไม่เคยทำธุรกิจโรงแรมมาก่อนแต่อยากมาทำโรงแรมด้วยแล้วควรหาผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาก่อนลงทุน
ไพสิฐ แก่นจันทน์ ที่ปรึกษา บริษัท ฮอสพิทาลิตี้ แอดไวซอรี่ เซอร์วิส บริษัทให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในธุรกิจบริการสัญชาติไทย เน้นหนักการให้คำปรึกษาลงทุนโรงแรม เปิดเผยว่า ในอดีตอาจมีแต่คนที่ลงทุนด้านโรงแรมอยู่แล้วที่จะลงทุนโรงแรมอย่างต่อเนื่อง แต่ระยะหลังมีกลุ่มนักลงทุนหน้าใหม่ที่ร่ำรวยมาจากธุรกิจอื่นสนใจอยากเข้ามาทำทำโรงแรมของตัวเองมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการกลุ่มนี้จะมีจุดอ่อนคือไม่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทำโรงแรมมากนักและมักคิดว่าการทำโรงแรมเป็นเรื่องง่าย ทั้งที่ความจริงมีรายละเอียดอีกมากที่ยังไม่ทราบ หากไม่ศึกษาให้ดีหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก็อาจต้องทำโรงแรมด้วยต้นทุนสูงลิ่วหรือไปลงทุนในพื้นที่ที่ไม่มีศักยภาพและไม่ประสบความสำเร็จในที่สุด
ที่ผ่านมาตนเองเคยมีประสบการณ์ทำงานในวงการโรงแรมทั้งกับเครือโรงแรมระดับนานาชาติและโรงแรมไทย และเป็นอาจารย์พิเศษให้มหาวิทยาลัย เมื่อเห็นแนวโน้มดังกล่าวจึงสนใจเปิดบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนโรงแรมขึ้น เพื่อให้คำปรึกษาคนที่ต้องการลงทุนโรงแรม ทั้งคนที่ลงทุนโรงแรมอยู่เดิมแล้วและนักลงทุนหน้าใหม่ และถือได้ว่าเป็นบริษัทที่ปรึกษาสัญชาติไทยหนึ่งในไม่กี่รายเท่านั้นที่มีในตลาด เพราะส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ปรึกษาต่างชาติ
การให้คำปรึกษาในการทำธุรกิจโรงแรมจะเริ่มตั้งแต่การหารือแนวคิดธุรกิจก่อน มองว่าทำเลที่มีอยู่ในมือควรใช้ทำโรงแรมระดับกี่ดาวจึงจะตรงความต้องการตลาด การควบคุมงบประมาณก่อสร้างโรงแรมไม่ให้บานปลาย เพราะการสร้างโรงแรมแห่งหนึ่งขึ้นมา ไม่ได้มีแค่ค่าก่อสร้าง หากแต่ยังมีรายละเอียดการตกแต่งภายในที่สะท้อนแนวคิดโรงแรม ชุดสิ่งของเครื่องใช้และเสื้อผ้าของพนักงานในโรงแรมด้วย ซึ่งเรื่องพวกนี้อยู่ในงบการดำเนินงานทั้งหมด
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการควบคุมให้โรงแรมก่อสร้างเสร็จพร้อมเปิดตามกำหนด เพราะก่อนเปิดโรงแรมจะต้องมีทดลองบริการก่อน ซึ่งผู้ประกอบการต้องมีต้นทุนค่าจ้างพนักงานตั้งแต่ก่อนเปิดโรงแรมแล้ว หากไม่คุมช่วงเวลานี้ให้ดีก็อาจทำให้ต้นทุนบานปลายได้
อีกเรื่องสำคัญที่ให้คำปรึกษาคือ กรณีผู้ประกอบการไม่ต้องการบริหารโรงแรมเอง แต่อยากให้เครือโรงแรมนานาชาติบริหารให้ ก็จะมีประเด็นเรื่องการเลือกเครือโรงแรมที่เหมาะสมและการไปช่วยต่อรองค่าธรรมเนียมการบริหารกับเครือโรงแรมเหล่านั้นด้วย หากเข้าไปพูดคุยกับเครือโรงแรมโดยไม่ทราบอะไรเลย อาจทำให้ต้องเสียค่าธรรมเนียมสูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น
สำหรับพื้นที่ในประเทศไทยที่ได้รับความสนใจลงทุนโรงแรมสูงยังคงเป็นจุดหมายท่องเที่ยวหลักเช่นเดิม คือ กรุงเทพฯ พัทยา หัวหิน/ชะอำ เชียงใหม่ สมุย ภูเก็ต และกระบี่ โดยเฉพาะเชียงใหม่มีกลุ่มเศรษฐีที่อยากไปสร้างโรงแรมเพื่อหวังใช้เป็นที่อยู่อาศัยยามเกษียณอายุกันมาก แต่พื้นที่ดังกล่าวมีการแข่งขันสูงและราคาห้องพักไม่ดีเท่าที่ควร
ไพสิฐ กล่าวว่า การลงทุนที่ไหนก็ตามต้องดูความเสี่ยงว่าอยู่ในระดับที่ตัวเองรับได้แค่ไหน ยิ่งทำโรงแรมปัจจุบันใช้เวลาถึง 10 ปีจึงจะคุ้มทุน บางโครงการทำได้ดีก็อาจคุ้มทุนได้ใน 8 ปี บางโรงแรมควบคุมต้นทุนไม่ดี บริหารไม่เป็น กว่าจะคุ้มทุนต้องใช้ 12-15 ปี
ขณะที่สำหรับคนที่ไม่เคยทำโรงแรมมาก่อนจะไม่ทราบเลยว่ามีต้นทุนอะไรแฝงอยู่บ้างในการทำโรงแรมจึงต้องระมัดระวัง สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าใครคือลูกค้า สร้างโรงแรมไปเพื่อใครและอย่าปล่อยให้สถาปนิกออกแบบโรงแรมให้ โดยที่เจ้าของไม่เข้าใจอะไรเลยเกี่ยวกับธุรกิจโรงแรม เพราะจะทำให้เกิดความผิดพลาดมหาศาลได้
“ตัวอย่างคือ สร้างโรงแรมในกรุงเทพฯ และภูเก็ต ก็มีลูกค้าไม่เหมือนกันแล้ว กรุงเทพฯ คนพักเฉลี่ย 2 วันครึ่ง มี 1.3 คน/ห้อง ภูเก็ต คนพักเฉลี่ย 5 วันครึ่ง มี 2.3-2.5 คน/ห้อง ลักษณะโรงแรมที่สร้างต้องตรงกับกลุ่มเป้าหมายนี้ด้วย ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่อาจจำเป็นมากสำหรับภูเก็ตเพราะคนพักนาน มากันหลายคน กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ แต่อาจไม่จำเป็นกับกรุงเทพฯ ที่คนพักระยะสั้น หากไปสร้างตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ ก็เหมือนการลงทุนไปเกินจำเป็น ไม่คุ้มกับประโยชน์ที่ได้รับ” ไพสิฐ กล่าว
เมื่อเป็นเช่นนี้ ทางที่ดีจึงแนะนำให้ลงทุนใช้ที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องโรงแรมที่มีความรู้ความชำนาญมาช่วย บางครั้งอาจประหยัดต้นทุนการสร้างโรงแรมได้มากกว่าค่าที่ปรึกษาที่เสียด้วยซ้ำ เช่น เดิมจะใช้งบสร้างโรงแรม 500 ล้านบาท แต่อาจลดต้นทุนได้ 10-15%
นอกเหนือจากจุดหมายท่องเที่ยวหลักที่คนส่วนใหญ่สนใจลงทุนโรงแรมแล้ว ระยะหลังจะเริ่มเห็นผู้เล่นรายใหญ่หันไปลงทุนในจุดหมายใหม่ๆ มากขึ้น ทั้งที่เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญเชิงเศรษฐกิจ เช่น จังหวัดตามแนวชายแดน เพื่อรองรับการค้าชายแดนและพื้นที่ที่เป็นจุดหมายท่องเที่ยวอันดับรองๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าพื้นที่ที่ไม่ใช่จุดหมายท่องเที่ยวหลักยังมีความเสี่ยงอยู่มาก ผู้ที่คิดจะลงทุนจะต้องเข้าใจตลาดในพื้นที่นั้นเป็นอย่างดี
เมื่อใดก็ตามที่นักลงทุนไทยเริ่มทยอยกันเข้าไปลงทุนโรงแรมในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญหรือแหล่งท่องเที่ยวรองๆ มาก และมีความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติไปยังพื้นที่เหล่านี้สูงขึ้น สายการบินได้เปิดเส้นทางบินตรงจากต่างประเทศไปลงในจุดหมายนั้นโดยตรง ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น ก็จะเริ่มเห็นเครือโรงแรมระดับนานาชาติตามเข้าไปในพื้นที่เหล่านี้เช่นกัน