ประเด็นผิดพลาดเกี่ยวกับใบกำกับภาษี

โดย...สมชาย ชูเกตุ

ใบกำกับภาษี เป็นเอกสารสำคัญที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มใช้เป็นหลักฐานในการคำนวณภาษีขายและภาษีซื้อ ภาษีมูลค่าเพิ่มได้บังคับใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 ปัจจุบันยังมีการออกใบกำกับภาษีผิดพลาดอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป หรือใบกำกับภาษีอย่างย่อ โดยเฉพาะใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปนั้น หากสาระสำคัญของใบกำกับภาษีไม่ถูกต้อง มีผลกระทบต่อผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ซื้อสินค้าหรือบริการ ทำให้ขอคืนภาษีซื้อหรือนำไปหักออกจากภาษีขายไม่ได้ ต้องร้องขอให้ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือบริการออกใบกำกับภาษีฉบับใหม่ให้

ประเด็นผิดพลาดเกี่ยวกับใบกำกับภาษีที่เกิดขึ้นบ่อยๆ มีดังนี้

สาระสำคัญของใบกำกับภาษีไม่ถูกต้อง สาระสำคัญของใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ต้องเป็นไปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ส่วนใบกำกับภาษีแบบอย่างย่อ ต้องเป็นไปตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร การออกใบกำกับภาษี
ที่มีสาระสำคัญไม่ถูกต้องมีโทษทางอาญา ส่วนผู้ซื้อสินค้าหรือผู้ใช้บริการไม่สามารถนำไปขอคืนภาษีซื้อหรือหักออกจากภาษีขายได้

ออกใบกำกับภาษีโดยปัดเศษสตางค์ทิ้ง ผู้ประกอบการที่ออกใบกำกับภาษี ต้องไม่ปัดเศษสตางค์ในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มทิ้ง

ไม่ออกใบกำกับภาษีตรงกับจุดความรับผิดภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้น อาจส่งผลต้องชำระภาษี เบี้ยปรับและเงินเพิ่มเติม หรือต้องไปขอคืนภาษีที่ตนเองได้ชำระไปแล้ว

ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ไม่ระบุส่วนลดให้ชัดแจ้ง การให้ส่วนลด ผู้ประกอบการต้องแสดงส่วนลดที่นำไปหักออกจากราคาเต็ม แล้วนำส่วนที่เหลือไปคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม หากไม่ระบุส่วนลดอาจถูกประเมินภาษีเพิ่มเติมกรณีขายสินค้าหรือให้บริการต่ำกว่าราคาตลาดได้ แต่ถ้าออกใบกำกับภาษีอย่างย่อ ไม่ต้องระบุส่วนลดก็ได้

ไม่ระบุสินค้าที่แถมไว้ในใบกำกับภาษี ผู้ประกอบการต้องระบุสินค้าที่แถมไว้ว่าเป็นสินค้าประเภทใด มูลค่าเท่าใดจะได้ไม่มีปัญหาทีหลังว่าสินค้าที่แถมขาดจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบ

รับชำระค่าบริการด้วยเช็ค แต่ไม่ออกใบกำกับภาษีให้ตรงตามวัน เดือน ปี ที่ระบุไว้ในเช็ค กรณีได้รับเช็คสั่งจ่ายหลังวัน เดือน ปี ที่ระบุในเช็ค หากเป็นเช็คของส่วนราชการ องค์การของรัฐ สามารถออกใบกำกับภาษีโดยระบุวัน เดือน ปี ที่ได้รับเช็คสั่งจ่ายได้ แต่ถ้าเป็นเช็คสั่งจ่ายของภาคเอกชน ต้องมีหนังสือรับรองว่าได้มอบเช็คให้ในวัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี

ออกใบกำกับภาษีฉบับใหม่แทนฉบับเดิม ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

เปลี่ยนแปลงสถานที่อยู่ของผู้ประกอบการแล้ว แต่ออกใบกำกับภาษี หรือรับใบกำกับภาษีที่เป็นที่อยู่เดิม แก้ไขโดยออกใบกำกับภาษีฉบับใหม่ระบุสถานที่แห่งใหม่ให้ถูกต้อง

ออกใบกำกับภาษี กรณีออกเอกสารเป็นชุด ร่วมกับเอกสารอื่น ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด

ไม่ระบุอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศไว้ในใบกำกับภาษี กรณีรับชำระค่าสินค้า หรือค่าบริการเป็นเงินตราต่างประเทศ

แลกเปลี่ยนสินค้าและหรือให้บริการกัน แล้วไม่ออกใบกำกับภาษีให้ถูกต้อง

ประเด็นที่มักผิดพลาดเกี่ยวกับใบกำกับภาษียังมีอีกมาก ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มพึงต้องระมัดระวังเมื่อออกหรือรับใบกำกับภาษี

สวัสดีครับ