posttoday

ลุ้นหุ้นเล็กเอเชีย-ยุโรปเด้งเกินหุ้นใหญ่

12 ตุลาคม 2558

บลจ.เล็งหุ้นเล็กเด้งแรงกว่าหุ้นใหญ่ “แมนูไลฟ์” ยังชอบเอเชีย “ยูโอบี” ชวนลุยยุโรป

บลจ.เล็งหุ้นเล็กเด้งแรงกว่าหุ้นใหญ่ “แมนูไลฟ์” ยังชอบเอเชีย “ยูโอบี” ชวนลุยยุโรป

น.ส.ลินดา ซีแลค หัวหน้าทีมตราสารทุนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แมนูไลฟ์ (เอเชีย) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ตลาดหุ้นอยู่ในขาลงหุ้นขนาดเล็กมีแนวโน้มที่จะลดลงมากกว่าตลาด แต่หากตลาดกลับมามีเสถียรภาพหุ้นขนาดเล็กจะฟื้นตัวได้ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่

“ช่วง 15 ปีที่ผ่านมาหุ้นขนาดเล็กในภูมิภาคเอเชียให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดถึง 10 ปี ขณะเดียวกันยังมีผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่และยังมีความผันผวนน้อยกว่า ซึ่งตรงข้ามกับความเชื่อของนักลงทุนส่วนใหญ่” น.ส.ลินดา กล่าว

นอกจากนี้ น.ส.ลินดา กล่าวอีกว่า บริษัทขนาดเล็กในภูมิภาคเอเชียจำนวนมากที่มียอดขายเติบโต แม้ว่าทั่วโลกจะมีการเติบโตในระดับต่ำ ซึ่งกองทุนหลักของกองทุนเปิดแมนูไลฟ์ สเตร็งค์ เอเชียน สมอลแคป อิควิตี้ เอฟไอเอฟ เน้นลงทุนในบริษัทที่ยอดขายมีแนวโน้มเติบโต

“หุ้นขนาดเล็กมักจะมีสภาพคล่องน้อย เพราะฉะนั้นเวลาตลาดตกใจหุ้นขนาดเล็กจะตกแรงกว่าหุ้นขนาดใหญ่และพอตลาดฟื้นกลับมาหุ้นขนาดเล็กก็จะเด้งเร็วกว่า”นายต่อ อินทวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) กล่าว

ด้าน น.ส.ณัชชา สุนทรธาราวงศ์ กรรมการผู้จัดการอาวุโส สายพัฒนาธุรกิจ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ขณะนี้หุ้นขนาดเล็กในยุโรปมีระดับราคาที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่และกลาง จึงเป็นโอกาสที่จะลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า

“เศรษฐกิจยุโรปมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนและการคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินจากธนาคารกลางยุโรปจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และส่งผลดีต่อผลประกอบการโดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็กที่จะเติบโตได้สูงกว่าในช่วงเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว”น.ส.ณัชชา กล่าว

นอกจากนี้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาหุ้นขนาดเล็กของยุโรปเติบโตกว่า 250% และคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2559 จะเติบโต 19% และ 22% ในปี 2560 ด้วยระดับราคาที่เหมาะสมและน่าสนใจกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ในยุโรป

ทั้งนี้ วันที่ 12-16 ต.ค. 2558 บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จะเปิดขายกองทุนยูไนเต็ด ยูโรเปี้ยน สมอล แคป ฟันด์ ลงทุนผ่านกองทุน Pioneer Funds–European Potential–Class I ที่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดเล็กที่ได้รับประโยชน์จากหรือเกี่ยวข้องกับการเติบโตของธุรกิจในยุโรป โดยกระจายลงทุนใน 60-70 หลักทรัพย์