รื้อมาตรฐานสีย้อมผ้า-ทาวัสดุ

สมอ.ลุยประกาศ มอก.สีย้อมผ้า-สีทาวัสดุ-สีสังเคราะห์ คาดบังคับใช้เดือน มี.ค.ปีหน้า

นายธวัช ผลความดี เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (สมอ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ในช่วงต้นปีหน้าเป็นต้นไป ทาง สมอ.จะทยอยประกาศมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ใหม่ สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมกลุ่มสีหลายประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สี ทั้งสีที่สัมผัสร่างกายโดยตรง ประเภทสีย้อมผ้า สีย้อมสังเคราะห์ และสีทาวัสดุ เช่น ปูน เพื่อเป็นการคุ้มครองและสร้างความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค

ทั้งนี้ การประกาศมาตรฐาน มอก.ใหม่ ดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ประมาณเดือน มี.ค. 2559

นายธวัช ระบุว่า กลุ่มสีย้อมผ้าที่จะมีการประกาศมาตรฐานใหม่ เช่น สีไดเรกต์ สีแอซิด เป็นต้น เนื่องจากที่ผ่านมามีการร้องเรียนเป็นจำนวนมากว่า สีย้อมผ้าที่มีสารอโรมาติกเป็นองค์ประกอบ เป็นสารอาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง และขณะนี้ประเทศต่างๆ ในยุโรปได้สั่งยกเลิกใช้ไปแล้ว ดังนั้น สมอ.จะเข้าไปคุมเข้มเรื่องมาตรฐานการเพื่อป้องกันการร้องเรียน และเพื่อให้ผลิตภัณฑ์สีของไทยสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล

สำหรับมาตรฐานใหม่ของกลุ่มสีทาวัสดุ สมอ.จะกำหนดมาตรฐานบังคับสีน้ำมัน สีเคลือบแอลคีด เช่น มาตรฐานด้านความปลอดภัย การกำหนดคุณลักษณะและปริมาณโลหะหนัก เช่น ปริมาณตะกั่วต้องไม่เกิน 100 ส่วนในล้านส่วน (ppm) เนื่องจากมีข้อร้องเรียนว่า สีน้ำมันที่ใช้ทาอาคาร หรือทาเครื่องเล่นสนาม มีส่วนประกอบโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว แคดเมี่ยม ซึ่งมีผลกับการเจริญเติบโตของสมอง

“สีน้ำมันที่สีสดๆ เช่น สีแดง สีเหลือง สีส้ม จะมีส่วนประกอบของโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว แคดเมี่ยม ซึ่งหากสีที่ทาบนผนังมีการหลุดล่อนออกมา หรือของเล่นที่ใช้งานนานๆ เกิดสีหลุดร่วงมาติดมือเด็ก หากเด็กสัมผัสและนำเข้าปาก จะทำให้เด็กได้รับสารตะกั่ว ซึ่งเป็นโลหะหนักที่มีผลกับการเจริญเติบโตของสมอง ทำให้เด็กไม่ฉลาด โดยเฉพาะเด็กเล็ก” นายธวัช กล่าว

นอกจากนี้ สมอ.อยู่ระหว่างกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ที่จะกำหนดเป็นมาตรฐานบังคับเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน เช่น กระจกนิรภัยสำหรับรถยนต์ ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ขาว ซึ่ง สมอ.จะประกาศรายละเอียดชัดเจนอีกครั้ง

นายธวัช กล่าวว่า ในส่วนความคืบหน้าในการประกาศมาตรฐาน มอก.ใหม่ ให้สอดคล้องกับการประกาศใช้มาตรฐานอาเซียนนั้น สมอ.อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดทำมาตรฐานผลิตภัณฑ์สินค้า5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน กลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง และกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้