จีนยันไม่แย่งงานรับเหมารถไฟไทย

ทูตจีนประกาศชัด นักลงทุนจีนจะไม่แย่งงานคนไทยในโครงการรถไฟแน่นอน

นายหนิงฟู่ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้จีนได้ส่งรายงานผลการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการรถไฟไทยจีน ในเส้นทางกรุงเทพฯแก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอยนครราชสีมา-หนองคาย วงเงินลงทุนกว่า 4 แสนล้านบาท ที่มีการศึกษาตัวเลขทางเศรษฐกิจแนวเส้นทาง แผนการลงทุน ปริมาณผู้โดยสาร ปริมาณสินค้า ให้รัฐบาลปริมาณผู้โดยสาร ปริมาณสินค้า ให้รัฐบาลไทยหมดแล้ว และคาดว่าอาจจะต้องเลื่อนการลงนามความร่วมมือและการลงทุนออกไปจากกำหนดเดิม โดยจะมีการหารือครั้งที่ 9 ในประเทศไทยในเดือนนี้

เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ระบุว่า ความร่วมมือกับไทยนั้น ทางการจีนมีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะยืนอยู่บนหลักการของการเกื้อกูลผลประโยชน์ร่วมกัน โดยขอยืนยันว่าจีนจะไม่มีการนำนักลงทุนจีนมาแย่งงานก่อสร้างจากนักลงทุนไทยอย่างแน่นอน ขอให้สบายใจได้ เพราะต้องการพัฒนาการลงทุนกับไทยเยี่ยงมิตรประเทศที่ดี

สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่ทางการจีนเสนอในอัตรา 2.5% ระยะเวลาคืนทุนภายใน 20 ปีนั้น นายหนิงฟู่ขุย ชี้แจงว่า ดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นอัตราในสกุลเงินเหรียญสหรัฐ ไม่ใช่ดอกเบี้ยสกุลเงินหยวนซึ่งถือว่าต่ำกว่าดอกเบี้ยที่ทางเงินหยวนซึ่งถือว่าต่ำกว่าดอกเบี้ยที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นเสนอให้ในอัตรา 2% แต่เป็นเงินสกุลเยน ญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อสวอปเป็นเงินสหรัฐจะตกประมาณ 2.65% และจากการสอบถามนายธนาคารพาณิชย์ของไทย 2-3 ราย ได้รับคำตอบว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยที่รัฐได้ อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลไทยจะเจรจาให้ลดลงมาทางการจีนก็พร้อมจะเจรจาเพื่อให้การลงทุนในโครงการนี้เกิดขึ้นให้ได้

ขณะที่ข้อวิตกกังวลว่า หากจีนได้โครงการนี้ไปจะมีการมอบพื้นที่ให้จีนพัฒนาตลอดรายทางห่างจากเขตแนวรางรถไฟ 1 กม. นั้น นายหนิงฟู่ขุย กล่าวว่า จีนไม่เคยมีการเรียกร้องสิทธิในการพัฒนา ไม่เคยมีการเจรจาหรือยกเรื่องนี้ขึ้นมาหารือในที่ประชุมของคณะทำงานด้านความร่วมมือรถไฟไทย-จีน แม้แต่ครั้งเดียวจึงไม่รู้ว่าข้อมูลมาจากไหน

อย่างไรก็ตาม นายหนิงฟู่ขุย กล่าวว่า ในระยะนี้ทางการจีนจะเร่งโครงการความร่วมมือก่อสร้างรถไฟทางขนาดมาตรฐานความกว้าง 1.435 เมตร มีความเร็ว 160 กม./ชม. จากคุนหมิง-ลาว ให้เสร็จภายใน 5 ปี

นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จะนำเสนอบันทึกผลการประชุมความร่วมมือรถไฟไทย-จีน ครั้งที่ 8 และจะสรุปกรอบดำเนินการทั้งหมดให้ชัดเจน ซึ่งจะวางศิลาฤกษ์ที่ศูนย์ควบคุมการเดินรถที่เชียงรากน้อย ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ พร้อมกับแผนปฏิบัติการเร่งด่วนในช่วงปี 2558-2559 รวม 20 โครงการ เงินลงทุน 1.8 ล้านล้านบาท ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา