จัดระเบียบอี-คอมเมิร์ซผ่านเว็บ
“พาณิชย์” เล็งเพิ่มรายชื่ออี-คอมเมิร์ซให้ตรวจสอบผ่านแอพ DBD ต้นปีหน้า
“พาณิชย์” เล็งเพิ่มรายชื่ออี-คอมเมิร์ซให้ตรวจสอบผ่านแอพ DBD ต้นปีหน้า
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมจะเพิ่มรายละเอียดการใช้โปรแกรมตรวจสอบข้อมูลทั่วไปของนิติบุคคล DBD e-Service ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นบนมือถือของกรม โดยจะนำรายชื่อบริษัทที่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) ให้ประชาชนตรวจสอบได้ผ่านแอพ ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจในการทำการซื้อขายสินค้าผ่านทางออนไลน์กับบริษัทที่มีการจดทะเบียนถูกต้อง และยังช่วยป้องกันปัญหาการหลอกลวงได้ด้วย
“ปัจจุบันกรมกำลังผลักดันให้บริษัท ห้างร้าน และบุคคลธรรมดา ที่ทำการค้าขายออนไลน์ มาจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้ถูกต้อง เพื่อเป็นการยืนยันความมีตัวตนและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่จะซื้อขายสินค้าออนไลน์ และยังช่วยกระตุ้นให้การค้าขายออนไลน์ของไทยมีการเติบโตด้วย” น.ส. ผ่องพรรณ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีผู้ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 1.39 หมื่นราย ประกอบด้วยนิติบุคคล 3,646 ราย คิดเป็น 27% และบุคคลธรรมดา 1.02 หมื่นราย คิดเป็น 73% และมีร้านค้าออนไลน์ที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 1.57 หมื่นร้านค้า โดยธุรกิจที่ได้รับเครื่องหมายสูงสุด ได้แก่ แฟชั่น เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต และธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ
นอกจากนี้ กรมจะเพิ่มให้มีการตรวจสอบงบการเงินของบริษัทต่างๆ ผ่านทางแอพ เพื่อให้ประชาชนได้ตรวจสอบสถานะของบริษัท ซึ่งถือเป็นบริการเพิ่มเติมที่กรมกำลังจะเปิดให้บริการ คาดว่าทั้งการตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และตรวจสอบงบการเงินของบริษัทจะเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่ต้นปีหน้า เป็นต้น
น.ส.ผ่องพรรณ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กรมได้ทำการประกาศเตือนรายชื่อนิติบุคคลที่ควรจะต้องระมัดระวังในการทำธุรกิจ เพราะมีความเสี่ยง เนื่องจากเป็นนิติบุคคลที่ไม่ทราบตัวตนชัดเจน ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ทั้งการส่งงบการเงินและการจัดทำบัญชี ซึ่งได้นำรายชื่อนิติบุคคลเหล่านี้ให้ตรวจสอบได้ผ่านแอพแล้ว
ทั้งนี้ สามารถนำรายชื่อนิติบุคคลใส่ลงไปตรวจสอบผ่านแอพ ถ้าผลออกมาปกติก็ไม่มีความเสี่ยง แต่ถ้าไม่ปกติจะมีหมายเหตุเอาไว้ให้เพิ่มความระมัดระวัง ล่าสุดมีจำนวนบริษัทที่ถูกกรมขึ้นบัญชีดำ (แบล็ก ลิสต์) แล้วกว่า 1 หมื่นราย หรือคิดเป็น 5% จากจำนวนนิติบุคคลที่กรมได้เข้าไปตรวจสอบบัญชีและงบการเงินของธุรกิจ