posttoday

ยักยอกทรัพย์ รับของโจร

03 ธันวาคม 2558

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีข่าวตำรวจจับกุมแก๊งรับของโจรรายใหญ่ ยึดรถได้ 200 กว่าคัน ทำเป็นขบวนการ ทำมานานแล้ว รับจำนำ รับซื้อรถที่ค้างชำระค่างวดสถาบันการเงิน เช่น การซื้อขายดาวน์ หลังจากนั้นนำรถไปขายต่อต่างประเทศหรือปลอมทะเบียนหรือชำแหละเป็นชิ้นส่วน การกระทำดังกล่าวเป็นภัยต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง ทนายคลายทุกข์ขออธิบายว่า ผู้เช่าซื้อที่ยังค้างชำระค่างวด กรรมสิทธิ์ในรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ยังเป็นของผู้ให้เช่าซื้ออยู่ ถ้านำไปขายดาวน์ให้กับเต็นท์หรือประกาศขายทางอินเทอร์เน็ต มีความผิดฐานยักยอก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 เต็นท์หรือบุคคลอื่นที่รับซื้อมีความผิดฐานรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ถ้าทำเพื่อการค้ากำไร มีโทษจำคุกหนักขึ้น ตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี ปรับตั้งแต่สองพันถึงสองหมื่นบาท

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีข่าวตำรวจจับกุมแก๊งรับของโจรรายใหญ่ ยึดรถได้ 200 กว่าคัน ทำเป็นขบวนการ ทำมานานแล้ว รับจำนำ รับซื้อรถที่ค้างชำระค่างวดสถาบันการเงิน เช่น การซื้อขายดาวน์ หลังจากนั้นนำรถไปขายต่อต่างประเทศหรือปลอมทะเบียนหรือชำแหละเป็นชิ้นส่วน การกระทำดังกล่าวเป็นภัยต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง ทนายคลายทุกข์ขออธิบายว่า ผู้เช่าซื้อที่ยังค้างชำระค่างวด กรรมสิทธิ์ในรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ยังเป็นของผู้ให้เช่าซื้ออยู่ ถ้านำไปขายดาวน์ให้กับเต็นท์หรือประกาศขายทางอินเทอร์เน็ต มีความผิดฐานยักยอก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 เต็นท์หรือบุคคลอื่นที่รับซื้อมีความผิดฐานรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ถ้าทำเพื่อการค้ากำไร มีโทษจำคุกหนักขึ้น ตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี ปรับตั้งแต่สองพันถึงสองหมื่นบาท

ตัวอย่างคดีที่เคยขึ้นสู่ศาลมีดังต่อไปนี้

เอารถไปขายต่างประเทศ (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6540/2548)จำเลยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของโจทก์ร่วมไป แม้จำเลยจะมีสิทธิใช้สอยและครอบครองรถจักรยานยนต์ตามสัญญาเช่าซื้อ แต่รถจักรยานยนต์ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ร่วม เมื่อโจทก์ร่วมประสงค์จะตรวจดู จำเลยจำต้องยอมให้ผู้เช่าซื้อตรวจดูทรัพย์สินที่เช่าซื้อได้เป็นครั้งคราวในเวลาและระยะอันสมควรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 555 การที่จำเลยไม่สามารถนำรถจักรยานยนต์มาให้โจทก์ร่วมตรวจดูได้ แม้จำเลยได้แสดงเจตนาที่จะชำระค่าเช่าซื้อให้โจทก์ร่วม แต่จำเลยกับพวกนำรถไปขายที่ต่างประเทศแล้ว ถือได้ว่าจำเลยเบียดบังเอารถจักรยานยนต์ของโจทก์ร่วมไปเป็นของตนเองหรือบุคคลอื่นโดยสุจริต เป็นความผิดฐานยักยอกแจ้งว่าขายไปแล้วแต่ไม่ยอมบอกว่าขายให้แก่ผู้ใด (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7727/2544)

จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกจากบริษัท อ. โดยชำระเงินในวันทำสัญญาบางส่วน ที่เหลือผ่อนชำระเดือนละงวดรวม 36 งวด มีชาวบ้านที่จำเลยจ้างมาเป็นผู้ค้ำประกัน หลังจากทำสัญญาเช่าซื้อและรับรถไปแล้วจำเลยไม่ชำระค่าเช่าซื้อและไม่ติดต่อกับผู้เสียหายอีกเลย บริษัท อ. จึงบอกเลิกสัญญา แต่จำเลยไม่ส่งมอบรถคืนเมื่อสอบถามจำเลย จำเลยแจ้งว่าขายไปแล้วแต่ไม่ยอมบอกว่าขายให้แก่ผู้ใด ดังนี้ การที่จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อและชำระเงินล่วงหน้าก็เพื่อให้ได้รถยนต์ไปไว้ในครอบครอง มิได้มีเจตนาจะชำระราคาอีก พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวเป็นการเบียดบังเอาทรัพย์ของบริษัท อ. ที่อยู่ในครอบครองของจำเลยไปโดยทุจริตเป็นความผิดฐานยักยอก หาใช่เป็นเพียงการกระทำผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้นไม่

ยึดรถคนอื่น อ้างว่าเพื่อประกันหนี้ทั้งที่ไม่ได้เป็นหนี้ (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2195/2557)ภายหลังจำเลยที่ 2 ครอบครองรถยนต์ ช. ได้ติดต่อขอรถยนต์คืน โดยนำเอกสารหลักฐานทางทะเบียนรถยนต์แสดงว่าเป็นรถยนต์ของโจทก์ร่วมไปให้จำเลยที่ 2 ดู และ ช. พร้อมกับโจทก์ร่วมได้นำเงินที่ ช. ค้างอยู่ไปชำระให้แก่จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 บอกว่าให้มารับรถในวันรุ่งขึ้น วันรุ่งขึ้นโจทก์ร่วมและ ช. ไปขอรับรถคืน จำเลยที่ 2 ยังไม่ยอมคืนให้ทั้งที่ทราบแน่ชัดแล้วว่ารถได้โอนกรรมสิทธิ์เป็นของโจทก์ร่วมแล้ว การที่จำเลยที่ 2 ยังคงยึดหน่วงรถไว้มาส่งมอบคืนให้โจทก์ร่วม แม้อ้างว่าเพื่อประกันหนี้ ช. แต่เมื่อโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์และไม่ได้เป็นหนี้จำเลยที่ 2 ไม่ยินยอม การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการกระทำเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเอง อันเป็นการเบียดบังเอารถของโจทก์ร่วมโดยทุจริต เป็นความผิดฐานยักยอก

รับของโจร โจทก์มีหน้าที่นำสืบว่าผู้รับจำนำรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการลักทรัพย์ (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2923/2549)

ในคดีความผิดฐานรับของโจรนั้น โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบให้เห็นว่าจำเลยรับจำนำรถจักรยานยนต์ของกลางไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ไม่ใช่ว่าเมื่อจำเลยเป็นผู้ครอบครองรถจักรยานยนต์ของกลางแล้ว จำเลยต้องนำสืบแก้ตัวว่าตนไม่รู้ไม่เห็นของที่ได้มาจากการกระทำความผิด เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยรับจำนำรถจักรยานยนต์ของกลางโดยรู้ว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ พยานโจทก์จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานรับของโจทก์ ลำพังคำรับสารภาพชั้นจับกุม แต่จำเลยให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาคดี จะนำมาฟังลงโทษจำเลยว่าการกระทำความผิดฐานรับของโจรหาได้ไม่

รับของโจรต่างกรรมต่างวาระกัน (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2507)โจทก์ฟ้องจำเลยเป็น 2 คดี คดีแรกฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรโคจำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร ศาลลงโทษไปแล้ว คดีหลังฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรกระบือ โดยโจทก์บรรยายฟ้องให้เห็นว่ามีผู้พบเห็นจำเลยครอบครองโคกระบือของกลางทั้งสองคดีอยู่ในขณะเดียวกัน และแถลงรับว่าฟ้องคดีโดยอาศัยข้อเท็จจริงที่มีผู้พบเห็นจำเลยครอบครองของกลางดังกล่าว จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจรอีกกับแถลงรับตามที่ศาลสอบถามว่า จำเลยกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระกันกับคดีก่อน เช่นนี้ แม้โจทก์ไม่สืบพยาน ศาลก็ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรในคดีหลังได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ และการที่ศาลถามจำเลยดังกล่าวก็เป็นการสอบถามในรายละเอียดแห่งข้อเท็จจริง ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 235 วรรคสอง

บรรยายฟ้องว่ารับของโจรก่อนยักยอกทรัพย์ศาลต้องยกฟ้อง (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019/2557)โจทก์บรรยายฟ้องว่ารับของโจรก่อนยักยอกทรัพย์ ศาลต้องยกฟ้องก่อนที่จะมีการกระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์ การกระทำของจำเลยตามที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง จึงไม่อาจเป็นความผิดรับของโจร (คดีนี้พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องคดี)

ท่านที่ไม่มีความสามารถชำระค่างวด ควรนำรถไปคืนไฟแนนซ์ ไม่ควรนำไปขายดาวน์ต่อเพราะอาจมีความผิดฐานยักยอกได้นะครับ