posttoday

อนาคตโรงแรมไทย หลังเครือใหญ่โลกควบรวม

21 ธันวาคม 2558

แม้เครือโรงแรมไทยมีขนาดจิ๋วเทียบเครือใหญ่ในโลก แต่ก็โตได้อีกไกล เพราะมีจุดแข็งความเป็นไทยที่งานบริการ

โดย...ทีมข่าวธุรกิจตลาดโพสต์ทูเดย์

ความเคลื่อนไหวธุรกิจโรงแรมช่วงท้ายปีนี้มีกระแสข่าวร้อนแรงเกิดขึ้น กรณีเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ควบรวมกิจการกับ สตาร์วูด โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท เวิลด์ไวด์ ส่งผลให้เป็นเครือโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และแอคคอร์ โฮเทล ที่ควบรวมกิจการกลุ่มเอฟอาร์เอชไอ โดยการควบรวมทำให้เครือโรงแรมแข็งแกร่งมากขึ้น เครือโรงแรมเล็กหรือโรงแรมที่อยู่เดี่ยวๆ ก็เผชิญการแข่งขันที่หนักหน่วงขึ้น

ชนินทธ์ โทณวณิก กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า เครือโรงแรมใหญ่ระดับโลกควบรวมกิจการกันเพื่อผลประโยชน์ด้านมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เป็นหลัก และเชื่อว่ากระแสการควบรวมคงไม่จบแค่สองข้อตกลงนี้ คงได้เห็นการควบรวมกิจการอื่นอีกเพื่อขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น จำนวนเครือโรงแรมใหญ่ในโลกจะน้อยลง ซึ่งเครือโรงแรมไทยอาจได้รับความสนใจจากเครือโรงแรมใหญ่ต่างประเทศมาซื้อกิจการเช่นกัน

ขณะที่เครือดุสิตคงเหนื่อยมากขึ้นด้านการตลาด แต่มั่นใจว่าแข่งขันได้ เพราะข้อดีของเครือโรงแรมไทยคือไปขยายที่ไหนก็มีจุดแข็งเรื่องบริการแบบไทย จึงมีโอกาสในตลาดอยู่ที่เจ้าของโรงแรมต่างๆ จะเลือกเครือโรงแรมไทยบริหาร เพราะเครือโรงแรมใหญ่ระดับโลกเมื่อควบรวมกิจการแล้วมีแบรนด์ในมือเป็นทางเลือกมากก็จริง แต่ลูกค้าอาจรู้สึกสับสนกับการใช้บริการแต่ละแบรนด์

“เครือโรงแรมมี 2 แบบ คือ เครือยักษ์ใหญ่ มีโรงแรมในเครือไม่ต่ำกว่า 3,000-5,000 แห่ง กับเครือระดับภูมิภาค มีโรงแรมในเครือ 10-50 แห่ง เครือยักษ์ใหญ่คงจะสู้กันเอง เครือยักษ์ใหญ่หลักๆ ในอนาคตคงมาจาก 3 กลุ่ม คือ สหรัฐ ยุโรป และจีน ส่วนเครือระดับภูมิภาคขนาดเล็กก็จริง แต่อาจดำเนินการเรื่องต่างๆ ได้ดีและเร็วกว่า โดยเครือดุสิตมีแผนรับบริหารโรงแรมเพิ่ม 15-20 แห่ง/ปี” ชนินทธ์ กล่าว

ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า การที่เครือโรงแรมใหญ่ควบรวมกันเอง คงไม่มีผลกับเครือเซ็นทาราที่ขนาดไม่ใหญ่ ไม่กังวลว่าจะแข่งขันลำบากขึ้น เพราะมีจุดแข็งชัดเจน คือ บริการ และผลิตภัณฑ์

ประธานพร พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม แอ็ท สยาม ผู้ดำเนินธุรกิจสยาม แอ็ท สยาม ดีไซน์ โฮเต็ล กรุงเทพฯ และพัทยา กล่าวว่า เครือโรงแรมใหญ่ควบรวมกันเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ส่วน สยาม แอ็ท สยาม ซึ่งสร้างแบรนด์เองไม่กังวลด้านการแข่งขัน เพราะมั่นใจในความแข็งแกร่งของแบรนด์ อย่างไรก็ตาม คงต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวหลังควบรวมว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรในธุรกิจโรงแรมบ้าง

กมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป กล่าวว่า เครือโรงแรมใหญ่รวมกันเพื่อขยายขนาดธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น โดยสตาร์วูดมีโรงแรมในเอเชียมาก เมื่อแมริออทควบรวมก็ทำให้แมริออทเพิ่มโรงแรมในเอเชียได้เร็ว

สำหรับ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ในฐานะนักลงทุนโรงแรม ซึ่งเลือกใช้แบรนด์โรงแรมในเครือเหล่านี้ ทราบดีว่าการรับบริหารโรงแรมทำกำไรได้ไม่สูง เมื่อเครือโรงแรมใหญ่ควบรวมกัน นักลงทุนโรงแรมก็ได้รับประโยชน์ เพราะเครือโรงแรมใหญ่จะมีความแข็งแกร่งด้านการทำตลาดมากขึ้น จากจำนวนโรงแรมที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความสามารถลงทุนด้านการตลาดดีขึ้น อีกทั้งต่อไปบริษัทจะมีทางเลือกแบรนด์โรงแรมที่ใช้กับโรงแรมใหม่ๆ ที่สร้างในอนาคตมากขึ้น ส่วนเครือโรงแรมไทยก็คงจะแข่งขันเหนื่อยขึ้น

“บริษัทจะเลือกเครือโรงแรมบริหารโรงแรมให้ โดยพิจารณาจากแบรนด์ที่เป็นผู้นำ แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มตลาดลูกค้านั้นๆ ที่เป็นเป้าหมาย เพราะก่อนสร้างโรงแรมก็จะวางแผนไว้อยู่แล้วว่า จะให้โรงแรมนั้นเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าระดับไหน” กมลวรรณ กล่าว

ม.ล.สุรวุฒิ ทองแถม รองประธานอาวุโส ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ ผู้บริหารโรงแรมอมารี โอโซ และชามา กล่าวว่า การควบรวมกิจการเครือโรงแรมระดับโลกเป็นเกมการเงินของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่กระทบเครือโรงแรมไทยที่เพิ่งเริ่มต้นจริงจังขยายตัวรับบริหารโรงแรมในต่างประเทศ เพราะมีจุดเด่นเรื่องความเป็นไทย ทั้งนี้ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นเครือโรงแรมไทยไปซื้อกิจการเครือโรงแรมอื่นในโลกในอนาคต

แม้เครือโรงแรมไทยมีขนาดจิ๋วเทียบเครือใหญ่ในโลก แต่ก็โตได้อีกไกล เพราะมีจุดแข็งความเป็นไทยที่งานบริการไม่มีชาติใดเลียนแบบได้