posttoday

สหพัฒน์ลุยธุรกิจสังฆภัณฑ์

26 กรกฎาคม 2553

สหพัฒน์ขยายธุรกิจใหม่ แตก “ทีเชมเบอร์” รุกตลาดสังฆภัณฑ์ ชูจุดเด่นจีวรนาโนเทคโนโลยี รับเทศกาลเข้าพรรษา คนแห่ทำบุญ

สหพัฒน์ขยายธุรกิจใหม่ แตก “ทีเชมเบอร์” รุกตลาดสังฆภัณฑ์ ชูจุดเด่นจีวรนาโนเทคโนโลยี รับเทศกาลเข้าพรรษา คนแห่ทำบุญ

นายธานี มิตรพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีเชมเบอร์ ผู้ดำเนินธุรกิจด้านสังฆภัณฑ์ในเครือสหกรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทได้แยกออกมาจากบริษัท ธนูลักษณ์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ก่อตั้งบริษัท ทีเชมเบอร์ ในปี 2552 ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ดำเนินการวางแผนขยายธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา อาทิ ผ้าไตรจีวร เครื่อง|สังฆภัณฑ์ และชุดสังฆทาน เป็นต้น

นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือบริษัทสหพัฒน์ ได้วางนโยบายในการขยายธุรกิจด้านสังฆภัณฑ์ หลังจากก่อนหน้าได้เข้าซื้อโรงงานทอผ้าเอราวัณ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าในกลุ่มสิ่งทอเครื่องแต่งกาย

การรุกเข้าตลาดเครื่องสังฆภัณฑ์อย่างจริงจังของสหกรุ๊ปในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นโอกาสในตลาดชุดผ้าไตรจีวรที่มีมูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท แต่ผู้เล่นในตลาดนี้กระจายอยู่ในช่องทางขายเครื่องสังฆภัณฑ์ดั้งเดิม อาทิ ย่านเสาชิงช้า เป็นต้น

บริษัทจะชูจุดเด่นจีวรพระสงฆ์ โดยนำนาโนเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตจีวรภายใต้แบรนด์ “ธรรมรัตน์” เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายพุทธศาสนิกชนได้ถวายของทำบุญเครื่องใช้คุณภาพสูงสำหรับพระภิกษุสงฆ์ได้ทุกฤดูกาล และโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.–23 ต.ค. รวม 3 เดือน คาดว่าจะได้การตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากนี้ บริษัทยังผลิตชุดเครื่องสังฆทานคุณภาพสูงบรรจุในถังสุญญากาศ วางระดับราคาชุดเล็ก 490 บาท และชุดใหญ่ราคา 680 บาท โดยบริษัทใช้แนวคิดนำสินค้าที่ผลิตและทำตลาดในเครือบริษัทมาจัดเป็นชุดสังฆทาน เพื่อควบคุมคุณภาพและต้นทุนได้ และยังเป็นการร่วมทำบุญพร้อมคืนกำไรให้กับลูกค้าไปพร้อมกันด้วย

นายธานี กล่าวว่า ช่องทางการจำหน่ายสินค้าบริษัทวางจำหน่ายผ่านร้านค้าเครื่องสังฆภัณฑ์ย่านเสาชิงช้า ร้านสังฆภัณฑ์ใหญ่ๆ ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และบริการเซเว่น แค็ตตาล็อก เป็นต้น โดยบริษัทคาดว่าตลอดช่วงเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้จะมีอัตราการเติบโตของยอดขายไม่ต่ำกว่า 200% จากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา มียอดขายปีแรกอยู่ที่ 22 ล้านบาท

ปัจจุบันแนวโน้มผู้บริโภคจะเน้นซื้อสินค้าสังฆภัณฑ์ในห้างค้าปลีกสมัยใหม่ที่มีหลากหลายระดับราคา ทำให้ยอดขายในช่องทางดั้งเดิมลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะย่านเสาชิงช้า ประกอบกับจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคเน้นซื้อสินค้าราคาประหยัดมากกว่าซื้อสินค้าที่เน้นความสวยงาม