ประเภทของยาง
โดย...บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
โดย...บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ภาคการเกษตรนับเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของเศรษฐกิจและสังคมไทย ภาครัฐจึงได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการซื้อขายสินค้าเกษตรและสร้างมาตรฐานการซื้อขาย และสนับสนุนการซื้อขายเพื่อป้องกันความเสี่ยงผ่านตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยปีที่ผ่านมาได้มีนโยบายให้รวมศูนย์การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามาอยู่ภายใต้ TFEX เพียงแห่งเดียว ซึ่ง TFEX ได้เตรียมความพร้อมและจะจัดให้มีการซื้อขายยางธรรมชาติล่วงหน้า RSS3 Futures หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับยางแผ่นรมควันชั้น 3 เป็นสินค้าเกษตรประเภทแรกใน TFEX โดยจะเริ่มซื้อขายในวันที่ 15 ก.พ. 2559 ในครั้งนี้จึงขอมาพูดคุยถึงยางประเภทต่างๆ รวมถึงประโยชน์การใช้สอย เพื่อให้ผู้ลงทุนมีความเข้าใจในยางธรรมชาติดียิ่งขึ้น
ยางธรรมชาติเป็นผลิตผลทางการเกษตรที่สำคัญประเภทหนึ่งของประเทศไทย โดยสามารถผลิตและส่งออกยางธรรมชาติได้มากกว่า 1 ล้านตัน/ปี ประเทศไทยมีการปลูกยางในหลายพื้นที่ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคอีสาน ซึ่งการปลูกต้นยางพาราจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 3-5 ปีก่อนที่จะเริ่มสร้างผลผลิตได้ โดยวิธีเก็บน้ำยางนั้น จะทำโดยการกรีดลำต้นของยาง และนำพาชนะไปรองรับน้ำยางที่ไหลออกมา โดยน้ำยางสดที่ได้จะสามารถนำไปขายได้ทันทีหรือนำไปแปรรูปเบื้องต้นก่อนจะนำไปขายต่อได้ในหลายรูปแบบด้วยกัน ดังนี้
น้ำยางข้น (Latex) คือ น้ำยางที่มีเนื้อยางแห้งไม่ต่ำกว่า 60% ผลิตโดยนำเอาน้ำยางสดซึ่งเป็นน้ำยางที่ชาวสวนได้จากการกรีดต้นยางมาผ่านกระบวนการแปรรูปขั้นต้น ทั้งนี้ ในน้ำยางสดจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนที่เป็นน้ำ ส่วนที่เป็นยาง และส่วนที่เป็นของแข็งแต่ไม่ใช่ยาง วิธีการผลิตน้ำยางข้นคือการแยกเอาส่วนเป็นน้ำและของแข็งที่ไม่ใช่ยางออกไปจากน้ำยางสดให้ได้มากที่สุดนั่นเอง โดยกระบวนการผลิตน้ำยางข้นจะเริ่มจากการเติมสารแอมโมเนียเข้าไปในน้ำยางสดเพื่อรักษาคุณภาพของน้ำยาง จากนั้นนำไปปรับคุณสมบัติต่างๆ ให้ได้ตามมาตรฐานที่ต้องการ ก่อนจะนำไปปั่นแยกส่วนที่เป็นน้ำและส่วนที่ไม่ใช่ยางออกจากน้ำยางสดโดยผ่านเครื่อง Centrifuge เพื่อให้ได้น้ำยางข้นออกมา ทั้งนี้ น้ำยางข้นมักจะถูกใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญของการผลิตสินค้าที่ต้องจุ่มแบบพิมพ์เพื่อขึ้นรูป เช่น ถุงมือ ลูกโป่ง ถุงยางอนามัย และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ยางฟองน้ำ สายยางยืดแบบกลม ท่อยาง และกาว
ยางแผ่นรมควัน หรือ Ribbed Smoked Sheet (RSS) เป็นยางแผ่นที่ได้จากการนำน้ำยางสดมาทำให้เกิดการจับเป็นก้อนโดยการใช้กรดและรีดเป็นแผ่น จากนั้นนำไปทำให้แห้งด้วยความร้อนและควันจากการเผาไหม้ ทำให้ยางอยู่ในรูปแบบที่สะดวกแก่การขนส่ง คงคุณภาพได้นาน และเก็บรักษาโดยง่าย โดยทั่วไปยางแผ่นรมควันถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมผลิตยางรถยนต์และล้ออากาศยาน
ทั้งนี้ ยางแผ่นรมควันจะมีเกรดแตกต่างกันไป แบ่งตามระดับความบริสุทธิ์ (พิจารณาจากรอยจุดด่าง ตำหนิ สิ่งปนเปื้อน ฯลฯ) และความยืดหยุ่นของยาง แบ่งออกเป็นทั้งสิ้น 5 เกรดด้วยกันตั้งแต่ RSS1 ที่มีคุณภาพดีที่สุด จนถึง RSS5 ที่มีคุณภาพต่ำที่สุด โดย RSS3 เป็นเกรดที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด สำหรับประเทศไทยนั้น มีการผลิตและส่งออก RSS3 เป็นอันดับแรกของโลก ด้วยยอดการส่งออก RSS3 สูงถึง 409,044 ตัน ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2558
ยางแท่ง หรือ Technically Specified Rubber (TSR) ผลิตจากน้ำยางสดหรืออาจใช้ยางที่จับตัวแล้วหรือยางแห้ง เช่น ยางแผ่นดิบ ยางก้นถ้วย ขี้ยาง เศษยาง มาเป็นวัตถุดิบ เริ่มกระบวนการโดยตัดย่อยก้อนยางให้เป็นชิ้นเล็กๆ ล้างสิ่งสกปรกออก นำยางไปอบแห้ง แล้วอัดเป็นแท่งตามขนาดที่ต้องการ ข้อดีของยางแท่ง คือ มีต้นทุนการผลิตและราคาที่ถูกกว่ายางแผ่น สามารถขนส่งได้ง่ายกว่าเนื่องจากถูกอัดเป็นก้อน จัดเรียงง่าย ไม่ต้องระวังการฉีกขาด
นอกจากนี้ การแบ่งมาตรฐานของยางแท่งยังสามารถตรวจสอบได้จากคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ของยางตามมาตรฐานสากล ต่างจากยางแผ่นรมควันที่จัดชั้นคุณภาพด้วยสายตา สำหรับประเทศไทยได้กำหนดมาตรฐานยางแท่งเป็น STR (Standard Thai Rubber) แบ่งเป็น 6 ประเภท ได้แก่ STR XL STR 5L STR 5 STR 10 STR 20 STR CV โดย STR 20 เป็นประเภทยางแท่งที่มีปริมาณส่งออกมากที่สุดของไทย ทั้งนี้ ยางแท่งส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตยางยานพาหนะ ปัจจุบันผู้ผลิตต่างมีแนวโน้มความต้องการใช้ยางแท่งสูงขึ้น เพื่อทดแทนยางแผ่นรมควัน เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่าและขนส่งได้ง่ายกว่า
ในตลาดต่างประเทศมีการจัดให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทั้งยางแผ่นรมควันและยางแท่ง เพื่อเป็นเครื่องมือบริหารควาเสี่ยงให้แก่ผู้ประกอบการและภาคอุตสาหกรรม สำหรับ TFEX นั้น เลือกเอา RSS3 Futures มาเป็นสินค้าเกษตรประเภทแรกที่จะเริ่มซื้อขาย เนื่องจากเป็นสินค้าที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกที่สำคัญ
นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยให้ผู้ที่ใช้ RSS3 Futures ในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยง สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องในช่วงเปลี่ยนถ่ายจากตลาด AFET มายัง TFEX ทั้งนี้ TFEX ได้เริ่มเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ RSS3 Futures ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ผ่าน www.tfex.co.th สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจหาข้อมูลเพิ่มได้จากโบรกเกอร์ที่ท่านใช้บริการ