posttoday

Multistrada VS Monster ดูคาติสไตล์ไหนเหมาะกับคุณ

24 กุมภาพันธ์ 2559

Ducati Multistrada 1200S VS Ducati Monster 1200S เครื่องยนต์ 1200ซีซี ของ Ducati สองสไตล์ อย่างไหนเหมาะกับคุณ

เรื่อง...ภรวิธ เศรษฐบุตร Managing Editor Rubbers Magazine ภาพ...Ducati Thailand

ดูคาติไทยแลนด์ จัดงาน “Desmo Ride 2016 Power Up by Shell Advance” เป็นงานใหญ่ที่จัดขึ้นหนึ่งครั้งในรอบสองปี ให้เฉพาะลูกค้าในประเทศไทย ในครั้งนี้จึง ถือเป็นโอกาสอันดีที่ผมมีโอกาสร่วมบันทึกการเดินทางของชาวดูคาทิสต้าจากทั่วประเทศไทยเกือบ 100 คัน กับการออกทริปทางไกลไปพิชิตเส้นทางที่ชาวไบค์เกอร์ทุกคนใฝ่ฝัน กรุงเทพฯ-น่าน-เชียงใหม่ เป็นระยะทางกว่า 1,000 กม. เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน

ไม่รอช้าสิครับเพราะผมจะได้ทดสอบการขับขี่รถดูคาติสองรุ่นที่มีขนาดเครื่องยนต์เท่ากันแต่แตกต่างกันด้วยนิสัยของมัน

คำถามโลกแตกที่อยู่ในหัวของคนที่กำลังอยากซื้อรถใหม่ที่กำเงินเอาไว้ในมือหนึ่งล้านบาทแต่ไม่แน่ใจว่ารถรุ่นไหนเหมาะกับตัวเอง วันนี้ผมขอนำรถค่ายเดียวกันสองรุ่นมาบอกเล่าให้ฟังแบบย่อๆ เข้าใจง่ายดีกว่าครับ ที่สำคัญคือ เส้นทางที่ใช้ทดสอบนั้นมีทั้งในเมืองและโค้งเขา ได้ลองบนถนนที่มีสภาพดีและแย่ อุปกรณ์ที่ให้มาและท่านั่ง น้ำหนัก ความสูง สำหรับผมมันคือปัจจัยหลัก

รถสองรุ่นที่ได้ขับขี่ในครั้งนี้ แน่นอนคือ Multistrada 1200S ที่ราคาถูกกว่า Monster 1200S 64,000บาท

Multistrada กับค่านิยมคนไทยนั้นแน่นอนว่ามันคือสุดยอดรถทัวร์ริ่งของดูคาติ Monster นั้น คนอาจจะชินกับภาพของตัว  “entry level” อย่าง Monster 795 ทำให้ค่านิยมของ Monster นั้นศักดิ์ศรีดูจะด้อยกว่า Multistrada

ถ้าวันนี้คุณคิดแบบนั้น ผมบอกได้เลยว่าคุณคิดผิดครับ กับ Monster 1200S โมเดลนี้

Multistrada VS Monster ดูคาติสไตล์ไหนเหมาะกับคุณ

Ducati Mustistrada 1200S

ในการเดินทางสองวันนั้นผมเลือกที่จะใช้ Multistrada 1200S ในวันแรกก่อน ในวันแรก กรุงเทพ-น่าน ระยะทาง  670 กิโลเมตร ถามว่าทำไม อย่างแรกคือกับความสูง 160เซนติเมตร ผมมีแค่ปลายเท้าแตะพื้น แถมยังทำได้ข้างเดียวอีกด้วย ทำให้การเดินทางวันที่สองที่เป็นโค้งและเขาล้วนๆ ที่ต้องจอดถ่ายรูปดูจะไม่เป็นผลดีกับตัวเองและรถเท่าใหร่นัก จะแบกน้ำหนักรถ 240 กิโลกรัมก็คงจะงานเข้าพอสมควร เพราะฉะนั้นจึงขอซัดทางตรงยาวๆ ตามแบบฉบับรถทัวร์ริ่งและไปพลิกบนเขาประมาณเจ็ดสิบกว่ากิโลเมตรก่อนถึง จังหวัดน่านก็น่าจะโอเค

ผมคิดถูกครับ เพราะ เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังแล้ว น้ำหนักของรถ เพิ่มมากขึ้นจนมันดูไม่เหมาะกับคนตัวเล็กแบบผมที่จะเข็นไปมาโดยเฉพาะตอนจอดเติมน้ำมัน จะติดกระเป๋าหรือมีคนซ้อน ตอนนี้ลืมไปก่อนได้เลย (ความสูง 165 เซนติเมตร ขึ้นไปไม่น่ามีปัญหานี้ครับ)

แต่สิ่งที่เจ๋งสำหรับ Multistrada 1200S นั้นก็คือ ดีไซน์ใหม่ที่หล่อกว่าเดิมเยอะมาก โดยเฉพาะด้านหน้ากับไฟหน้าใหม่ LED ที่ส่องเป็นลำสีขาวดูสะอาดตา ที่สำคัญคมคายมากๆ ทำให้เจ้าของรถหล่อกว่าเดิมเยอะยามได้อยู่บนรถ

Multistrada VS Monster ดูคาติสไตล์ไหนเหมาะกับคุณ

ช่วงล่างไฟฟ้าปรับค่าได้หลายระดับความอ่อนหรือแข็งออกแบบพิเศษกับระบบ Skyhook ที่เน้นมากับเรื่องการควบคุมโดยเฉพาะทำให้ Multistrada 1200S นั้นตอบโจทย์การท่องเที่ยวอย่างแท้จริง แม้จะไม่ใช่ Ohlines รุ่นท๊อบเหมือน Monster 1200S แต่เพราะการที่ใช้งานที่ต่างกันคุณถึงไม่จำเป็นไงครับ แค่เป็นระบบไฟฟ้าที่ปรับพรีเซทได้ตามต้องการเช่น มีคนซ้อนอย่างเดียว หรือมีกระเป๋าอย่างเดียว หรือมีทั้งคนซ้อนและกระเป๋า หรือขี่คนเดียว เพียงแค่เลือกในเมนูทุกอย่างก็จบง่ายดาย

Multistrada 1200S เป็นรถที่สำหรับผมเหนื่อยแค่ตอนจอด ที่เหลือมันคือสวรรค์ครับ เพราะการควบคุมที่ง่ายดาย มีโหมดให้เลือกใช้ ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ได้ไม่ยาก แค่ไม่เพิ่มรอบเครื่องแล้วกดโหมดเปลี่ยนไม่เกิน 3-4 วินาทีก็ใช้ได้ เพียงแค่วางแผนดูรถหลังสักนิดก่อนเปลี่ยนโหมดเผื่อใครตามมาเร็วเจอความเร็วของเราที่ลดลงจะบ่นได้

สภาพถนนที่แย่ๆ ตามแบบฉบับบ้านเราเป็นเครื่องทดสอบอย่างดี 600 กิโลเมตรผ่านไปแบบไม่เหนื่อยเลย พอเริ่มเข้าเขตที่เป็นเขาและโค้ง ด้วยท่านั่งที่คนตัวเล็กอย่างผมดูจะมีปัญหากลับไม่มี การเข้าโค้งนั้นให้อารมณ์ไม่ต่างกับรถ เนกเก็ตไบค์ สนุกและให้ความมันในการพลิกเข้าโค้ง S ลิมไปเลยว่าเป็นรถทัวร์ริ่ง

ก็ตอบโจทย์คนที่ชอบท่องเที่ยวแต่อยากซิ่งไปด้วย

Multistrada VS Monster ดูคาติสไตล์ไหนเหมาะกับคุณ

 

Multistrada VS Monster ดูคาติสไตล์ไหนเหมาะกับคุณ

Ducati Monster 1200S

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า Monster แพงกว่า Multistrada โดยวัดกันที่ความเป็นโมเดล S เหมือนกัน นั่นก็คงเป็นเพราะ โช๊ค Ohlins ที่จัดเต็มมาให้ทั้งหน้าหลัง ถามดูคาติไปว่าทำไม Multistrada ทำไมไม่ให้ Ohlins มาด้วยก็ได้คำตอบว่าให้มาก็ใช้ไม่ได้ตรงจุดเพราะ Multistrada กับโช๊ค Ohlins นั้น มันไม่จำเป็น แต่ Monster สิ ใช่!

เพราะ Monster อย่างที่ผมเคยกล่าวไปแล้วว่ามันเป็นรถอเนกประสงค์ สามารถเปลี่ยนสันดานรถจาก ติ๋มๆ บนถนนในเมืองให้เป็นปีศาจที่ดุร้ายในสนามแข่งได้ ดังนั้น Monster 1200S ที่จัดโช๊คเทพสีทองทั้งชุดจาก Ohlins มาให้ทำให้ราคาของมันแซง Multistrada ขึ้นไปหลายหมื่นบาทอย่างช่วยไม่ได้

แต่สิ่งที่ได้มาคือความสุดของช่วงล่างที่ทำให้ อสูรกาย ตนนี้สามารถซ่าได้บนพื้นผิวถนนทุกประเภทที่เป็นทางดำ อานุภาพของการซับแรงกระแทกที่ละเอียดมากขึ้นทำให้เจ้าของสามารถได้ฟีลลิ่งที่ให้ความปลอดภัยและมั่นใจกว่าช่วงล่างธรรมดายามเจาสภาพถนนแย่ๆ นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง

อีกภาคส่วนใหญ่ๆ ของ Monster 1200S ก็คือการพามันไปปลดปล่อยในสนามแข่งที่เหมือนกับลู่วิ่งให้ได้ออกกำลังกาย แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องหมอบก็ซ่าได้ในสนามแข่งเพราะ Monster คือรถรุ่นเดียวของดูคาติที่เปลี่ยนท่านั่งได้หลายแบบตามที่เคยกล่าวมา

วันที่สองกับการลุยทางหลวงหมายเลข 1148 น่าน-พะเยา-เชียงใหม่ ที่คดเคี้ยวอย่างทางหลวงชนบทที่ขึ้นชื่อว่ามีโค้งและเขาที่สุดแสนโหดและสนุกผมเลือกที่จะใช้  Monster 1200S ขึ้นไปลุยกับ Multistrada 1200S ไม่มีห่างกันครับงานนี้ เกาะกลุ่มหน้าสบายๆ

การพิชิตโค้งหลายร้อยโค้งในวันนั้นกับรถที่มีพลังเหลือๆ พร้อมช่วงล่างดีๆ ทำให้มันสนุกเหลือเกิน การใช้ Riding Modes ที่ให้มาสามระดับ บอกตรงๆ ใช้แค่สอง คือ  Urban กับ Touring ที่มี Traction Control หลายระดับช่วยเรื่องความปลอดภัย Sport Mode ขอเอาไว้ใช้ในสนามก็พอ

ถึงเวลาปาร์ตี้

เมื่อสิ้นสุดการขับขี่ ดูคาติ ก็จัดงานปาร์ตี้ให้ลูกค้าของพวกเขาที่ วิรันดา ไฮ รีสอร์ท เชียงใหม่ โรงแรมห้าดาวสุดหรูกลางหุบเขาเป็นการตอบแทนที่มีทฤษฎีที่ดีเพราะหลังจากความเหน็ดเนื่อยแล้วย่อมทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียวและทุกปีก็มักจะมีเซอไพรซ์ให้ได้พบกับรถโมเดลใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนส่งตรงจากงานมหกรรมมอเตอร์ไซค์ EICMA เมืองมิลานประเทศอิตาลี สองโมดลนั้นก็คือ Ducati X-Diavel และ Multistrada 1200S Pike Peaks โฉมใหม่ พกพาความสุขกลับกรุงเทพกันทุกคน

Multistrada VS Monster ดูคาติสไตล์ไหนเหมาะกับคุณ

บทสรุป Multistrada 1200S กับ Monster 1200S อะไรดีกว่ากัน

Multistrada 1200S ราคา 1,035,000บาท

ได้ความสบาย คนซ้อนสบายเดินทางไกลตรงๆ ยาวๆ มีชิวหน้าปรับได้ช่วยลดแรงปะทะของลม แน่นอนว่าไม่เหนื่อย มีที่เก็บสัมภาระ เดินทางไกลได้หลายวันสบายๆ คนซ้อนก็สบายด้วย ช่วงล่างไฟฟ้าปรับได้ อันนี้คือไฮไลท์ มันช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นจริง ถ้าคนรักการท่องเที่ยว แต่หากคุณมีงบสำหรับรถคันเดียว การใช้ในเมืองก็จะไม่คล่องตัวเหมือน Monster 1200S แต่ถ้าเรื่องเดินทางก็แน่นอนว่ายังให้อารมณ์ความเป็นสปอร์ตอยู่มากทำให้สนุกและไม่เหนื่อย

สเปค
http://www.ducatithailand.com/bikes/multistrada/1200_s/tech_spec.do


Monster 1200S 1,099,000บาท

มัน มัน มัน ผมเปรียบโมเดลนี้ถ้าเป็น Porsche Premavera หรือ รถสปอร์ตแฟมิลี่ 4 ประตู แรง แรดได้ ซิ่งได้ ช่วงล่างเทพ ขี่ได้ทุกรูปแบบ ในเมือง ทัวริ่ง หรือ สนามแข่ง จบทุกกระบวนท่า คนซ้อนมีพื้นที่มากกว่าเดิม เบาะนุ่มนั่งสบายขึ้น ปัญหาคือเดินทางไกล ลมปะทะเยอะ ทำให้เหนื่อยมากกว่า Multistrada แน่นอน และ ไม่มีพื้นที่สำหรับสัมภาระหากเดินทางไกลไปค้างกับหวานใจสองต่อสอง ถ้ามีกระเป๋าข้างที่เป็น Option ก็น่าจะแก้ปัญหาได้ ใช้ในชีวิตประจำวันได้ วัยรุ่นกว่าในมุมมองของผม

สเปค
http://www.ducatithailand.com/bikes/monster/1200_s/index.do

บอกแล้วว่ามีเงินก็ใช่ว่าจะเลือกได้ง่ายๆ ของแบบนี้มองให้ขาดว่าเราอยากขี่รถแบบใหนแล้วก็จะเลือกรถที่ใช่ได้ไม่ยากครับ

ขอบคุณ  Ducati Thailand, Furygan Thailand Official, Suomy Helmet และ กางเกงยีนส์  Badass jeans

ติดตามผู้เขียนได้ที่ www.facebook.com/rubbersmagazine

Multistrada VS Monster ดูคาติสไตล์ไหนเหมาะกับคุณ ผู้เขียน