‘ซื่อตรงฯ’เฉือนกำไรสู้

30 พฤษภาคม 2559

“ซื่อตรง” หั่นกำไรสู้รายใหญ่ ชี้รายกลาง-รายเล็กอยู่ได้ต้องคุมต้นทุน-คุณภาพ

“ซื่อตรง” หั่นกำไรสู้รายใหญ่ ชี้รายกลาง-รายเล็กอยู่ได้ต้องคุมต้นทุน-คุณภาพ

นายรุ่งรัตน์ ลิ่มทองแท่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซื่อตรง พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องควบคุมต้นทุนและบริหารจัดการให้ดี ซึ่งบริษัทรายกลาง-เล็กส่วนใหญ่จะได้เปรียบเรื่องการปรับตัวได้ค่อนข้างรวดเร็ว

“บริษัท ซื่อตรงฯ อยู่ในวงการพัฒนาอสังหาฯ มานาน 32 ปีแล้ว มีจุดเด่นที่พยายามบริหารต้นทุนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และยอมให้กำไรสุทธิน้อยกว่ารายใหญ่ที่ส่วนใหญ่ไม่ต่ำกว่า 20% แต่บริษัทอยู่ที่ 15% ก็รับได้ ขณะเดียวกันก็พัฒนาสินค้าที่ขายทั้งหมดให้เป็นในรูปแบบแฮนด์เมดที่ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ไม่ได้เน้นการใช้วัสดุก่อสร้างสำเร็จรูป อีกทั้งไม่ได้พัฒนาเป็นบ้านพร้อมอยู่แบบ 100% ลูกค้าจะสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นภายในบ้านก็สามารถทำได้” นายรุ่งรัตน์ กล่าว

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังนั้น ยังคงต้องเผชิญกับปัจจัยลบจากเศรษฐกิจชะลอตัว อีกทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ตัวเลขการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงินเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย จึงทำให้บริษัทต้องเร่งปรับตัวคือพัฒนาบ้านที่มีขนาดที่ดินเล็กลง เพื่อให้ราคาบ้านถูกลงแทนการลดขนาดและคุณภาพบ้านลง เช่น เดิมบริษัทพัฒนาบ้านเดี่ยวบนที่ดินขนาด 50 ตารางวา ลดลงเหลือ 35 ตารางวา เป็นโครงการบ้านแฝด พร้อมกับบริหารสต๊อกบ้านให้ตรงกับความต้องการซื้อของลูกค้า ไม่ก่อสร้างไว้ล่วงหน้าจำนวนมาก เป็นต้น

ขณะที่แผนการพัฒนาโครงการใหม่ในช่วงกลางปีนี้บริษัทจะเปิดตัว 2 โครงการใหม่ ประกอบด้วยโครงการซื่อตรง โคซี่ รังสิต คลอง 6 เฟส 3 บนเนื้อที่ 50 ไร่ พัฒนาเป็นทาวน์เฮาส์ขนาด 22-30 ตารางวา ราคา 1.8-2.4 ล้านบาท จำนวน 291 ยูนิต มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท จะเปิดการขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 28-29 พ.ค.นี้  โครงการที่ 2 ซื่อตรง โคซี่ รังสิต คลอง 6 เฟส 5 บนเนื้อที่ 60 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดขนาด 35-100 ตารางวา ราคา 2.9-7 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 231 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท คาดว่าเปิดขายได้ในปลายปี 2559 หรือต้นปี 2560

ทั้งนี้ ในปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่เปิดการขายอยู่ 7 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการซื่อตรง โคซี่ รังสิต คลอง 6 เฟส 1 เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 236 ยูนิต มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท เปิดขายเมื่อปี 2554 เหลือขาย 40 ยูนิต  2.โครงการซื่อตรง โคซี่ รังสิต คลอง 6 เฟส 2 เป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์จำนวน 297 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท 3.โครงการซื่อตรง โคซี่ บางบัวทอง 340 เฟส 5 เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 273 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 60%

4.โครงการซื่อตรง โคซี่ บางบัวทอง 340 เฟส 7 เป็นทาวน์โฮมจำนวน 56 ยูนิต มูลค่าโครงการ 260 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้ว 30% 5.โครงการซื่อตรง พรีเมี่ยม บางบัวทอง 340 เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 156 ยูนิต มูลค่าโครงการ 870 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 30% 6.โครงการซื่อตรง แกรนด์วิลล์ บางเสร่ เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 148 ยูนิต ราคา 6-8 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 180 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้ว 30% และ 7.โครงการซื่อตรง พรีเมี่ยม พระราม 2-แสมดำ เฟส 1 เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 149 ยูนิต มูลค่าโครงการ 820 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้ว 20%

นายรุ่งรัตน์ กล่าวอีกว่า ในปี 2559 บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 1,500 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ราว 1,200 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2558 ที่มียอดขาย 1,200 ล้านบาท และรับรู้รายได้ 1,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยขณะนี้ได้เตรียมยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ในเดือน มิ.ย.นี้ คาดว่าจะเข้าซื้อขายได้ประมาณปี 2560

อย่างไรก็ตาม จะต้องพิจารณาจากสถานการณ์ตลาดก่อน ซึ่งภายหลังจากเข้าจดทะเบียนซื้อ-ขายในตลาดเรียบร้อยแล้ว บริษัทมีแผนที่จะขยายการลงทุนโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าหรือขาย โดยจับมือกับพันธมิตรธุรกิจ ซึ่งในเบื้องต้นสนใจทำเลในเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือทำเลใกล้นิคมอุตสาหกรรม ได้แก่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระยอง หาดใหญ่  เป็นต้น

Thailand Web Stat