posttoday

‘มรกต กุลธรรมโยธิน’ บิ๊ก INET ยึดหลักยอมรับสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา

15 มิถุนายน 2559

โดย...บงกชรัตน์ สร้อยทอง

โดย...บงกชรัตน์ สร้อยทอง

“มรกต กุลธรรมโยธิน” อายุ 49 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีครบวงจร ต้องถือว่าเธอเป็นสาวไอทีคนหนึ่งที่เป็นรุ่นบุกเบิกเทคโนโลยีการสื่อสารในประเทศไทยตั้งแต่อินเทอร์เน็ตเพิ่งจะเริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศไทย

จุดเริ่มต้นการเข้ามาสู่วงการนี้เพราะมองว่าเรื่องเทคโนโลยีเป็นเรื่องของอนาคตที่จะต้องมาแน่นอน แต่เมื่อมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ไม่มีคณะที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ ทำให้เธอต้องเลือกเรียนปริญญาตรี สาขาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ พอจบก็ได้รับทุนช้างเผือก จากสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ไปเรียนต่อทั้งปริญญาโทและปริญญาเอก ด้านคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัย Missouri Columbia ที่สหรัฐ

แต่เรียนแค่ปริญญาโทก็กลับมาเป็นนักวิจัยที่ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ก่อน ซึ่งในอดีตยังไม่ได้เป็นที่รู้จักเหมือนในปัจจุบัน เพื่อดูแลระบบเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ที่ตอนนั้นกำลังเริ่มวางรากฐานในเมืองไทย และหนึ่งในงานที่เธอรับผิดชอบคือการเป็นผู้จัดการโครงการเครือข่ายไทยสาร ในการเชื่อมโยงเครือข่ายการใช้อินเทอร์เน็ตเชื่อมกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ 

รวมถึงได้เข้ามาดูแลโครงการศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตแห่งประเทศไทยให้บริการเชิงพาณิชย์ เพื่อติดต่อให้กับภาคเอกชนต่อสายหรือสัญญาณการใช้อินเทอร์เน็ตได้ เพราะการที่จะให้หน่วยงานของรัฐไม่ว่าจะเป็นองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (TOT) หรือการสื่อสารแห่งประเทศไทย (CAT) ลงทุนการวางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ถ้าไม่สำเร็จก็จะมีความเสี่ยง จนทำให้เกิด INET อย่างเป็นทางการขึ้นมา

INET เริ่มเป็นที่รู้จักวางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและออกแพ็กเกจต่อชั่วโมงเน็ต ฉะนั้นสิ่งที่ท้าทายการทำงานตอนนั้นคือ การบริหารจัดการเนื่องจากเป็นการวางระบบใหม่ ซึ่งก็ได้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นที่ปรึกษา ส่วนความยากต่อมาคือ การให้บริการที่ต้องสร้างการรับรู้และให้ความรู้แก่ลูกค้า เพราะตอนนั้นอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย

จุดเปลี่ยนที่สำคัญของหน่วยงานอีกครั้งคือ ปี 2544 ที่เป็นหนึ่งในหน่วยงานรัฐที่ต้องจดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมกับบริษัท ปตท. แม้จะเข้ามาเป็นรองกรรมการผู้จัดการ แต่ตอนนั้นถือว่าเป็นคนทำงานตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แต่สิ่งที่ได้รับมาคือการได้เจอบุคลากรเก่งของประเทศ คนที่มีประสบการณ์ในแต่ละด้านจากการติดตาม ร่วมประชุมและรับฟังวิสัยทัศน์ของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร เพื่อจะทำให้ประเทศไทยได้พัฒนาและมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามาก

เธอบอกว่าหลักการทำงานตลอด 20 ปี คือ การเป็นคนเปิดรับสิ่งใหม่ตลอดเวลา ไม่ปฏิเสธที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ที่เข้ามาในชีวิตและใส่ใจกับสิ่งที่เข้ามาเสมอ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง แม้เริ่มต้นทำงานรู้จักแต่ภาษาคอมพิวเตอร์ แต่ต้องมานั่งดูเรื่องบัญชี การทำประชาสัมพันธ์การวางระบบแผนงาน หรือการร่างกฎหมายด้านคอมพิวเตอร์ต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำ สุดท้ายก็สามารถทำให้ได้

ขณะที่ INET เข้าตลาดหุ้นมาแล้ว 12 ปี แต่ไม่ค่อยได้เป็นข่าว แม้จะเป็นบริษัทแต่เราต้องทำหน้าที่ในการเป็นหน่วยที่อยู่ตรงกลางบทบาทกึ่งนักวิจัยกับผู้ให้บริการที่ต้องมีความเชื่อถือได้ แต่เมื่อเข้าสู่ยุคที่มีการแข่งขันให้บริการอินเทอร์เน็ตที่สูงขึ้น อีกทั้งบริษัทได้เริ่มหันมาเน้นในการให้บริการธุรกิจ Cloud Solutions มากขึ้น บริษัทก็ต้องมีการขยายการลงทุนให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่มีความต้องการเก็บรักษาข้อมูลให้มีระดับความปลอดภัยมากขึ้น ด้วยการใช้เครื่องมือทางการเงิน ด้วยการขอเพิ่มทุนเพื่อนำมาลงทุนสร้างศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลไอเน็ต 3 ที่จะทำให้บริษัทสามารถรองรับการบริการที่สอดคล้องกับสถานการณ์การใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป