ธอส.ทุ่ม2พันล.ปรับไอที
ธอส.ปรับระบบคอร์แบงก์กิ้ง ตั้งงบไว้ 2,000 ล้าน เตรียมเปิดประมูลปลายเดือน ก.ค.นี้
ธอส.ปรับระบบคอร์แบงก์กิ้ง ตั้งงบไว้ 2,000 ล้าน เตรียมเปิดประมูลปลายเดือน ก.ค.นี้
นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมเปิดให้มีการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อลงทุนระบบคอมพิวเตอร์หลักของธนาคาร (Core Banking System : CBS) ใหม่ วงเงิน 2,000 ล้านบาท ภายในเดือน ก.ค.นี้ โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ประมูลทั้งรายใหม่และรายเก่า คือ บริษัท อินโฟซิส เทคโนโลยี หากสนใจสามารถเข้ามาเสนอราคาได้ คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการราว 2 เดือน จะรู้ผลผู้ชนะการประมูล โดยในส่วนของงบลงทุนในครั้งนี้ได้มีการทยอยกันเงินรายได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
ทั้งนี้ ในระหว่างที่ระบบคอร์แบงก์ปัจจุบันจะหมดสัญญาในช่วงกลางปี 2560 ทางธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.ได้ ขอให้ธนาคารเตรียมแผนสำรองไว้กรณีที่ระบบมีปัญหา ซึ่งธนาคารเตรียมเสนอแผนสำรองให้ ธปท.พิจารณาเร็วๆ นี้ เนื่องจาก ธปท.เกรงว่าการเดินหน้าวางระบบใหม่อาจจะต้องใช้เวลานานมากกว่า 1 ปี หรืออาจจะถึง 2 ปี หากระบบมีปัญหา ทำให้ต้องมีการเตรียมแผนไว้รองรับได้ เช่น การเจรจากับผู้วางระบบปัจจุบันให้ช่วยเข้ามาดูแลเรื่องการซ่อมบำรุงระบบไปก่อน
อย่างไรก็ดี ในส่วนของการเตรียมความพร้อมในโครงการระบบชาระเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-เพย์เมนต์ ตามนโยบายของรัฐ โดยการโอนเงินผ่านไอดีที่เป็นเลขหมายโทรศัพท์ บัตรประชาชน หรือที่เรียกว่าพร้อมเพย์ ขณะนี้ยืนยันว่าธนาคารมีความพร้อมในการให้ลูกค้า ประชาชนสามารถเข้ามาลงทะเบียนไอดีที่ธนาคารได้แล้ว ส่วนเรื่องการเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มเป็นบัตรในระบบชิปการ์ดนั้น ในส่วนของ ธอส.ไม่คิดค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนบัตร รวมทั้งฟรีค่าธรรมเนียมรายปีอีกด้วย
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า คณะกรรมการธนาคารเห็นชอบแผนสำรองระหว่างการเปลี่ยนระบบคอร์แบงก์ใหม่ โดยจะเปลี่ยนเฉพาะในส่วนของฮาร์ดแวร์ของระบบคอมพิวเตอร์ก่อน เพื่อที่จะให้ระบบมีความเสถียรต่อไปได้อีก 2-3 ปี ช่วยให้ธนาคารมีโอกาสเลือกระบบคอร์แบงก์ใหม่ได้ดีขึ้น ซึ่งอาจเป็นบริษัทเดิมก็ได้หากสามารถพัฒนาปิดฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ดีขึ้น เช่น การพัฒนาระบบการชาระเงินค่างวดครั้งต่อไปในวันที่ลูกค้าเซ็นสัญญา เพื่อลดจำนวนคนที่ต้องมาจ่ายเงินพร้อมๆ กัน ตามสาขาธนาคารในช่วงสิ้นเดือน นอกจากนี้ ธนาคารเตรียมออกบัตรเงินสดให้ลูกค้าสามารถเติมเงินในบัตรไว้รอหักค่างวดในช่วงปลายเดือนได้
"เพื่อความมั่นคงของธนาคาร หากระบบคอร์แบงก์ใหม่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันเดือน ก.ย. 2560 ธนาคารได้เตรียมแผนสำรองคือการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ ที่ต้องใช้เวลาพัฒนาประมาณ 14 เดือน โดยใช้เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 400 ล้านบาท โดยฮาร์ดแวร์เหล่านี้หากไม่ใช้แล้วก็ยังสามารถนำไปใช้กับระบบอื่น ต่อไปได้ ไม่ใช่เป็นการลงทุนแล้วทิ้ง" นายฉัตรชัย กล่าว