ปักป้ายยึดที่ดินสปก.อุดรฯ

ส.ป.ก.อุดรธานี ปักป้ายยึด ส.ป.ก. 9 แปลง เกือบ 7,000 ไร่ พบนายทุนหัวใสขายที่ ส.ป.ก.ไร่ละ 6 หมื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค. นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายนภดล ตันติเมฆิน ปฏิรูปที่ดินจังหวัดอุดรธานี นายชัชวาลย์ ปทานนท์ นายอำเภอโนนสะอาด พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ลงพื้นที่ หมู่ 5 ต.ทมนางาม อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี เพื่อปักป้ายยึดคืนที่ดิน ส.ป.ก.แปลงที่ 3356 เนื้อที่ 905.42 ไร่ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 39/2559

นายบุญเลิศ หอมหวน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านหาดสถาพร ต.ทมนางาม อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวเดิมมีชาวบ้านครอบครองอยู่ ต่อมามีนายทุนจาก อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เข้ามากว้านซื้อเพื่อปลูกอ้อยคิดเป็นพื้นที่นับพันๆ ไร่ แต่เมื่อป่าแปรสภาพเป็นไร่อ้อยไปหมดแล้ว ชาวบ้านได้ซื้อที่ดินต่อจากนายทุนรายดังกล่าวเพื่อเป็นที่ดินทำกิน เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านมากนัก ในราคา 6 หมื่นบาท/ไร่ โดยใช้วิธีผ่อนชำระ ซึ่งปัจจุบันยังมีชาวบ้านที่ซื้อที่ดินจากนายทุนยังคงทำกินในพื้นที่ดังกล่าว 20-30 แปลง

นายทองอินทร์ หาญจรูญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)ทมนางาม กล่าวว่า ที่ดิน ส.ป.ก.แปลง 3356 ที่มีการติดประกาศยึดคืนนั้น เดิมถูกครอบครองโดยนายทุนทำไร่อ้อยรายหนึ่ง และเคยมีโรงงานหีบอ้อยอยู่ลึกเข้าไปในพื้นที่ โดยนายทุนลงทุนปักเสาพาดสายไฟเข้าไปในที่ดินแปลงนี้ด้วย

ด้าน นายนภดล กล่าวว่า ขณะนี้เป็นขั้นตอนติดประกาศเพื่อให้ผู้ครอบครองที่ดินมาแสดงตัว หากผู้ครอบครองมีคุณสมบัติถูกต้องก็ให้ทำกินต่อ แต่หากไม่มีเอกสารสิทธิใด ทาง ส.ป.ก.จังหวัดอุดรธานีจะนำมาจัดสรรให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนขอที่ดินทำกินในพื้นที่ จ.อุดรธานี ซึ่งมีประมาณ 6,000 ราย

นายชยาวุธ กล่าวว่า ทางจังหวัดและ ส.ป.ก.จังหวัดอุดรธานี จะปิดป้ายประกาศเพื่อให้ผู้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไปใน จ.อุดรธานี ให้เสร็จในวันที่ 25 ก.ค.นี้ เพื่อให้ผู้ครอบครองมาแสดงตัวพร้อมเอกสารสิทธิอื่นๆ ที่ดีกว่ามาแสดงใน 15 วันนับแต่ติดประกาศ จากนั้นจะตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบให้เสร็จภายใน 30 วัน โดยใน จ.อุดรธานี มีพื้นที่เป้าหมาย 9 แปลงใน 4 อำเภอ พื้นที่รวม 6,859 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นแปลงที่ทำเกษตร และไม่มีการนำที่ดินปลูกสร้างโรงแรมหรือรีสอร์ท จึงไม่น่าหนักใจนัก

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันที่ 26 ก.ค.นี้ จะเชิญกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 4-5 หน่วยงาน คือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คสช. และปฏิรูปที่ดินจังหวัดในพื้นที่ 25 จังหวัดเป้าหมาย เพื่อมาหารือแผนปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่และพัฒนาที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ที่ได้คืนจากคำสั่งมาตรา 44 ให้ชัดเจน

แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ขณะนี้ ส.ป.ก.จังหวัดเชียงใหม่ รายงานผลการตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.ที่ถูกนายทุนกว้านซื้อและถือครองตั้งแต่ 100 ไร่ขึ้นไป พบว่ามีสวนส้ม 2 แปลงที่เข้าข่ายจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ยึดที่ดิน ส.ป.ก.คืนได้ คือ 1.สวนส้มทรายทอง ของบริษัท เชียงใหม่มิตรเกษตร ต.บ้านหลวง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และในพื้นที่ ต.เวียง ต.แม่คะ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และ 2.สวนส้มธนาธร ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ซึ่ง ส.ป.ก.จังหวัดเชียงใหม่คาดว่าจะมีพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ถูกกว้านซื้อลักษณะนี้อีกมาก

อย่างไรก็ดีในวันเดียวกัน ตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) 100 คน นำโดย นายสุรพล สงฆ์รักษ์แกนนำ สกต. เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ฉัตรชัย ผ่านนายอำนวย ปะติเส ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ เพื่อขอความเป็นธรรมไม่ขับไล่คนจนออกจากที่ดิน ส.ป.ก. เพราะจะทำให้ชาวบ้านไม่มีที่ดินทำกิน และที่ผ่านมาชาวบ้านได้ย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่อาศัยทำกินในที่ดินดังกล่าวนับพันคน ซึ่งนายอำนวย ระบุว่า จะลงพื้นที่ไปติดตามข้อเท็จจริงในวันที่ 5 ส.ค.นี้

นายสุรพล กล่าวว่า สหพันธ์ฯ ได้มายื่นหนังสือเพราะขณะนี้มีข่าวว่าฝ่ายความมั่นคงเตรียมเข้ายึดคืนที่ดิน ส.ป.ก.ในเขตสวนปาล์มของบริษัท จิวกังจุ้ยพัฒนา ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี พื้นที่ 700 ไร่ เนื่องจากสมาชิกของกลุ่มกว่า 70 ครัวเรือนได้เข้าไปจับจองเป็นที่ดินทำกินตั้งแต่ปี 2551 หลัง ส.ป.ก.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ดำเนินคดีกับบริษัท จิวกังจุ้ยพัฒนา ฐานครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.

ขณะที่ นายระเมียน จันทร์ดำ อดีตนายก อบต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ต้องการให้ ส.ป.ก.จังหวัดอุตรดิตถ์ เข้ามาตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก. บริเวณ หมู่ 1 ต.นาอิน ซึ่งตรงข้ามกับหมวดทาง อ.พิชัย เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่มีข้อสงสัยว่าการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.เป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือไม่ เพราะมีญาตินักการเมืองและกลุ่มนายทุนเข้ามาถือครองที่ดิน ส.ป.ก.เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบว่าที่ดิน ส.ป.ก.ที่มีการจัดสรรไปแล้วเฉพาะพื้นที่รายนั้น มีการบุกรุกในพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มขึ้นด้วย โดยบุกรุกเข้าไปในเขตภูเขาริมถนนสาย 11 หรือสายอุตรดิตถ์-พิษณุโลกในหลายจุด

“เมื่อ 4-5 เดือนก่อน ทหารลงตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่สาธารณะและเขตป่าที่อยู่ใกล้กับที่ดิน ส.ป.ก. แต่แล้วเรื่องก็เงียบหายไป” นายระเมียน กล่าว