2บูติกโฮเต็ลชูงานศิลปะ สร้างแรงดึงดูดคนเข้าพัก
ทั้งสองรีสอร์ทนี้นำเสนอการตกแต่งที่มีจุดเด่นเรื่องงานศิลปะเป็นหลัก ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างบูติก โฮเต็ล ที่พยายามหาเอกลักษณ์ของตัวเอง
โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
การออกแบบตกแต่งโรงแรมเป็นหนึ่งในปัจจัยที่นักท่องเที่ยวเลือกว่าจะพักโรงแรมไหน บางคนให้น้ำหนักหน้าตาของโรงแรมมาก แม้ราคาห้องพักแพงก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะพร้อมจ่ายเสมอหากได้พักโรงแรมที่หน้าตาเก๋ เท่ ไม่ซ้ำใคร ส่วนหนึ่งเนื่องจากยุคนี้มีสังคมออนไลน์ คนมักชอบแชร์เรื่องราวของตัวเองให้โลกรู้ ยิ่งการออกแบบไม่เหมือนใครมากเท่าไหร่ กลุ่มนี้ยิ่งชอบ เพราะหวังว่าเมื่อถ่ายรูปออกมาจะเรียกยอดกดไลค์ได้ดี
ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวยุคใหม่ ส่วนหนึ่งก็ไม่ได้เน้นว่าจะต้องพักโรงแรมที่ใช้ชื่อเครือโรงแรม (เชน) ระดับโลก ที่มีห้องพักมากๆ ตกแต่งหรูหรา แต่ต้องการความแตกต่างพักโรงแรมขนาดเล็กมีเอกลักษณ์เฉพาะ (บูติก โฮเต็ล) ด้วยเหตุนี้นักลงทุนหน้าใหม่ที่เข้าสู่ธุรกิจโรงแรมจำนวนหนึ่งจึงเลือกทำบูติก โฮเต็ล เน้นการตกแต่งที่โดดเด่น ทำให้การมาพักโรงแรมดูผ่อนคลายมากขึ้น แทนที่จะทำโรงแรมขนาดใหญ่ จำนวนห้องพักมากๆ ตัวอย่างคือ หน้าผา เขาใหญ่ รีสอร์ท และลา ภูริเณ่ เขาใหญ่ เป็นต้น
กวิศ โกอุดมวิทย์ กรรมการผู้จัดการ หน้าผา เขาใหญ่ รีสอร์ท เปิดเผยว่า หน้าผา เขาใหญ่ รีสอร์ท เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อ ธ.ค. 2558 มีห้องพัก 8 ห้องเท่านั้น จุดเริ่มต้นคือคุณพ่อ (ถาวร โกอุดมวิทย์) ซึ่งเป็นศิลปินและเป็นเจ้าของอาร์เดล แกลอรี่ ออฟ โมเดิร์น อาร์ท ไปรับบริหารแกลเลอรี่แห่งหนึ่งในเขาใหญ่ และไปเจอที่ดินที่เป็นเหมืองหินอ่อนเก่าที่ถูกทิ้งร้างไว้ จึงซื้อที่ผืนนี้มารวมกว่า 3 ไร่ ช่วงแรกยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำรีสอร์ทจนกระทั่งปี 2557 จึงเริ่มสร้างรีสอร์ท เนื่องจากคุณพ่อและกวิศ ต้องการสร้างผลงานชิ้นโบแดงร่วมกันก่อนที่คุณพ่อจะเกษียณ กวิศเป็นสถาปนิก จึงเป็นคนออกแบบตกแต่งที่นี่เอง
สำหรับการออกแบบนั้นจะพยายามเก็บสภาพผนัง กำแพงหินอ่อนของเหมืองเก่าเอาไว้ให้ได้มากที่สุด จากนั้นจึงวางแนวคิดใช้ที่นี่เป็นแหล่งรวมผลงานศิลปะไปด้วย ทำให้ออกแบบห้องพักในรีสอร์ทเน้นความเรียบง่ายเพื่อให้ตอบโจทย์การแสดงงานศิลปะ ส่วนการจัดวางผังห้องพักเน้นให้เห็นวิวของเหมืองและมีธรรมชาติภายนอกแทรกเข้ามาได้ มีกระจกมากเพื่อให้รู้สึกไม่อึดอัด โดยเชื่อว่าการเก็บธรรมชาติเหมืองเก่าและการนำเสนองานแสดงศิลปะจะเป็นจุดขายสำคัญที่ดึงดูดคนมาพักที่รีสอร์ทได้ เพราะบริเวณเดียวกันไม่มีรีสอร์ทอื่นตั้งอยู่ในเหมืองเก่า ส่วนชื่อ หน้าผา มาจากต้องการให้ชื่อรีสอร์ทจำง่าย ซึ่งหน้าผาเป็นลักษณะทางกายภาพของเหมืองหินอ่อนเก่าที่มีหลุมลึกหลายด้าน มองแล้วเหมือนอยู่บนหน้าผา
กวิศ กล่าวว่า ภาพรวมหลังเปิดให้บริการไม่นาน เดิมมองว่านักท่องเที่ยวที่มาพักจะเป็นคนไทย 90% แต่ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวจากประเทศในกลุ่มอาเซียน เช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย จองเข้ามาพักมากขึ้นจนสัดส่วนคนไทยไม่ได้มากอย่างที่คาดการณ์ ส่วนกลุ่มเป้าหมายที่มองไว้คือ คู่รักไปจนถึงครอบครัวที่มีลูกเล็ก เน้นการบริการให้ผู้เข้าพักรู้สึกเหมือนมาพักบ้านเพื่อนซึ่งเป็นความรู้สึกที่ผ่อนคลายกว่าการไปพักโรงแรมหรู 5 ดาว แต่ก็ยังคงให้ความสำคัญเรื่องการบริการ
ด้านแผนที่วางไว้หลังจากนี้คือ การขยายห้องพักเพิ่ม ตั้งเป้าหมายจะมีไม่เกิน 15 ห้อง จากปัจจุบันเปิดแล้ว 8 ห้อง โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ปีนี้ สาเหตุที่ต้องการลงทุนห้องพักไม่มาก เพราะมองว่าหากทำห้องพักมากกว่า 15 ห้องอาจจะบริหารจัดการห้องพักได้ไม่ดีพอ และต้องลงทุนเพิ่มบุคลากรอีก ขณะที่จำนวนห้องพักต่ำกว่า 15 ห้องจะบริหารจัดการได้ง่าย และไม่จำเป็นต้องเพิ่มบุคลากรที่มาดูแลด้วย
สำหรับการทำตลาดหน้าผา ได้จับมือกับบัตรเครดิตกรุงไทย (เคทีซี) มอบส่วนลดสมาชิกผู้ถือบัตรเคทีซี 40% กรณีมาพักวันธรรมดา และลด 20% กรณีพักศุกร์-เสาร์ ถึง 31 ต.ค.นี้ ขณะเดียวกันก็เตรียมสร้างกิจกรรมขึ้นมาช่วงปลายปีซึ่งเป็นฤดูกาลที่คนมาเที่ยวเขาใหญ่มาก โดยมองไว้ว่าจะมีกิจกรรมด้านดนตรีในลานกว้างที่เตรียมไว้ รวมถึงอาจนำฟู้ดทรักมาให้บริการอาหารเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่และสร้างความแตกต่างไปจากโรงแรมอื่นในย่านเดียวกันที่มีห้องอาหารหรูหรา และมองหาแนวทางสร้างอีเวนต์ที่เกี่ยวกับการทำงานศิลปะ ซึ่งที่ผ่านมาได้ทดลองจัดกิจกรรมปั้นเซรามิกไปแล้ว
สุภาดา วัฒนสุข เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและการตลาด ลา ภูริเณ่ เขาใหญ่ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของรีสอร์ทนี้คือต้องการสร้างบ้านพักผ่อนเองช่วงวันหยุด แต่ทำไปได้ระยะหนึ่งมีเพื่อนๆ มาพักแล้วพึงพอใจ ทำให้เกิดแนวคิดทำเป็นรีสอร์ท โดยการตกแต่งโรงแรมเป็นแนวยูโรเปี้ยน คันทรี ไซด์ รีสอร์ท ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในยุโรป เมื่อเจาะไปที่แต่ละห้องพักจะออกแบบด้วยรายละเอียดต่างกัน การเดินทางมารีสอร์ทแห่งนี้ก็จะมีจุดต่างจากที่อื่นคือ ไม่มีป้ายบอกทางมารีสอร์ท แต่ค้นหาเส้นทางมาได้ผ่านจีพีเอส ให้อารมณ์เหมือนคนหลงทางมาเจอที่พัก
“การตกแต่งภายในจะเปลี่ยนแปลงตลอด เพราะคุณพ่อเป็นคนสร้างสรรค์งานศิลปะหลายชิ้นขึ้นเอง หากไปใช้บริการรีสอร์ทวันนี้แล้วกลับไปอีกจะรู้สึกว่ามีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา” สุภาดา กล่าว
ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาลูกค้าที่ใช้บริการหลักๆ เป็นกลุ่มครอบครัว และไม่ใช่มีเฉพาะคนไทย แต่พบว่านักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านเดินทางมาใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เช่น ลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ และจากการที่ลา ภูริเณ่ มีการออกแบบคล้ายเมืองในยุโรป อีกทั้งในรีสอร์ทมีงานศิลปะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ก็ทำให้สามารถเจาะกลุ่มเกี่ยวกับงานศิลปะได้ด้วย เช่น กลุ่มคนวัยเกษียณที่รวมตัวกันมาทำกิจกรรมวาดเขียนงานศิลปะ ส่วนตลาดที่จะให้ความสำคัญเพิ่มเติมคือกลุ่มคู่รักที่จะมาถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง แต่วางแผนไว้ว่าจะรับปีละ 5 คู่เท่านั้นเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเป็นคนพิเศษที่ได้มาถ่ายภาพ
สุภาดา กล่าวว่า การทำโรงแรมเล็กๆ มีข้อดี คือลูกค้ารู้สึกอุ่นใจเหมือนมานอนพักที่พักประเภทที่ให้เตียงนอนพร้อมอาหารเช้า (เบด แอนด์ เบรกฟาสต์) แต่ให้บริการเทียบเท่าระดับ 5 ดาว
จะเห็นได้ว่าทั้งสองรีสอร์ทนี้นำเสนอการตกแต่งที่มีจุดเด่นเรื่องงานศิลปะเป็นหลัก ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างบูติก โฮเต็ล ที่พยายามหาเอกลักษณ์ของตัวเองที่ไม่ซ้ำใคร