เอ็นพีเอแบงก์ปูด

กรุงไทยเผยขายยาก คนซื้อกู้ไม่ผ่าน

โพสต์ทูเดย์ - กรุงไทยเร่งขายเอ็นพีเอยกล็อต หลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามยอดเอ็นพีแอล

นายชัยชาญ พลานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่มบริหารทรัพย์สินพร้อมขาย ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ) ในปีนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายใหญ่และเอสเอ็มอี มีทั้งบ้านเดี่ยวคอนโด ทาวน์เฮาส์ โรงแรม โรงงาน

ทั้งนี้ สิ้นเดือน มิ.ย.ยอดคงค้างเอ็นพีเออยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท โดยในกรณีเลวร้ายจากเอ็นพีแอลพุ่ง จะทำให้เอ็นพีเอสิ้นปีนี้ทะลุเกิน 3.5 หมื่นล้านบาท แต่ถ้าสามารถบริหารจัดการและปรับโครงสร้างหนี้ได้ เอ็นพีเอสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 3 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ดี เอ็นพีแอลขาขึ้นส่งผลให้เอ็นพีเอไหลเข้ามากกว่ายอดขายออก เพราะถูกกดดันจากเศรษฐกิจชะลอตัวและกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง ทำให้การปล่อยสินเชื่อลำบาก โดยยอดปฏิเสธสินเชื่อเพื่อซื้อเอ็นพีเออยู่ที่ระดับ 50% สูงกว่าปกติ เป็นอุปสรรคในการขายเอ็นพีเอของธนาคาร

สำหรับกลยุทธ์การขายเอ็นพีเอในครึ่งปีหลัง จะใช้วิธีคัดทรัพย์ที่น่าสนใจในต่างจังหวัด เช่น จ.เชียงใหม่ ภูเก็ต เพื่อขายยกล็อตให้นักลงทุน นอกจากนี้จะขายให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ด้วย ซึ่งธนาคารตั้งเป้าขายเอ็นพีเอในปีนี้ 6,400 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกขายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย

ด้าน นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า แนวโน้มเอ็นพีแอลสินเชื่อบ้านเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากลูกค้าธุรกิจทุกกลุ่ม แต่ยังบริหารจัดการได้ ทำให้เอ็นพีแอลไม่ถึง 2% โดยธนาคารพยายามดูแลลูกค้าจนถึงที่สุด ถ้าไม่ไหวจริงๆ จึงจะเข้ากระบวนการยึดทรัพย์มาเอ็นพีเอ

สำหรับการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อเอ็นพีเอ ยึดหลักเกณฑ์อนุมัติเหมือนสินเชื่อบ้าน แต่จะมีแพ็กเกจดอกเบี้ยพิเศษให้แก่ผู้ซื้อ โดยการบริหารเอ็นพีเอเน้นการขายเอง ไม่ค่อยตัดขายให้บริษัทบริหารสินทรัพย์

นอกจากนี้ ภาพรวมสินเชื่อบ้านครึ่งปีแรกเติบโต 4% โดยสินเชื่อปล่อยใหม่เติบโตถึง 15% ผลจากมาตรการลดค่าโอนและจดจำนองของรัฐบาล ส่งผลให้หลังจบมาตรการยอดขอสินเชื่อลดลง 30-40% แต่แนวโน้มความต้องการยังมี จึงคาดว่าทั้งปีสินเชื่อบ้านจะเติบโตประมาณ 8% หรือยอดคงค้างสิ้นปีอยู่ที่ 2.4 แสนล้านบาท