'เบลลี่บู' ผ้าพิมพ์ลาย ดีไซน์นำตลาด

16 สิงหาคม 2559

อีกหนึ่งร้านค้าผ้าผืนเก่าแก่ที่อยู่คู่ตลาดสำเพ็งมายาวนานร่วม 30 ปี ที่ปัจจุบันถูกส่งต่อกิจการมายังรุ่นสอง พร้อมสร้างแบรนด์ใหม่ “เบลลี่บู” (Belleboo) ที่ตั้งอยู่ในห้องคูหาเลขที่ 258 ถนนวานิช 1

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

อีกหนึ่งร้านค้าผ้าผืนเก่าแก่ที่อยู่คู่ตลาดสำเพ็งมายาวนานร่วม 30 ปี ที่ปัจจุบันถูกส่งต่อกิจการมายังรุ่นสอง พร้อมสร้างแบรนด์ใหม่ “เบลลี่บู” (Belleboo) ที่ตั้งอยู่ในห้องคูหาเลขที่ 258 ถนนวานิช 1 

ภัทรารวีย์ เลิศสิริประภา ผู้อำนวยการตราผลิตภัณฑ์ (แบรนด์ไดเร็กเตอร์) เบลลี่บู เล่าถึงกิจการที่ขยายออกมาจากธุรกิจร้านผ้าของครอบครัวคือ ร้าน S.M. ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำผ้าพิมพ์ลายอันดับ 1 ผลิตผ้าพิมพ์หลากหลายลวดลาย ทั้งลายดอก การ์ตูน ไปจนถึงผ้าแพตเทิร์นแบบต่างๆ เพื่อทำตลาดส่งออกไปทั่วโลก ทั้งอังกฤษ อเมริกา ดูไบ ญี่ปุ่น ฯลฯ

สำหรับ ภัทรารวีย์ ได้เข้ามาช่วยบริหารงานตั้งแต่ 8-9 ปีก่อน ด้วยมองเห็นโอกาสทางธุรกิจผ้าผืนพิมพ์ลายในอนาคตที่จะสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน ควรจะมีแบรนด์สินค้าเพื่อสร้างความเชื่อถือให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะการทำตลาดในต่างประเทศที่ต้องการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ นอกเหนือจากตลาดเดิมที่มีอยู่ก่อนหน้า และเป็นที่มาของไอเดียการสร้างแบรนด์ Belleboo ขึ้น โดยผ้าผืนพิมพ์ลายทุกชิ้นของทางร้านที่ถูกออกแบบมานั้นจะติดสัญลักษณ์ ดีไซน์ บาย เบลลี่บู ที่ช่วยสร้างความแตกต่างและจุดเด่นสินค้าไปจากร้านค้าผ้าผืนในตลาดเดียวกันอีกด้วย

พร้อมเสริมต่อในส่วนของการดูแลลูกค้า โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ ซึ่งเธอเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ทั้งด้านการพัฒนาลายผ้าผืนพิมพ์ลาย ด้วยลูกค้าแต่ละประเทศจะมีสไตล์และรูปแบบความต้องการที่แตกต่างกันตามรสนิยมการแต่งกายของแต่ละประเทศ ซึ่งจุดนี้ได้ต่อยอดมาจากคำแนะนำการทำตลาดในรุ่นคุณพ่อมานานกว่า 10 ปี ด้วยที่ช่วยไกด์เป็นแนวทางในการทำตลาดส่งออก

นอกจากนี้ เบลลี่บูยังมองเห็นศักยภาพการเข้าไปทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้านของไทย ทั้งเมียนมา มาเลเซีย อินโดนีเซีย เป็นต้น จากโอกาสการเข้าสู่ตลาดเสรีอาเซียนที่ก่อนหน้านี้ได้พี่ชายเข้ามาช่วยดูแลในตลาดดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดผ้าพิมพ์ลายในปัจจุบันและก่อนหน้านี้ ถือว่ามีการแข่งขันพอสมควรในตลาด ด้วยในฐานะที่เอสเอ็มเป็นผู้นำตลาดก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้ว่าจะมีคนตามหลังหรือลอกเลียนแบบสินค้าบ่อยครั้ง ซึ่งในส่วนของธุรกิจเองไม่ได้กังวลมากนัก ด้วยจะใช้ไอเดียใหม่ๆ เข้ามาเติมเต็มสินค้าและธุรกิจตลอดเวลา ที่เป็นจุดเด่นของกิจการที่ดำเนินมาถึงปัจจุบัน

“ในส่วนของการดีไซน์นั้น จะมีการพูดคุยกับลูกค้าถึงสภาพตลาด เป็นอย่างไร ซึ่งเราจะต้องมีการคิดก่อเสมอเพื่อวางแผนการทำตลาดล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 3 เดือน” ภัทรารวีย์ เสริม

ปัจจุบันธุรกิจผ้าผืนพิมพ์ลาย “เบลลี่บู” ทำตลาดทั้งค้าส่งและค้าปลีก จับกลุ่มลูกค้าทั้งธุรกิจต่อธุรกิจ (บีทูบี) ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าจากตลาดประตูน้ำ หรืออื่นๆ มารับไปเพื่อทำตลาดค้าปลีกต่อ มีสัดส่วน 70% และธุรกิจต่อลูกค้าทั่วไป (บีทูซี) หรือเอนด์ ยูสเซอร์ ที่เดินเข้ามาหน้าร้านหาซื้อสินค้าผ้าผืนเพื่อนำไปใช้งานตัดเย็บส่วนตัว เป็นต้น สัดส่วนราว 30% 

นอกจากนี้ เบลลี่บูยังมุ่งทำตลาดค้าออนไลน์มากขึ้นในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ อาทิ ไลน์ @belleloo อินสตาแกรม (ไอจี) @belleboofabric เฟซบุ๊ก belleboofabric และเว็บไซต์ www.belleboofabric.com เพื่อรองรับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่หันมาเลือกซื้อสินค้าในช่องทางนี้มากขึ้น มากกว่าการออกหาซื้อผ้าในตลาดสำเพ็ง ซึ่งทางร้านยังเพิ่มบริการให้คำปรึกษากับลูกค้าในการเลือกตัวผ้าหรือลวดลายผ้าเพื่อนำไปใช้งานตัดเย็บประเภทต่างๆ ด้วย 

ภัทรารวีย์ กล่าวถึงภาพรวมตลาดผ้าผืนในปัจจุบัน ที่ต้องยอมรับว่าอิงกระแสเศรษฐกิจและกำลังซื้อในปัจจุบันที่ชะลอตัวในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งธุรกิจเบลลี่บูจะต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังเพื่อประคับประคองธุรกิจให้สอดคล้องกับกำลังการผลิตสินค้าผ้าผืน และการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง (สต๊อก) ให้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในสถานการณ์ตลาดเช่นนี้

ด้วยคาดว่าช่วงปลายปีนี้ภาพรวมตลาดและเศรษฐกิจจะกลับมาดีขึ้น

Thailand Web Stat