GLAZZIQ เลือกแว่นออนไลน์ไปลองที่บ้าน

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

GLAZZIQ ธุรกิจของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ดึงประสบการณ์และความถนัดเฉพาะด้านมาผสมผสานการทำงาน ภายใต้แพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ เพื่อให้บริการสินค้าออนไลน์แว่นตาในรูปแบบธุรกิจใหม่ ที่พร้อมให้บริการทดลองใช้งานแบบถึงบ้าน “Home Try-On” เป็นรายแรกในเมืองไทย 

ปริณดา ประจักษ์ธรรม หนึ่งในทีมผู้ก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพ GLAZZIQ (กลาซซิค) ประกอบด้วยผู้ร่วมก่อตั้งอีก 3 ราย คือ พิริยะ ตันตราธิวุฒิ หัวหน้าทีมครีเอทีฟและการตลาด กีรติพงศ์ อุกะโชค หัวหน้าทีมเทคโนโลยีการพัฒนาและออกแบบซอฟต์แวร์ และ แดน อิสสระยั่งยืน หัวหน้าทีมผลิตภัณฑ์ทางเทคนิค ที่ร่วมพัฒนาธุรกิจแพลตฟอร์มดังกล่าวขึ้นเพื่อรุกทำตลาดบริการออนไลน์อย่างเต็มตัวตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

ปริณดา กล่าวถึงที่มาธุรกิจโดยอาศัยสิ่งที่ถนัดและคุ้นเคยมาโดยตลอด คือ แว่นตา จากนั้นจึงได้ชักชวนกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งข้างต้นมาเข้าร่วมลงทุนธุรกิจกลาซซิค ด้วยแนวคิดต้องการขายแฟชั่นและไลฟ์สไตล์เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเชื่อว่าแว่นตาแฟชั่นนำเทรนด์สามารถขายได้ทั่วโลกด้วยโมเดลธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ

จากการตั้งโจทย์ธุรกิจดังกล่าว พร้อมกับคลุกคลีอยู่ในวงการธุรกิจแว่นตาของครอบครัว (หอแว่น) มาก่อน ทำให้มองเห็นข้อด้อยการขายสินค้าในรูปแบบเดิม จากมุมมองใหม่ว่า แว่นตาเป็นสินค้าแฟชั่นที่ทำให้เกิดการบริโภคซ้ำได้เรื่อยๆ จึงทำให้ กลาซซิค เป็นธุรกิจบริการแว่นตาที่ไม่ถูกจำกัดให้เป็นสินค้าของผู้ที่มีปัญหาทางสายตาเท่านั้น แต่เป็นสินค้าที่สร้างบุคลิกภาพให้ผู้สวมใส่ได้เช่นเดียวกับเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย

“การออกแบบสินค้าของกลาซซิค ต้องนำเทรนด์อยู่เสมอ โดยทำตลาดกรอบแว่นนำเข้าคุณภาพดีพร้อมเลนส์คุณภาพสูงมีความแข็งแรง มีความบางและ น้ำหนักเบาที่สุดในราคากรอบแว่นพร้อมเลนส์ย่อบาง เริ่มต้นราคา 1,990 บาท ในขณะที่ร้านแว่นตาทั่วไปจำหน่ายเลนส์ดัชนีหักเหสูงคุณภาพดีในราคากว่า 2,000 บาท ไม่รวมค่ากรอบแว่น ซึ่งการที่กลาซซิค ทำแบบนี้ได้เพราะมีเครือข่ายพันธมิตรอย่างโรงงานแว่นตา และโรงงานผลิตเลนส์คุณภาพชั้นดี อย่าง TOG” ปริณดา เสริม

นอกจากนี้ กลาซซิค ยังอาศัยช่องทางธุรกิจเดิมอย่างสาขาร้านหอแว่นที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่อให้บริการวัดค่าสายตาให้ลูกค้ากลาซซิคที่ต้องการเลนส์สายตาได้โดยตรงด้วย จากการพัฒนาระบบหลังบ้านด้านไอทีเข้ามาปรับใช้ในรูปแบบอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งหลังจากสินค้าเปิดตัวด้วยการตลาดออนไลน์ช่วงต้นปีที่ผ่านมา พบว่าธุรกิจเติบโตในอัตรารวดเร็วมาก มีรายได้ต่อเดือนเทียบเท่ากับร้านที่เปิดใหม่ 2-3 ร้านรวมกันทีเดียว 

ทั้งนี้ จากการสังเกตพบว่าลูกค้าหรือผู้บริโภคทั่วไป เมื่อเดินเข้าไปร้านแว่นแล้วมักจะไม่กล้าลอง ทั้งที่ความจริงกลุ่มสินค้ากรอบแว่นตามีหลายเอสเคยู หลายแบบให้เลือกใช้ได้เรื่อยๆ ตามโอกาส ซึ่งกลาซซิคเห็นว่าควรปรับระบบบริการใหม่ จากการนำเทคโนโลยีมาใช้ร่วมกับการทำธุรกิจ หากลูกค้าเลือกกรอบแว่นเรียบร้อยแล้ว ต้องการเลนส์สายตาก็สามารถมาวัดขนาดเลนส์ได้ที่ร้านหอแว่นทุกสาขา

จากนั้นระบบก็จะเชื่อมต่อกันไปถึงโรงงานเพื่อผลิตแว่นตาพร้อมเลนส์และกรอบได้ตรงตามแบบที่เลือก จากนั้นจึงจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าทดลองใช้ไปยังปลายทางที่บ้าน หรือสามารถไปรับสินค้าได้ที่ร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นอีเลฟเว่นได้ทุกสาขาเช่นกัน

ปริณดา เสริมว่าจากแนวคิดธุรกิจบริการภายใต้แพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซลักษณะดังกล่าว ยังสามารถต่อยอดหรือนำไปใช้กับธุรกิจสินค้าบริการอื่นๆ ได้อีกในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า รองเท้า หรือแอกเซสซอรี่อื่นๆ ซึ่งทางทีมผู้ก่อตั้งธุรกิจกลาซซิค มีแนวคิดร่วมกันที่จะนำโมเดลธุรกิจนี้ขยายการทำตลาดรูปแบบอื่นๆ ได้ทั้งในระดับภูมิภาคเอเชียและในระดับโลกภายใต้แพลตฟอร์มธุรกิจดังกล่าว ที่จะเข้ามาพลิกโฉมการทำธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม ไปสู่รูปแบบที่เรียกว่า ออมนิ-ชาแนล การผสมผสานการทำตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน 

ทั้งนี้ กลาซซิคยังมีโชว์รูมสินค้าแบบออนกราวด์สาขาแรกอยู่ภายในร้าน Printa Cafe ย่านสีลมด้วย เพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกับลูกค้าโดยตรงที่ต้องการทดลองหรือสวมใส่ก่อนเลือกซื้อแว่นตาได้โดยตรงเช่นกัน หรือหากเป็นแว่นสายตาก็จะใช้หลักการธุรกิจบริการเดียวกันกับที่กล่าวไว้ข้างต้น โดยอนาคตกลาซซิคยังวางแผนขยายสาขาธุรกิจโชว์รูมดังกล่าวอีก 2 จุดในรูปแบบพันธมิตรธุรกิจที่สนใจบริการสินค้าที่มีคอนเซ็ปต์ธุรกิจร่วมกัน

นอกจากนี้ ยังวางแผนขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ มาเลเซีย เป็นต้น คาดชัดเจนราวกลางปีหน้า ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจากับพาร์ตเนอร์ธุรกิจที่สนใจธุรกิจโมเดลดังกล่าว