เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ‘ควีน’ มันหอมอร่อยของดีเมืองอุตรดิตถ์

โดย...บุญนำ เกิดแก้ว

เมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์ มีพื้นที่เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจชื่อดังมากมาย โดย 1 ในนั้น คือ การปลูกมะม่วงหิมพานต์ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกมากกว่า 4 หมื่นไร่ ในพื้นที่ อ.ท่าปลา แต่ละปีสามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดได้มากกว่า 3,000 ล้านบาท

การเพาะปลูกสวนมะม่วงหิมพานต์เริ่มปลูกครั้งแรกเมื่อปี 2520 โดยการนำของนิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน อ.ท่าปลา ขณะนั้น เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่จัดสรรที่ดินให้กับชาว อ.ท่าปลา ที่ยอมเสียสละและอพยพออกจากพื้นที่เดิมให้รัฐบาลเพื่อดำเนินการสร้างเขื่อนสิริกิติ์กักเก็บน้ำเพื่อเป็นประโยชน์ของชาวไทยทั้งประเทศ

ทั้งนี้ เมื่อรัฐบาลจัดสรรที่ดินให้กับชาวบ้าน อ.ท่าปลา แล้ว ก็ได้นำมะม่วงหิมพานต์มาให้ชาวบ้านได้ปลูก ขณะที่ชาว อ.ท่าปลา เองก็ปลูกไปโดยไม่รู้เลยว่าวิธีการที่จะนำเมล็ดมะม่วงหิมพานต์มารับประทานหรือต้องทำอะไรกับพืชเศรษฐกิจชนิดนี้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนั้นชาว อ.ท่าปลา ทดลองปลูกต้นมะม่วง หิมพานต์แบบลองผิดลองถูก ในที่สุดก็มีสองตายายคู่หนึ่งได้ค้นพบวิธีการนำเมล็ดมะม่วงหิมพานต์มารับประทาน จากนั้นก็นำเผยแพร่ให้กับประชาชนที่ปลูกมะม่วงหิมพานต์ได้รู้ถึงการนำเมล็ดมารับประทานและแปรรูปขายเชิงการตลาดในที่สุด

พิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผวจ.อุตรดิตถ์ บอกว่า สาเหตุที่มีการปลูกมะม่วง หิมพานต์มากในพื้นที่ อ.ท่าปลา เนื่องจากเป็นพื้นที่รอบเขื่อนสิริกิติ์ทำให้มีแร่ธาตุที่สมบูรณ์มาก สภาพอากาศที่ดี จึงเหมาะกับการปลูกมะม่วงหิมพานต์ จนรับรองได้เลยว่ารสชาติของมะม่วงหิมพานต์มีรสชาติที่อร่อยกว่ามะม่วงหิมพานต์ที่ปลูกในพื้นที่อื่น สำหรับมะม่วงหิมพานต์ที่ปลูกในพื้นที่ อ.ท่าปลา มีรสชาติหวาน มัน หอม อร่อย ที่สำคัญมีเนื้อแน่น ซึ่งตรงนี้ได้รับการยืนยันจากหลายสถาบันการศึกษาหลายแห่งเพราะมีการวิจัยเรียบร้อยแล้ว

“การจำหน่ายมะม่วงหิมพานต์ของชาว อ.ท่าปลา ต่างคนต่างจำหน่ายกันเอง จึงมีการรวมกลุ่มเพื่อสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง คือ ควีน สาเหตุที่นำชื่อควีนมาเป็นแบรนด์ของเมล็ดมะม่วงนั้น เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกมะม่วงหิมพานต์อยู่ใน อ.ท่าปลา และ อ.ท่าปลา ก็เป็นที่ตั้งของเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งเป็นชื่อของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่สำคัญการกำหนดแบรนด์ว่าควีนก็ยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่านด้วย นอกจากนี้ยังทำให้แตกต่างจากยี่ห้ออื่นๆ ที่มีจำหน่ายทั่วไป เมื่อได้ยินชื่อควีนมีที่เดียวคือที่ อ.ท่าปลา เท่านั้น” ผวจ.อุตรดิตถ์ กล่าว

สำหรับแผนทำตลาดนั้นทางกลุ่มผู้สร้างแบรนด์ได้วางกลยุทธ์รุกเจาะตลาดเชิงรุกโดยออกร้านร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มคนไทยอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น โดยวันที่ 16-20 ธ.ค.นี้จะออกร้านเเสดงสินค้าโอท็อปของ จ.อุตรดิตถ์ ณ สนามพระยาพิชัยดาบหัก ด้วยการพบผลิตภัณฑ์จากเมล็ดมะม่วงหิมพานต์เเละผลิตภัณฑ์เเปรรูปจากเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ในราคาย่อมเยา ส่วนการรุกตลาดต่างประเทศก็เตรียมเข้าไปเจาะตลาดสหรัฐ ยุโรป และตลาดเอเชีย ผ่านตัวแทนจำหน่ายเป็นหลัก มั่นใจว่ากระแสตลาดตอบรับอย่างแน่นอน เนื่องจากเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ปลูกในพื้นที่ อ.ท่าปลา นั้นมีรสชาติหวาน มัน หอม อร่อย และเนื้อแน่นกว่าพื้นที่อื่นๆ