posttoday

CKSTจ่อคว้างาน รถไฟฟ้าสายสีส้ม

16 ธันวาคม 2559

กลุ่ม CKST เตรียมชนะประมูลงานก่อสร้างศูนย์ซ่อมและอาคารจอดรถไฟฟ้าสายสีส้ม มูลค่า 4,901 ล้านบาท

กลุ่ม CKST เตรียมชนะประมูลงานก่อสร้างศูนย์ซ่อมและอาคารจอดรถไฟฟ้าสายสีส้ม มูลค่า 4,901 ล้านบาท

นายภคพงค์ ศิริกันทรมาศ รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และประธานกรรมการพิจารณาข้อเสนอการประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี เปิดเผยว่า โครงการประกวดราคางานก่อสร้างอาคารศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดรถ ซึ่งมีราคากลางอยู่ที่ 4,915 ล้านบาท พบว่ามีผู้เสนอราคา 3 ราย โดยกลุ่ม CKST JOINT VENTURE ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง หรือ CK และบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น หรือ STEC เสนอราคาต่ำสุดที่ 4,901 ล้านบาท รองลงมา บริษัท อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์ เสนอราคา 4,910 ล้านบาท และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น  เสนอราคา 5,214 ล้านบาท

“หลังจากนี้คณะกรรมการฯ จะต้องเจรจาต่อรองกับรายที่เสนอราคาต่ำสุด เพื่อให้ได้ราคาดีที่สุดอีกครั้ง คาดว่าภายในเดือน ม.ค. 2560 จะเจรจาได้ข้อยุติด้านราคา และจะสามารถเสนอคณะกรรมการ รฟม.เห็นชอบผลการประกวดราคาต่อไป” นายภคพงค์ กล่าว 

นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตำหนิเรื่องการเชื่อมต่อ 1 สถานี ระหว่างรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที สถานีบางซื่อกับสถานีเตาปูนของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางใหญ่ ที่ยังไม่ได้ข้อยุตินั้น รฟม.ได้ส่งรายละเอียดให้บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ บีอีเอ็ม เป็นผู้ติดตั้งระบบการเดินรถเพื่อเชื่อมต่อ 1 สถานีดังกล่าวให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้ว เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) หาก ครม.อนุมัติ ทาง รฟม.จะสามารถว่าจ้างบีอีเอ็มให้ติดตั้งระบบได้ โดยตั้งเป้าเปิดให้บริการเดือน ส.ค. 2560 นี้

ด้าน นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ บีทีเอสซี กล่าวว่า ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์จะหารือกับ รฟม.ในขั้นตอนการเจรจาต่อรองราคา และพิจารณารายละเอียดต่างๆ ร่วมกัน หลังจากบีเอสอาร์ชนะการประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู  คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน ก่อนนำเสนอ ครม.อนุมัติและลงนามสัญญาได้เดือน มี.ค.-เม.ย. 2560 ต่อไป

ภาพประกอบข่าว