posttoday

เที่ยวเรือสำราญโตคอสตาครุยส์ลุยไทย

13 มกราคม 2560

การท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญกำลังเป็นกระแสที่มาแรงในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่คนไทย

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

การท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญกำลังเป็นกระแสที่มาแรงในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่คนไทย ซึ่งที่ผ่านมาคนดังท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญแล้วถ่ายรูปลงในสังคมออนไลน์เกิดกระแสคนทั่วไปอยากเที่ยวแบบนี้ตาม

สมาคมเรือสำราญระหว่างประเทศ หรือซีแอลไอเอ จัดทำแนวโน้มอุตสาหกรรมการล่องเรือสำราญปี 2560 ประเมินว่าการท่องเที่ยวทางเรือสำราญจะเติบโตได้ต่อเนื่อง ปีนี้คาดว่ามียอดผู้เดินทางด้วยเรือสำราญ 25.3 ล้านคน ขณะที่จำนวนเรือลำใหม่ที่จะออกให้บริการปีนี้จะมี 26 ลำ (เก็บตัวเลขจากยอดสั่งซื้อสิ้นสุดเดือน ธ.ค. 2559) ในจำนวนนี้เป็นเรือสำราญเส้นทางทะเล 13 ลำ เส้นทางล่องแม่น้ำ 13 ลำ ซึ่งจะรองรับผู้เดินทางได้เพิ่มขึ้นกว่า 3 หมื่นคน แต่เมื่อรวมเรือสำราญใหม่ที่จะให้บริการเพิ่มตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2569 จะมีถึง 97 ลำ รองรับผู้เดินทางได้เพิ่มขึ้นกว่า 2.3 แสนคน

ทั้งนี้จากการสำรวจตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวที่เป็นสมาชิกสมาคมเรือสำราญระหว่างประเทศ 8 ใน 10 ของกลุ่มนี้ คาดว่าจะทำยอดขายแพ็กเกจเที่ยวเรือสำราญได้มากกว่าปีก่อน ขณะที่ตัวเลขช่วง 10 ปี คือปี 2548-2558 พบว่ายอดผู้โดยสารเรือสำราญทั่วโลกเติบโตถึง 62% โดยยอดผู้โดยสารเรือสำราญเส้นทางเดินทะเลทั่วโลกปี 2558 อยู่ที่ 25.3 ล้านคน ในจำนวนนี้มาจากสหรัฐ 11.28 ล้านคน เยอรมนี 1.81 ล้านคน สหราชอาณาจักร 1.61 ล้านคน ออสเตรเลีย 1.1 ล้านคน จีน 9.86 แสนคน

วาสนา ไพศาลอัคนี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จอยฟูล ฮอลิเดย์ ตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวเรือสำราญ กล่าวว่า ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยรวม ประเทศไทยมีตัวเลขคนเดินทางท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญต่ำเมื่อเทียบประเทศอื่นในภูมิภาค ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากที่ผ่านมาต้องเดินทางด้วยเครื่องบินไปขึ้นเรือสำราญที่ท่าเรือของประเทศอื่น เช่น สิงคโปร์ หรือฮ่องกง

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด คอสตา ครุยส์ กลุ่มบริษัทผู้ให้บริการท่องเที่ยวสัญชาติอิตาลีและบริษัทเดินเรือสำราญ ได้นำเรือคอสตา วิกตอเรีย มาเทียบที่ท่าเรือแหลมฉบัง ใช้เป็นจุดเริ่มต้นการเดินเรือ (โฮม พอร์ต) เป็นครั้งแรก วันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่คอสตา วิกตอเรีย ขยายเส้นทางมาอ่าวไทย และเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่น่าจะขยายตลาดคนไทยเที่ยวเรือสำราญได้มากขึ้นในอนาคต

"คอสตา ครุยส์ อยากพัฒนาตลาดคนไทยเที่ยวเรือสำราญ จึงมาทดลองตลาดใช้แหลมฉบังเป็นโฮมพอร์ตครั้งแรก ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร ถ้าคอสตา ครุยส์ ตัดสินใจใช้แหลมฉบังเป็นโฮมพอร์ต ต่อไปก็เชื่อว่าตลาดท่องเที่ยวเรือสำราญในไทยยังเติบโตได้อีกไกล" วาสนา กล่าว

ด้านบริษัทได้เริ่มจำหน่ายแพ็กเกจเที่ยวเรือสำราญคอสตา วิกตอเรีย ขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อต้นเดือน พ.ย. 2559 โดยราคาแพ็กเกจอยู่ที่ 1.59 หมื่นบาท/คน ครอบคลุมค่าจัดรถบัสจากกรุงเทพฯ มาที่ท่าเรือแหลมฉบัง นอนบนเรือ 4 คืน ล่องเรือ จากไทยไปสีหนุวิลล์ในประเทศกัมพูชา ฟุก๊วกในประเทศเวียดนาม เกาะสมุยในประเทศไทย แล้วกลับมาจอดส่งที่ท่าเรือแหลมฉบัง

ผลปรากฏว่าใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือนก็ปิดการขายได้ 1,500 ที่นั่ง ต่างจากอดีตที่ขายแพ็กเกจล่องเรือสำราญที่ต้องไปขึ้นเรือที่ท่าเทียบเรือประเทศอื่น กว่าจะขายแพ็กเกจได้ 100 คน อาจใช้เวลาครึ่งปี เพราะคนไทยมีพฤติกรรมชอบการจองแบบนาทีสุดท้าย (ลาส มินิท) แต่การจองแพ็กเกจเที่ยวเรือสำราญที่ไปขึ้นยังท่าเทียบเรือประเทศอื่น จะจองแบบลาส มินิท ยาก เพราะจำนวนคนจองจะเต็ม หรือไม่ก็ต้องจ่ายค่าแพ็กเกจแพงมาก เมื่อเทียบกับการจองก่อนล่วงหน้านานๆ แต่เมื่อมาขึ้นเรือที่ท่าเทียบเรือในไทย ก็มีโอกาสจองเดินทางได้

วาสนา ระบุว่า ในการจองแพ็กเกจเที่ยวเรือสำราญครั้งนี้ ขายให้คนไทย 100% ซึ่งพบว่าคนส่วนใหญ่ที่จองไม่ได้สนใจว่าเรือสำราญล่องไปเส้นทางไหนบ้าง แต่จองเพราะต้องการเที่ยวด้วยเรือสำราญ สะท้อนว่าหากคอสตา ครุยส์ ตัดสินใจทำเส้นทางเดินเรือที่เริ่มต้นเดินทางจากท่าเรือแหลมฉบังอีกในอนาคต ก็มีโอกาสเติบโต ซึ่งเชื่อว่า คอสตา ครุยส์ คงรอสรุปผลตอบรับจากการทดลองเดินเรือเส้นทางนี้ในครั้งนี้เพื่อวางแผนในอนาคตส่วนบริษัทก็เตรียมพร้อมทำตลาดเพิ่ม หากมีการเปิดเส้นทางเดินเรือที่ใช้ท่าเรือแหลมฉบังเป็นโฮมพอร์ตจริง

สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายแพ็กเกจเที่ยวเรือสำราญโต 10% ไม่นับการเติบโตจากแพ็กเกจขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนปีที่ผ่านมาหากไม่รวมการขายแพ็กเกจขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมฉบัง บริษัทเติบโต 20% แต่เมื่อนับรวมแพ็กเกจขึ้นเรือที่ท่าเทียบเรือแหลมฉบังแล้ว ปีที่ผ่านมาก็จะเติบโตมากกว่า 100%

ท้ายนี้ วาสนา ระบุว่า อยากให้รัฐเตรียมระบบปฏิบัติการในท่าเรือให้พร้อมรับผู้โดยสารมาขึ้นเรือเพื่อความสะดวก ถ้าทำได้จะเป็นโอกาสของประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมเที่ยวด้วยเรือสำราญเลือกไทยเป็นจุดหมายขึ้นเรือสำราญ ซึ่งกลุ่มนี้นอกจากขึ้นเรือจะแวะเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวอื่นในไทยด้วย

หากไทยเป็นจุดเริ่มต้นเดินเรือสำราญท่องเที่ยวได้ ไม่เพียงเปิดโลกทัศน์ให้คนไทยได้เที่ยวเรือสำราญง่ายขึ้น ก็เป็นโอกาสที่ไทยจะได้ต้อนรับต่างชาติเที่ยวเรือสำราญที่มีกำลังซื้อสูงสอดคล้องกับนโยบายที่ต้องการจับกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับบนมากขึ้น