ดีแทคชูธงบริการ'โก'สู้
ดีแทคเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ภายใต้แนวคิด "FLIP IT-แค่พลิก ชีวิตก็ง่าย" เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
โดย...รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย
ปัจจุบันโลกของการสื่อสารและโทรคมนาคมเติบโตรวดเร็วทำให้ เกิดเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด จนผู้ใช้งานเกิดความกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยีและบริการใหม่ๆ ที่เข้ามาทั้งในเรื่องการให้บริการและค่าใช้จ่าย ดีแทคจึงได้ปรับเปลี่ยนจุดยืนของแบรนด์แพลตฟอร์มครั้งใหญ่ พร้อมกับชูธงรบกับการให้ความสำคัญสินค้าและบริการสร้างความต่างจากเอไอเอส ทรู ที่ลงสู้คอนเทนต์
ลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ภายใต้แนวคิด "FLIP IT-แค่พลิก ชีวิตก็ง่าย" เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ของดีแทคให้ดีขึ้น แต่ไม่ได้เป็นการ เปิดศึกสงครามราคาระลอกใหม่ โดยการสร้างสรรค์สินค้าและบริการให้ลูกค้าได้สัมผัสกับความง่าย และตรงไป ตรงมาในทุกการใช้งาน ด้วยแพ็กเกจ "Go โนลิมิต" และซิม "Go เพลิน" ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทั้งแบบเติมเงินและรายเดือน
ทั้งนี้ เพื่อรองรับบริการทั้งโทร และเล่นอินเทอร์เน็ตแบบไม่อั้น โดยไม่ต้องกังวลกับเน็ตหมด หรือลดความเร็วการใช้งาน จากปัจจุบัน เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วการใช้งานความเร็วอินเทอร์เน็ตตามโควตา แต่ ดีแทคนำเสนออินเทอร์เน็ตความเร็ว แบบไม่อั้น ให้ลูกค้าได้เลือกรูปแบบ แพ็กเกจได้ตามไลฟ์สไตล์แบบไม่มีจำกัด ทั้งฟังเพลง แชต ชมคลิปวิดีโอออนไลน์ และเล่นเกม และยังโทรฟรีทั้งเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมงไม่อั้น โดยไม่มีเงื่อนไขจากเดิมให้โทรฟรีตามโควตาในช่วงเวลาพิเศษ
สำหรับลูกค้าเติมเงิน (พรีเพด) แพ็กเกจเติมเงินที่ให้ลูกค้าหมดกังวลเรื่องเน็ตรั่วในราคาเริ่มต้น 15 บาท ด้วยเน็ตพื้นฐาน ส่วนลูกค้ารายเดือน (โพสต์เพด) ให้ลูกค้าสามารถใช้เน็ต ได้ไม่อั้นแบบไม่ลดสปีด ในแพ็กเกจ ราคาเริ่มต้น 499 บาท พร้อมนำเสนอบริการ ไว-ไฟ คอลลิ่ง (Wi-Fi Calling) ให้ลูกค้าดีแทคสามารถโทรกลับหรือ รับสายผ่านสัญญาณ Wi-Fi จาก ทั่วทุกมุมโลกเหมือนอยู่ในไทย ในอัตราค่าบริการตามแพ็กเกจเดิม ไม่ต้อง เสียค่าบริการเพิ่ม และฟังเพลงสตรีมมิ่งฟรีได้ 130 ล้านเพลง นั่นคือหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญ
"ดีแทคใช้เม็ดเงินลงทุนปี 2560-2561 ราว 1.7-2 หมื่นล้านบาท สำหรับการลงทุนโครงข่าย ได้พัฒนาซูเปอร์ 4จี ด้วยการขยายจำนวนสถานีฐาน ที่ปัจจุบันมี 1.7 หมื่นสถานีฐาน และโครงข่ายภายในอาคารเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่องทุกอำเภอทั่วประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้เน็ตที่ลื่นที่สุดบนคลื่น 1800 MHz ที่กว้างที่สุดในประเทศไทยที่มีถึง 20 MHz" นอร์ลิ่ง กล่าว
การปรับตัวของดีแทคที่เน้นการ นำเสนอแพ็กเกจการโทรและอินเทอร์เน็๋ต มาจากพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต คนไทย 44 ล้านคน ในช่วง 1 วัน ราว 6.4 ชม. คาดว่าปี 2564 จำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มจาก 50 ล้านเครื่อง เป็น 80 ล้านเครื่อง ประการสำคัญมาจาก 5 เทรนด์ ได้แก่ 1.ปริมาณนักท่องเที่ยวทั่วโลกในปี 2559 เพิ่ม 1,235 ล้านคน กับแรงงานข้ามชาติทั่วโลก 244 ล้านคน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยในไทยมีนักท่องเที่ยวเข้าไทย 33 ล้านคน โต 70% คนไทยไปต่างประเทศ 7 ล้านคน ส่งผลให้การใช้งานเพิ่มขึ้น
ในส่วนเทรนด์ 2.ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของกลุ่มค้าปลีกเติบโต 3.เกิดสังคม ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่ใหญ่และมีการ ใช้งานโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นจากในปี 2558 ผู้มีอายุมากกว่า 65 ปี มีราว 800 ล้านคนทั่วโลก อีก 35 ปีเพิ่มเป็น 1,800 ล้านคน 4.พฤติกรรมต้องการ มีส่วนร่วมกับสังคมและเรื่องราวดีๆ 5.เทรนด์การซื้อสินค้าออร์แกนิกเกิดขึ้นทั่วโลก
จากกลยุทธ์การสร้างความ พึงพอใจของผู้ใช้งาน และขจัดความกลัวเน็ตฟุบ การโทรฟรี ผลักดันให้ ดีแทคมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 25 ล้านราย รวมถึงมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น ผลักดัน รายได้และผลกำไรกลับมาเติบโต เหมือนเดิมอีกครั้ง