เอ-วันขยายฐาน ปั้นมิตรบีชลุย 5 ดาว
จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์พัทยาเป็นหนึ่งในจุดหมายท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากต่างชาติมานาน เป็นจุดหมายที่มีการลงทุนโรงแรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งโรงแรมถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย ทำให้มีปัญหาที่พักมากเกินความต้องการ (โอเวอร์ซัพพลาย) ถือเป็นความท้าทายทั้งผู้ประกอบการรายเดิมที่ทำโรงแรมอยู่แล้วและหน้าใหม่ที่ต้องการเข้ามา
จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
พัทยาเป็นหนึ่งในจุดหมายท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากต่างชาติมานาน เป็นจุดหมายที่มีการลงทุนโรงแรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งโรงแรมถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย ทำให้มีปัญหาที่พักมากเกินความต้องการ (โอเวอร์ซัพพลาย) ถือเป็นความท้าทายทั้งผู้ประกอบการรายเดิมที่ทำโรงแรมอยู่แล้วและหน้าใหม่ที่ต้องการเข้ามา
สมชัย รัตนโอภาส ประธานบริหาร โรงแรมเอ-วัน กรุงเทพฯ และพัทยา เปิดเผยว่า เตรียมเปิดตัวมิตร บีช โฮเต็ล พัทยา โรงแรม 5 ดาวแห่งแรกของกลุ่มเอ-วันอย่างเป็นทางการ วันที่ 28 ก.ค.นี้ หลังทดลองเปิดให้บริการไม่เป็นทางการมากว่า 1 เดือน ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับน่าพอใจ มีนักท่องเที่ยวตลาดระดับบนสนใจมาใช้บริการบ้างแล้ว โดยโรงแรมนี้ลงทุนไปกว่า 1,000 ล้านบาท มีห้องพัก 250 ห้อง พร้อมห้องประชุมที่รองรับตลาดสัมมนาขนาดใหญ่ได้
เมื่อรวมกับห้องพักของโรงแรมเอ-วัน อีก 3 แห่งที่มีอยู่เดิม คือ เอ-วัน พัทยา บีช รีสอร์ท เอ-วัน เดอะ รอยัล ครูซ และ เอ-วัน สตาร์ ทำให้กลุ่มเอ-วัน มีห้องพักในพัทยาเกือบ 1,100 ห้องแล้ว ครอบคลุมตั้งแต่ระดับ 3-5 ดาว ดังนั้นหากมีกลุ่มประชุมสัมมนาที่มีผู้ร่วมงาน 1,000-1,500 คน โรงแรมทั้งหมดในกลุ่มก็รองรับได้
ทั้งนี้ ปีแรกตั้งเป้าหมายว่า มิตร บีช โฮเต็ล พัทยา ควรทำอัตราเข้าพักได้อย่างต่ำ 60% ส่วนปีหน้าซึ่งเปิดบริการเต็มปีควรทำอัตราเข้าพักได้ 80% ซึ่งนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ยอดจองห้องพักในพื้นที่นี้คึกคักขึ้น แต่คงยังไม่ได้ช่วยเต็มที่ เนื่องจากโครงการต่างๆ ยังไม่เริ่ม
สมชัย กล่าวว่า ทำโรงแรมในพัทยามา 29 ปีแล้ว สิ่งที่พบคือตลาดพัทยาเปลี่ยนแปลงอย่างมาก มีชุมชนหนาแน่นขึ้น คนมาลงทุนมากขึ้น จนทำให้การลงทุนขยายบริเวณออกไปถึงย่านแหลมฉบัง มีการลงทุนโรงแรมแทบทุกเมืองใน จ.ชลบุรี ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวเปลี่ยนจากช่วงแรก ตลาดหลักคือยุโรป ออสเตรเลีย ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นตลาดเอเชีย เริ่มจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน จนกระทั่ง 1-2 ปีที่ผ่านมาเริ่มมีตลาดระยะใกล้อย่างเมียนมา เวียดนาม กัมพูชา มาเที่ยวมากขึ้น
"ตลาดนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการเป็นตลาดระยะใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะการเดินทางสะดวกขึ้น ส่วนตลาดระยะไกลเริ่มน้อยกว่าเดิม" สมชัย กล่าว
สำหรับการทำราคาห้องพัก หากโรงแรมมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องให้ทันสมัย สอดรับกับแนวโน้มในปัจจุบันก็จะสามารถทำราคาดีขึ้นได้ แต่ถ้าโรงแรมไหนปล่อยให้ห้องพักโทรมลงเรื่อยๆ ทิ้งตัวโรงแรมให้อยู่แบบเดิมไม่ทำอะไร ราคาห้องพักก็จะตกลงไปเรื่อยๆ
สมชัย มองว่า จุดหมายอย่างพัทยาเป็นตลาดปราบเซียน เป็นตลาดที่ยากสำหรับผู้ประกอบการ เพราะคู่แข่งมากและเป็นตลาดที่ยังจำเป็นต้องพึ่งพาบริษัทนำเที่ยวอยู่ หากพึ่งพาแต่ตลาดนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเอง (เอฟไอที) อาจได้ลูกค้าใช้บริการแค่ช่วงวันศุกร์-อาทิตย์ ส่วนวันธรรมดาก็จะเงียบ หลายโรงแรมที่เป็นโรงแรมขนาดเล็ก มีแต่ห้องอาหาร ไม่มีห้องประชุม สัมมนา จะประสบปัญหานี้ เพราะไม่สามารถรองรับตลาดประชุม สัมมนาในวันธรรมดาได้เลย ส่วนอาหารในห้องอาหารก็ให้บริการได้แค่ช่วงเช้าที่เป็นมื้ออาหารพ่วงห้องพัก ส่วนมื้ออื่นขายยากเพราะนักท่องเที่ยวไปรับประทานนอกโรงแรม
ขณะที่โรงแรมขนาดใหญ่ก็มีปัญหาอีกอย่าง อาจมีห้องสัมมนา สามารถรองรับตลาดประชุม สัมมนาในวันธรรมดาได้ แต่ถ้าหาลูกค้าเข้าพักไม่เก่งก็ลำบาก จำเป็นต้องมีช่องทางตลาดหลายๆ ช่องทาง เพื่อเติมเต็มผู้ใช้บริการห้องพัก จึงต้องพึ่งพาบริษัทนำเที่ยวที่พาคณะทัวร์มาด้วย
อย่างไรก็ตาม พัทยาเป็นจุดหมายที่ทั่วโลกรู้จัก ถึงอย่างไรก็ยังเติบโตต่อได้ และเมืองพัทยาก็เข้ามาบริหารจัดการ ดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมดีขึ้น ก็เป็นอีกส่วนที่จะเป็นผลดีกับพัทยาในระยะยาว นอกจากนี้อนาคตอาจมีการลงทุนรถไฟฟ้าจากกรุงเทพฯ มายังพัทยา ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะยิ่งทำให้พัทยาเจริญขึ้น คมนาคมสะดวกขึ้น ย่อมทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้นแน่นอน
ทางด้าน เอ-วัน ไม่กังวลกับการแข่งขันทั้งกับโรงแรมไทยและโรงแรมระดับนานาชาติเพราะอยู่ในตลาดมานาน กลยุทธ์ที่ใช้คือปรับปรุงโรงแรมตลอดทุกปี เช่น เปลี่ยนร้านค้า ปรับการแตกต่ง ทำให้เห็นการเคลื่อนไหว นอกจากนี้ ยังลงทุนสร้างห้องพักเพิ่ม เน้นในรูปแบบที่แปลกใหม่จากเดิมที่เคยมี เช่น สร้างเอ-วัน สตาร์ เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งห้องพักมีขนาดเล็ก แต่กระแสตอบรับดีมาก อัตราเข้าพักทำได้ระดับ 80% ตลอดทั้งปี แม้เป็นช่วงที่ไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) ก็ตาม โดยช่องทางการขายห้องพักมาจากออนไลน์ถึง 60% ตัวโรงแรมขายได้โดยไม่ต้องทำตลาดมาก เพราะถึงแม้ห้องพักเล็กแต่โดดเด่นเรื่องทำเลที่อยู่ใกล้หาด อยู่ใจกลางเมืองพัทยา
นอกจากนี้ ยังปรับปรุงสระว่ายน้ำเดิมหน้าโรงแรมเอ-วัน เดอะ รอยัล ครูซ ให้กลายเป็นบีช คลับ ชื่อ แฟต โคโค บีช คลับ ตั้งเป้าหมายผลักดันเป็นจุดหมายด้านความบันเทิงที่นักท่องเที่ยวเมื่อมาพัทยาแล้วต้องแวะมา และเป็นสถานที่จัดปาร์ตี้ริมสระน้ำ (พูล ปาร์ตี้) ที่ดีที่สุดในพัทยา ซึ่งหลังเปิดให้บริการก็ได้รับเสียงตอบรับดี โดยเร็วๆ นี้ก็จะมีกิจกรรมต่อเนื่อง
จะเห็นว่าแม้เป็นโรงแรมแบรนด์ไทยๆ แต่หากรู้จักปรับตัวตลอดเวลาก็รับมือคู่แข่งระดับนานาชาติได้ไม่ยาก