รถเมล์สายใหม่ 8 เส้นทาง เริ่มทดลองวิ่ง 15 ส.ค.นี้
รถเมล์สายใหม่ 8 เส้นทางเริ่มทดลองวิ่ง 15 ส.ค.-15ก.ย.นี้ พร้อมเร่งเปิดประมูลเส้นทางนำร่อง 10 สาย
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เปิดเผยว่า ขบ.เตรียมเปิดทดลองเดินรถ 8 เส้นทางเป็นระยะเวลา 1 เดือนตั้งแต่ 15 ส.ค.-15ก.ย. ตั้งแต่เวลา 06.30 น. – 18.30 น โดยนำรถโดยสารมาวิ่งให้บริการเส้นทางละ 5 คัน ประกอบด้วย
1.สายที่ G21 รังสิต - ท่าเรือพระราม 5 (เทียบเคียงสาย 114 อ.ต.ก. 3 – แยกลำลูกกา)
2.สายที่ G59E มีนบุรี – ท่าเรือสี่พระยา (ทางด่วน) (เทียบเคียงสาย 514 มีนบุรี – ถ.รัชดาภิเษก – สีลม)
3.สายที่ R3 สวนหลวง ร.9 – สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ (เทียบเคียงสาย 11 อู่เมกา บางนา – มาบุญครอง)
4.สายที่ R41 ถนนตก – แฮปปี้แลนด์ (เทียบเคียงสาย 22 อู่โพธิ์แก้ว – สาธุประดิษฐ์)
5.สายที่ Y59 สถานีรถไฟชุมทางตลิ่งชัน – กระทุ่มแบน (เทียบเคียงสาย 189 สนามหลวง – กระทุ่มแบน)
6.สายที่ Y61 หมู่บ้านเศรษฐกิจ – สถานีขนส่งจตุจักร (เทียบเคียงสาย 509 สถานีขนส่งจตุจักร – บางแค)
7.สายที่ B44 วงกลมพระราม 9 – สุทธิสาร (เทียบเคียงสาย 54 วงกลมรอบเมืองห้วยขวาง)
8.สายที่ B45 หมู่บ้านเอื้ออาทรบึงกุ่ม – ท่าเรือสะพานพุทธ (เทียบเคียงสาย 73 อูโพธิ์แก้ว – สะพานพุทธ)
นายสนิทกล่าวต่อว่า ขบ.เตรียมเปิดเชิญชวนให้เอกชนเข้าแข่งขันประมูลเส้นทางเดินรถอีก 10 เส้นทาง ซึ่งได้เปิดรับคำขอแล้วสองเส้นทาง ได้แก่ สายที่ R26E สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์-โรงพยาบาลรามาธิบดี (ทางด่วน) และ สายที่ Y70E มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา-สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต (ทางด่วน) โดยมีกำหนดการเปิดรับคำขอถึงวันที่ 8 ก.ย.
สำหรับหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนในการเข้าประมูลเส้นทางเดินรถนำร่องทั้ง 10 สายนั้น ขบ.ได้กำหนดหลักเกณฑ์ให้เอกชนผู้เข้าเสนอต้องเป็นนิติบุคคลเพื่อเป็นหลักประกันในการรับผิดชอบผู้โดยสาร นอกจากนี้ผู้ประกอบการต้องมีรถโดยสารจำนวน 12-18 คัน ในเส้นทาง Y70E และ จำนวน 12-16 คันในเส้นทาง R26E ซึ่งกำหนดเป็นรถโดยสารมาตรฐานแบ่งเป็น รถโดยสารมินิบัสไม่เกิน 21 ที่นั่งและรถโดยสารจำนวน 30 ที่นั่ง รวมเที่ยววิ่งขั้นต่ำ 48 เที่ยวต่อวัน คาดว่าจะได้ตัวเอกชนภายในปีนี้ ส่วนที่เหลืออีก 8 เส้นทางอยู่ระหว่างคัดเลือกเส้นทางเพื่อเปิดประมูลคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ อาทิเส้นทาง มีนบุรี-สนามหลวง
นายสนิท กล่าวต่อไปอีกว่า ตามแผนปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีการกำหนดรายละเอียดชื่อเส้นทาง เพื่อสร้างความเข้าใจและการจดจำอย่างเป็นระบบในเชิงพื้นที่ เบื้องต้น จึงได้กำหนดหมายเลขเส้นทางเป็นลักษณะเขตพื้นที่แบ่งเป็น 4 โซน และกำหนดทั้งสัญลักษณ์เชิงสี หมายเลขเส้นทางที่ไม่เกิน 2 หลัก และตัวอักษร ที่จะทำให้เข้าใจง่ายมากขึ้น สังเกตเห็นได้ชัดเจน โดยใช้หลักการเชิงพื้นที่เดิมที่มีจำนวน 8 เขตการเดินรถ แบ่งเป็นโซนดังนี้ เขตการเดินรถที่ 1, 2 กำหนดเป็นโซนพื้นที่สีเขียว (Green: G) เขตการเดินรถที่ 3, 4 กำหนดเป็นโซนพื้นที่สีแดง (Red: R) เขตการเดินรถที่ 5, 6 กำหนดเป็นโซนพื้นที่สีเหลือง (Yellow: Y) และเขตการเดินรถที่ 7, 8 กำหนดเป็นโซนพื้นที่สีน้ำเงิน (Blue: B) และเพื่อป้องกันความสับสนสำหรับเส้นทางที่มีต้นทางปลายทางเดียวกันแต่บางช่วงของเส้นทางมีการใช้ทางด่วน จึงได้กำหนดตัวอักษรเพื่อความเข้าใจคือ Expressway: E
อย่างไรก็ตามเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน กรมการขนส่งทางบกได้เปิดรับฟังความคิด ข้อเสนอแนะ ข้อแนะนำ ข้อสังเกต ในเรื่องของการจัดระบบหมายเลขเส้นทาง ทางแฟนเพจ Facebook ในชื่อ การปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ กทม. หรือ URL: http://www.facebook.com/BusRerouteBKK/ เพื่อนำข้อเสนอแนะและความคิดเห็นมาวิเคราะห์ ประเมินผล และพิจารณาปรับเปลี่ยนการดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน